รายงานเวรเสาร์ 18 ก.ค. 52
😉 นานทีไม่เคยเขียนรายงานเวรลงบล็อกเลย ด้วยความที่ปกติวันธรรมดาไม่ค่อยมีเหตุการอะไรที่แปลกไปจากทุกๆวันสักเท่าไหร่ มาวันนี้ได้อยู่เวรอีกครั้ง และตรงกับวันเสาร์จึงขอเล่ารายการให้ทราบกัน
วันนี้มาตอนเช้า ก็ไม่เช้าเท่าไหร่ทุกอย่างดูเงียบอยู่ ก็ไปเซ็นชื่อตามปกติ ตามด้วยเซ็นชื่อให้ลูกเวรที่มาแล้ว จากนั้นก็ไปเก็บกระเป๋าที่ชั้น2 เปิดไฟรอบรอบเท่าที่จะหาสวิตไฟเจอ เดินลงมาชั้น1 อีกครั้งเพื่อตรวจรายชื่อลูกเวรทีมาภายหลังและเซ็นชื่อให้ลูกเวรที่เคารพทั้งหลาย แต่ไม่ได้สายนะ จากนั้นก็เดินตรวจรอบรอบบริเวณของแต่ละชั้นในความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบแต่ละชั้นก็พบว่า เจ้าหน้าที่คนใดที่อยู่เวรเป็นประจำจะสามารถทำหน้าที่ของตนได้อย่างไม่ขาดตกหล่น ส่วนเจ้าหน้าที่คนใดที่ไม่ได้อยู่เวรบ่อยนักก็จะหลงลืมหน้าที่ของตนบ้างซึ่งก้จะเกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่รายย่อย (รายใหญ่คือรายที่อยู่เป็นประจำหรือจะเรียกว่าเป็นยากูซ่า อิอิ) กับหน้าที่รายจุกจิก เมื่อตรวจตราเป้นที่เรียบร้อยแล้วก็ ขึ้นมาประจำหน้าที่และตำแหน่งอันทรงเกียรติที่ชั้น2 เพื่อให้บริการสารนิเทศ บรรยากาศในช่วงเ้ช้าผู้ใช้ยังมีน้อยอยู่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นนักศึกษามศก. พอเริ่มจะเที่ยงวันจำนวนผู้ใช้ได้เิพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่ชั้น 1 ,2, 3…… และบริการสารนิเทศก็ขายดีกับผู้ใช้ภายนอกเช่นเคย เริ่มบริการตั้งแต่ผู้ใช้คนแรก
1. ผู้ใช้ภายนอก ต้องการสืบค้น Fulltex ข้อมูลเรื่อง Low-dose aspirin and vitamin E in people at cardiovascular risk: a randomised trial in general practice ซึ่งมีข้อมูลมาแต่ชื่อ จึงถามว่าเป็นข้อมูลเกี่ยวกับอะไร ผู้ใช้บอกว่าทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ จึงแนะนำให้ผู้ใช้ลองสืบค้นจากฐานข้อมูลก่อน ตอนแรกแนะนำไปที่ Sciencedirect และSpringerLink และเราก้ลองค้นด้วย ก็ยังไม่เจอ
จึงลองใช้ฐาน.EBSCO ปรากฏว่าค้นเจอ จึงแนะนำผู้ใช้ใหม่ จากนั้นจึงให้บริการสำเนาข้อมูลลงแผ่นและคิดค่าบริการไปตามระเบียบ
2.บริการตอบคำถามผู้ใช้ภายนอก โดยส่วนใหญ่จะมาถามเกี่ยวกับว่า ต้องการหนังสือ รายงานการวิจัย วิทยานิพนธ์ ชื่อนี้ ประเภทนี้ มันอยู่ตรงไหน มีมั๊ย จึงแนะนำให้ผู้ใช้ไปสืบค้นที่เครื่อง OPac และกำหนดความต้องการเป็นคำสืบค้นสั้นสั้น
3.นักศึกษาปี 1 จะยืมหนังสือ ยืมที่ไหน? ต้องทำยังไงบ้าง? ไม่มีบัตรแจ้งชื่อยืมได้มั๊ย? จะเอาหนังสือไปถ่ายถ่ายเอกสารตรงไหน?ตอบ ยืมที่ชั้น1บริเวณเคาร์เตอร์ยืม-คืน /หากไม่มีบัตรให้ทำบัตรห้องสมุดก่อน เอกสารที่ต้องใช้ คือ รูปถ่าย 1 นิ้ว 1 รูป พร้อมใบเสร็จค่าลงทะเบียนติดต่อบริการยืม-คืนหรืออ่านรายละเอียดได้ที่ป้ายทางเข้าบริเวรรับฝากของ ชั้น1/ไม่มีบัตรไม่สามารถให้ยืมออกได้/หยิบหนังสือ เดินออกนอกประตู เลี้ยวขวา เปิดประตูห้องถ่ายเอกสารบอกเจ้าหน้าที่ว่าผมเอาหนังสือมาถ่ายครับ เฮ่ย!ถามไปได้
4.บริการสืบค้นหนังสือ ชื่อ พระราชวังมฤคทายวัน ว่ามีให้บริการที่ไหนบ้าง ผลการสืบค้นพบว่ามีให้บริการอยู่ที่ห้องสมุดคณะสถาปัตยกรรม (Architecture Faculty Library)
5.หาตัวเล่มวิทยานิพนธ์ให้ผู้ใช้ ผู้ใช้บอกหาไม่เจอ ผลการสืบค้น หาเจออยู่บนชั้นปกติ ตัวเล่มยาวกว่าปกติ บางกว่าวิทยานิพนธ์ทั่วไป
6.หาตัวเล่มหนังสือ HV7955 ต52 2551(หาไม่เจอ) สถานะ On Shelves แต่ไม่มีบนชั้น ชั้นพัก โต๊ะหนังสือ รถเข็น
7.บริการยืมระหว่างวิทยาเขต 4 เล่ม
8.ตอบคำถามและบริการสืบค้นวิทยานิพนธ์ที่เกี่ยวกับดนตรี
9.บริการตอบคำถามและช่วยการค้นคว้าหนังสือเรื่อง บทบาทของพระราชวังสนามจันทร์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยุ่หัวด้านการเมืองการปกครอง (ผู้ใช้หาไม่เจอ)ผลการสืบค้นพบว่าตัวเล่มมีให้บริการอยู่ที่ชั้น2 ตึกม.ล.ปิ่น ห้องข้อมูลท้องถิ่นภาคตะวันตก
10.บริการตอบคำถามและช่วยค้นคว้าผู้ใช้หาหนังสือไม่เจอ Q123อ64 2544 ซึ่งเป็นพจนานุกรมวิทยาสาสตร์ ผลการสืบค้นแจ้งกลับผู้ใช้ว่า อยู่ชั้น1ห้องอ้างอิงค่ะ
11.ตอบคำถามการใช้บริการสืบค้นฐานข้อมูลจากนอกมหาวิทยาลัย
12.บริการยืมระห่างวิทยาเขต 2 เล่ม
13.บริการถ่ายเอกสารวิทยานิพนธ์ 1 เรื่อง
14.แนะนำฐานข้อมูลสืบค้นวิทยานิพนธ์ ThaiLis
15.บริการสำเนาข้อมูลFulltext วิทยานิพนธ์ลงแผ่น CD
16.ตอบคำถามอื่นๆ
กิจกรรมอื่นๆก้มีมากมายให้ต้องลุกเดินอยู่ตลอดเลยวันนี้เริ่มจากผู้ใช้มักหาหนังสืือไม่เจอ อันมาจากสาเหตุทั้ง2ประการหญ่ายๆว่า1.ผู้ใช้ค้นหาไม่เป็นจึงไม่พบตัวเล่ม 2.หนังสือแสดงสถานะว่าOn Shelves แต่ไม่ปรากฏตัวเล่มที่ชั้น ที่ชั้นพัก ที่โต๊ะ และที่รถเข็น เฮ่ยเป็นปัญหาโลกแตกจิงๆไม่รู้ไปเที่ยวเล่นอยู่ซอกมุมไหน วันนี้มีทั้งหาเจอและไม่เจอ วิ่งลงกันจนผอมเลย
เรื่องราวอื่นๆก็เห้นจะไม่มีอะไร เพราะลูกเวรน่ารักทุกคน..เหลือแต่หัวหน้าเวรเองที่ไม่ค่อยจะรู้อะไร ได้แต่แกะไปทีละนิดๆ
ผู้ใช้วันนี้มีมาใช้บริการกันหนาตา อบอุ่นเลยทีเดียว แต่อีกใจก็จะมากันทำไมแย่งอากาศร้อนจะตายยังนั่งกันอยู่ได้ตั้งนานนาน และมาเริ่มทะยอยออกกันราวประมาณตอนเจ้าหน้าที่เปิดเทปเสียงใสใสประกาศนั่นแหละถึงเคลื่อนตัวกันอย่างเห้นได้ชัด
สรุปได้ว่าวันนี้ บริการสารนิเทศคึกคัก ห้องสมุดคึกครื้นจ้า 😆
เก็บของเร็วจะได้กลับแล้วเย้เย้…+ๅๅ
13 thoughts on “รายงานเวรเสาร์ 18 ก.ค. 52”
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
เมื่อพูดถึงเรื่องการอยู่เวร O.T. เมื่อทุกคนได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานตามหน้าที่ตามตารางเวรที่จัดให้ ทุกคนต้องศึกษาว่าหน้าที่ของตนเอง ต้องปฏิบัติงานอย่างไรบ้าง ต้องทำอะไรบ้าง ก่อนเตรียมการให้บริการ ขณะบริการ และก่อนจะปิดการบริการ ในหน้าที่ของตนเอง ถึงแม้ว่าบางคนจะไม่ค่อยได้อยู่บ่อย ก็ให้สอบถามเพื่อนร่วมงานที่เขาเคยอยู่ประจำ ว่าหน้าที่ตรงนี้เขาทำอะไรบ้าง
ยกตัวอย่างเช่น การเปิดไฟรอบอาคาร ไฟหน้าอาคาร หรือไฟนอกห้องอ่าน (บริเวณทางเดิน) ไฟบริเวณโถงแสดงนิทรรศการ ชั้น 1 หน้าทีไหนต้องเป็นคนปฏิบัติ และต้องเปิดช่วงเวลาไหน ขอให้ทุกท่านที่อยู่ปฏิบัติงาน O.T. ศึกษาด้วย โดยเฉพาะหน้าที่บริเวณรับฝากของและตรวจทางเข้าออก ทั้งสองอาคาร ให้ศึกษาหน้าที่ของตนเอง ว่าใช่เป็นหน้าที่ของตนเองหรือไม่ เพราะเท่าที่สังเกต เมื่อถึงเวลาจวนจะพลบค่ำแล้ว เริ่มจะมืดแล้ว บริเวณดังกล่าว ยังไม่ได้เปิดไฟเลย ผู้เขียนบล๊อกเองในฐานะที่อยู่เวร O.T. แต่ทำหน้าที่ช่วยยืมคืน จะพบอยู่บ่อย ๆ บางทีก็จะเดินไปเปิดให้ แต่บางทีก็จะร้องตะโกน (เบา ๆ) ข้ามฝั่งไปบอกเจ้าหน้าที่ที่นั่งปฏิบัติงานอยู่ตรงข้าม (รับฝากของและตรวจทางเข้า) ว่า เปิดไฟตรงนั้น ตรงนี้ได้แล้ว และเปิดไฟสปอร์ตไลท์ด้านหน้าหอสมุดฯ ด้วยนะ (ยกเว้นถ้าฝนตก ฟ้าร้อง) ก็ไม่ต้องออกไปเปิดไฟสปอร์ตไลท์ สำหรับไฟรอบอาคาร ม.ล. ปิ่นฯ ก็เช่นกัน บางทีเห็นมืดแล้วยังไม่ได้เปิดเลย ก็ขอให้ทุกท่านที่มีหน้าที่รับผิดชอบบริเวณดังกล่าวช่วยกันดูแลด้วย (ให้เป็นกิจวัตร) เดี๋ยวมันก็จะฝังเข้าไปในจิตใจเอง พอเห็นแสงสว่างเริ่มจะมืดลงแล้ว (พลบค่ำแล้ว) ก็จะลุกไปเปิดไฟทันที หรือเดินผ่านไปผ่านมาเห็นมืดแล้ว ก็ให้เปิดไฟจะได้แล้ว และขอฝากด้วย เวลาใกล้เวลาจะปิดบริการ ขอให้ดูเรื่องไฟในแต่ละจุดให้เรียบร้อย โดยเฉพาะตามหลีบห้องอ่านชั้น 4 (โซนนวนิยาย) ห้องปริญญานิพนธ์ มักจะลืมกันเป็นประจำ และท้ายสุด ขอฝากเรื่องปูกระสอบ เวลาฝนตกด้วย เมื่อฝนเริ่มตกก็ให้เริ่มปูได้แล้ว ไม่ใช่รอให้ฝนตกหนักแล้วค่อยออกไปปู
ตอบท่านหัวหน้าเวรที่เคารพพอดีเข้าไปอ่านรายงานเวรเจอว่าหัวหน้าเวรหาหนังสือไม่เลขเรียกที่ท่านหามันจะหาพบได้อย่างไรในเมื่อเลขเรียกที่ท่านบอกมันมีตัวเล่มหนังสือ (เลขเรียกผิดหรือเปล่า อิอิ)
ทั้งหัวหน้าเวรกับลูกเวรรรร….น่าร้ากกกกก ค่ะ มองโลกแบบชิวๆ แซวกันไปกันมา พวกเราก็จะได้วิทยายุทธ์ติดตัวมาแบบบังเอิ้นบังเอิญ
ขอถามข้อสงสัยนะคะ ว่าการรายงานเวรประจำวัน O.T. ลงใน บล๊อกนี้ กับการรายงานเวรเสนอหัวหน้าหอสมุด เหมือนกันหรือไม่คะ
เข้าไปอ่านการรายงานเวรประจำวัน O.T. วันเสาร์ที่ 18 ก.ค.52 ยังขาดตกหล่นอีก 1 ข้อนะคะ คือ ก่อนจะปิดหอสมุด ปรากฎว่า สวิทช์ไฟเครื่องปรับอากาศแยกส่วนสำหรับเปิดในห้อง Server เกิดขัดข้อง ไม่สามารถเปิดสวิทซืให้ทำงานได้ เนื่องจาก ปุ่ม OFF เกิดขัดข้อง ยุบลงไปค้าง ทำให้ไม่สามารถกดสวิทซ์ ON ให้ทำงานได้ ดิฉันจึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งช่างไฟฟ้า ณ ศูนย์ยาม 50 ปี ให้มาดำเนินการแก้ไขให้ด่วน เนื่องจากห้อง Server ต้องการความเย็นอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่เปิดแค่ 1 คืน เกรงว่าจะเกิดความเสียหายกับเครื่องคอมฯ ในห้อง Server ได้ หลังจากช่างไฟฟ้ามาดำเนินการแก้ไขให้เสร็จเรียบร้อย สวิทช์ไฟใช้ตามปกติ ได้ถามช่างไฟฟ้าว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ช่างแจ้งว่า น่าจะเกิดจากการกดแรงเกินไป ทำให้ค้าง ในฐานะที่ดิฉันดูแลด้านอาคารสถานที่ฯ จะได้ดำเนินการแจ้งให้ช่างจากบริษัท เอ.เอ็ม.อี. มาดำเนินการตรวจสอบต่อไปภายหลัง และจักได้ทำป้ายข้อความว่า ให้กดเบา ๆ ติดที่ปุ่มกดสวิทซ์เครื่องปรับอากาศต่อไป
ขอบคุณสำหรับคำถามนะคะ(เหมือนตอนนางสาวไทยตอบคำถามเลย อิอิ)
สำหรับเรื่องการเขียนรายงานเวรประจำวันO.Tลงในบล็อก กับรายงานเวรประจำวันเสนอหัวหน้าขอสมุด ต่างกันค่ะ ในบล็อกแนวการเขียนจะเป็นการเล่าเรื่องราวในเชิงสรา้งสรรค์และได้อัถรสมากกว่าการนำเสนอแบบเอกสารสิ่งพิมพ์ที่ต้องออกแนววิชากการนิดนึง ไม่สามารถระบายความรู้สึกทั้งหมดที่อัดอั้นตันใจได้ แต่สำหรับในบล็อกเราสามารถระบายได้ รวมทั้งสามารถโต้ตอบและเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันได้อีกด้วย อย่างที่เรากำลังทำอยู่นี่ไงคะ (จากความเข้าใจส่วนตัวนะคะว่ามันน่าจะเป็นแบบนี้และก็ทำแบบนี้อยู่คะ)
สำหรับเรื่องที่สองเกี่ยวกับเหตุขัดข้องของ สวิตช์ OFF เครื่องปรับอากาศ ไม่ทำงานนั้น และได้รับการแก้ไขจากช่างไฟ ได้เขียนไปในรายงานเวรแล้วค่ะ
ตอบพี่บุญตาค่ะ เพราะอ้อเป็นคนแรกที่ริเริ่มเขียนรายงานเวรลงblogเป็นคนแรก รายงานเวรที่ลงblog กับที่ส่งหัวหน้าหอสมุดไม่เหมือนกันค่ะ เพราะพี่แมวบอกว่า blog ไม่ใช่คอบตอบสุดท้าย การเขียนลง blog จึงเล่าเรื่องราบความเป็นไปในระหว่างอยู่เวรที่อยากบอกเล่าเพื่อนได้ทราบ เพราะบางครั้งการอยู่เวรคนละหน้าที่ คนละตึก ก็เจอะเจออะไรที่แตกต่างกันได้ บางที่สิ่งที่เราคิดว่าไม่เป็นปัญหาเพราะแก้ไขได้ แต่คนอื่นเห็นเป็นปัญหาเพราะแก้ไขไม่ได้ หากบอกเล่าคนที่อ่านจะได้รู้เป็นแนวทางว่า อ้อ!คนอื่นๆเค้าก็พบเค้าแก้กันอย่างนี้ และสิ่งที่เราแก้ไปแล้วบางครั้งเราลืนเล่าลืมเขียนก็หายไปกับสายลมและแสงแดด
ขอชมน้องยาค่ะอยู่เวรแล้วได้งานมากมาย อย่างนี้หอสมุดไปรุ่งเเรืองแน่นอน ช่วยกันทั้งลูกเวรหัวหน้าเวรหอสมุดก็ได้รับคำชมแน่นอน ต่อไปพี่ๆ ก็ล้างมือในอ่างทองคำได้แล้ว สบายใจจัง5555555555
ตอบคำถามของคุณRungtiwa ต้องขออภัยมาณที่นี้ สำหรับเลขหมู่ที่นำไปอ้างอิง จากการตรวจสอบแล้วพบว่า ข้าพเจ้านำเลขมาเขียนในบล็อกผิดไป 1 ตัว จากเลขที่เขียนไว้ว่า HV7955 m52 2551 และแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คือ HV7955 ต52 2551 (ขอบคุณที่ตรวจสอบให้คะ)วันนี้ลองไปหาที่ชั้น และที่ชั้นพัก โต๊ะ รถเข็น ก็ยังหาตัวเล่มไม่เจอสงสัยตัวเล่มเดินไปเที่ยวที่ชั้นอื่นมั้งคะ ิอิอิ
รายงานความเคลื่อนไหว ที่คิดว่าใช่ในความรู้สึก
ขอแจมด้วยคนนะ…นะนะ อย่างที่น้องยาหยีที่รักของพี่ กับน้องอ้อที่รักของท่านที่บ้านก็ใช่ ที่ประสงค์จะใช้ blog เป็นเครื่องมือสื่อสารให้เพื่อนร่วมงานได้อ่านในมุมที่ทุกคนเข้ามาอ่านได้ ซึ่งถือว่าเป็นความคิดสร้างสรรค์ที่ดีมากกกกกกๆ ที่หัวหน้าเวรอื่น หากพอมีเวลาก็น่าจะทำแบบนี้บ้าง สำหรับรายงานเวรต้นฉบับตัวเขียนมีบางมุมที่ทุกคนไปอ่านไม่ได้ ขืนอ่านได้ทุกเรื่องทุกคนมันจะยุ่ง เพราะบางเรื่องเป็นเรื่องลับเช่นการรายงานพฤติกรรมบางอย่าง ซึ่งผู้บริหารต้องนำรายงานไตร่ตรองหรือสืบเสาะหาที่มาที่ไป
และไม่ว่าเป้น blog หรือต้นฉบับตัวเขียน งานมักเข้ามาที่พี่ ดังนั้นพี่จึงต้องอ่านทั้งหมด ตั้งท่าว่าจะสรุปในแต่ละเอืนดว่าพวกเราต้องประสบกับอะไรบ้ง ก็ยังมิสำเร็จสักที
อย่างน้องปูที่รักของลูกกอล์ฟและลูกกิฟท์ก็ใช่ เพราะเมื่ออ่านแล้วก็ไปคิดต่อ สงสัยก็ใคร่ถาม อย่างเรื่องที่ ment เข้ามา อย่างน้อยเจ้าตัวหรือใครก็จะได้ระวังก่อน publish ก้ต้อง preview แล้วก็ต้องตรวจสอบขั้นสุดท้ายอีกครั้ง
เนื่องจากหน้าเคาน์เตอร์ทั้งยืม-คืน และทางเข้า จะเป็นจุดแรกของการสื่อสารและมักพบอะไรแปลกซึ่งอาจจะแตกต่างกับหัวหน้าเวรดังนั้นเมื่่อพบเรื่องราวอะไรๆ ดังนั้นก็ขอให้เขียนเล่าเรื่องอะไรที่พบ ต่อไปเพื่อนก็ทำได้ เราก็ทำได้ ขจัดความไม่รู้ออกไปให้พ้นๆ แค่นี้เสียงบ่น เสียงตำหนิก็จะไม่มีมา ง่ายๆ แค่นี้เอง
อย่างพี่ตาที่รักของลูกจูนก็ใช่ ที่เป็นห่วงว่าหัวหน้าเวรจะรายงานไม่ครบครันจึงเตือนมา แต่นอกจากเตือนแล้วก็น่าจะเขียนเรื่องราวข้อควรระวังต่างๆ ในฐานะที่ทำงานด้านอาคารสถานที่ เพราะบางเวรมีแต่ขาจรมาทำงานก็อาจจะลืม บางเวรมีแต่ขาใหญ่แต่ด้วยความคุ้นเคยก็เลยจะลืม ดังนั้นการเขียนบอกเล่าในสิ่งที่พบแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์ให้เพื่อนๆ ได้ทราบอย่างสม่ำเสมอก็จะขอบคุณยิ่ง เพราะเพื่อนๆ คนอื่นๆ จะได้มา ment ต่อว่าคิดและเห็นกันอย่างไร
พี่ต้องขอบคุณน้องอ้อที่ให้ความกระจ่าง เพื่อน ๆ และน้อง ๆ ทุกคนที่ส่งสัยคงจะหายสงสัยแล้วนะ เรื่องการรายงานเวร O.T. ลงในบล๊อก
และขอถามต่อนะคะ ว่าลูกเวรทุกคนจะมีโอกาสได้เขียนเหตุการณ์ที่ประสบในแต่ละครั้งที่พบที่เจอในการทำงานแต่ละครั้งจะได้ไหม จะเป็นการแชร์ความคิดสรรค์หรือเป็นการเล่าสู่กันฟัง เพราะทุกคนก็จะเจอเหตุการณ์ที่ไม่เหมือนกันในแต่ละวัน เจอปัญหากับผู้ใช้ต่าง ๆ นานา ๆ เพื่อเป็นการถ่ายทอดความรู้สึกของลูกเวร เพราะบางคนก็มาปรารภเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ฟัง พี่บอกว่าให้เขียนแสดงความคิดเห็นลงบล๊อกซิ เพราะหอสมุดเราเปิดให้สมาชิกทุกคนเข้าไปเขียนได้ แต่ต้องเป็นเชิงสร้างสรรค์นะ อย่าเขียนแบบให้คนอื่นเกิดความรู้สึกที่ไม่ดี
ตอบทุกคน
ิblog มีไว้ให้ทุกคนอ่าน ทุกคนเขียน อยู่เวร หรือไม่อยู่เวร บางคนก็เขียนที่บ้าน บางคนก็เขียนที่ำงาน เป็นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนความรู้ การปรารภก็รู้กันแค่สองคน คนอื่นเขาไม่รู้กับเราด้วย ก็อยากให้เขียนมากกว่า เพราะจะได้รู้เหมือนๆ กัน
ความคิดเห็นที่ต่างกัน ไม่ใช้เรื่องถูกหรือผิด แต่เป็นการแลกเปลี่ยนและเรียนรู้หรือปรับทัสคติกันไป
ทุกอย่างเริ่มที่ตัวเรา ไม่จำเป็นต้องคอยคนอื่น เพราะคนอื่นไม่เคยบอกให้เราคอย สรุปว่าเขียนไม่กลัว กลัวไม่เขียน
สำหรับพี่ตาเนื่องจากตกเที่ยวบินในคอร์สรอบแรก ครั้งต่อไปต้นเดือนคงไม่พลาด หนูเขียนหลายครั้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ พี่ตาลองไปอ่านที่นี่ก่อนเข้าคอร์สได้ค่ะ หรือคลิกที่ชื่อหนูแล้วไล่อ่านดู เคล็ดลับอ่านทุกวันก็สบายเพราะมีแค่ไม่กี่เรื่อง แต่ถ้าทิ้งไว้ละก็หลายเรื่อง พออ่านแล้วก็คิดต่อ หาอ่านต่อ พอเราก็จะอะไรเพิ่มก็เขียน ment เข้ามา ถ้ามันยาวๆๆ ก็จะไปเขียนเป็นเรื่องราวของเรา ฝึกๆ ไว้ เราก็จะมีประสบการณ์ในการเขียน ฯลฯ ลองเข้าไปดูค่ะ ได้ความว่าไงวานบอกเด้อค่ะ
http://www.snc.lib.su.ac.th/snclibblog/?p=28
http://www.snc.lib.su.ac.th/snclibblog/?p=1320
http://www.snc.lib.su.ac.th/snclibblog/?p=1355
http://www.snc.lib.su.ac.th/snclibblog/?p=5012
http://www.snc.lib.su.ac.th/snclibblog/?p=5116
ความคิดของพี่บุญตาที่ว่า ผู้ปฎิบัติงานคนอื่นสามารถเขียนเรื่องการปฎิบัติงานลงใน blog เป็นความคิดที่อ้อก็คิดว่า ดีเหมือนกัน ตอนแรกคิดว่าจะเขียนเรื่องนี้เหมือนกันว่า ผู้ปฎิบัติงานคนอื่นๆ น่าจะเขียนวิธีการทำงานของตนลงมาใน blog เป็นเรื่องที่ดี เป็นการแบ่งบันความรู้ให้เพื่อน เพราะ blog เป็นเรื่องของการแบ่งปันความรู้ทั้งในที่ทำงาน และนอกที่ทำงาน ความคิดของอ้อก็คือทุกคนมีเทคนิคและวิธีการทำงานที่เหมือนและแตกต่างกันไป สามารถแบ่งบันได้ การเปิด blog หรือ tag เรื่อง การปฏิบัติงานล่วงเวลาของอ้อ ประสงค์คืออยากให้หัวหน้าเวรท่านอื่นๆ ได้ช่วยแ่บ่งบันวิธีการทำงานให้หัวหน้าเวรคนอื่นๆ ได้รับรู้ และลูกเวรก็จะได้รับทราบด้วย เพราะ ว่า ผู้ปฎิบัติงานทุกคนต้องพบกับผู้ใช้บริการและให้บริการผู้ใช้ หากเค้าอ่าน blog เรื่องที่หัวหน้าเวรเขียน เค้าก็สามารถช่วยเหลือผู้ใช้ได้ก่อนอันดับหนึ่ง หากไม่ได้จริงก็ส่งตรงมาที่หัวหน้าเวร จริงไหมค่ะ