Share
วันนี้งานที่ทำหลังจากที่เคลียร์งานทั้งหลายให้หมดไป โดยเฉพาะน้องเน่า่กับน้องราที่ปีนี้ทำไมพร้อมใจกันมาแบบคึกคัก… เคลียร์จนเหนื่อยทั้งใจและกาย แต่โชคดีที่ได้เสียงหัวเราะจากพี่ๆ เป็นกำลังใจ เพราะทุกคนมองปัญหาที่มันน่าโมโหแบบขำๆ แม้บางครั้งโมโหจนหน้าเขียว อย่างเช่นเราโมโหบ้าอยู่คนเดียว ส่วนคนที่ทำให้ไม่โมโห เขาไม่รับรู้ไปกับเรา ดังนั้นจึงไม่ควรปี๊ดดดด
แต่พวกเราอนุญาตให้โวยวาย เพราะถือเป็นการคลายเครียดแบบไม่ต้องซื้อหา บอกตามตรงว่าทุกวันที่มาทำงานมีแต่ความสุข และสนุกที่จะทำงาน
สัปดาห์ที่แล้วกับสัปดาห์ทั้งต้องทำและก็เพิ่งส่งไปขออนุมัติอยู่หลายโครงการ ดังนั้นงานจึงเข้าค่อนข้างชุก พี่น้องบอกว่าเหนื่อย แต่พี่น้องอีกนั่นแหละบอกว่ามีคนอื่นที่เหนื่อยกว่าเรามากมาย คนที่ไปด้วยกันได้เห็นและได้สัมผัสของจริง
คุณลุงที่เป็นนักการของโรงเรียนที่เราไปอบรมครู ได้รับเงินเดือนละ 4,800 บาท เช้าต้องมาแต่เช้าเพราะต้องทำความสะอาดโรงเรียนคนเดียวทั้งโรงเรียน ตอนสายๆ ต้องไปทำอาหารกลางวันให้นักเรียนทุกคนแค่สองร้อยกว่าคน บ่ายเลี้ยงหมู เลี้ยงปลา ส่วนไก่ไม่ต้องเลี้ยงเพราะโรงเรียนกลัวไข้หวัดนก เสาร์-อาทิตย์ ต้องตัดหญ้าและต้นไม้ เพราะวันธรรมดาทำไม่ได้เพราะโรงเรียนมีเด็กเล็ก (และคงไม่มีเวลา) ไม่มีค่าโอที เงินเดือนก็โน่นนน.. วันที่ 20 ของเดือนถัดไปจึงจะได้เงินเดือน
ว่าแล้วก็หยิบตารางโครงการทั้งหลายที่ต้องดูแลโดยตรงและดูแลแบบเฉียดๆ ถึงแม้การดำเนินการต่อไป ในปีนี้จะเริ่มช้าเนื่องจากต้องจัดทำแผนยุทธศาสตร์ใหม่ทั้งหมด มองเวลาอีกไม่กี่เดือนก็จะหมดปีงบประมาณ แต่สิ่งทีตั้งใจคืออยากทำให้ครบทุกตัวบ่งชี้ที่ตั้งใจไว้ ไม่อยากใช้เรื่องเวลามาเป็นเหตุผลว่า เราทำไม่ได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ เพราะเดี๋ยวจะติดนิสัยที่หาเหตุผลมาอธิบายให้ตัวเอง ถามว่าหงุดหงิดไหม ก็ยอมรับแต่ต้องทำใจเร่งสปีดให้ตัวเอง ดีใจที่ทุกคนในฝ่ายและนอกฝ่ายที่ไปคุยด้วยบอกว่าทำได้ และยิ่งดีใจที่ทุกคนกระจายงานออกไป ร่วมแรงร่วมใจแบบนี้จึงได้แต่ขอบคุณ แค่นี้จริงๆ ก็มีความสุขแล้ว นึกถึงลุงที่เล่าให้ฟัง แค่นี้ชีวิตก็โอเค
โครงการล่าสุดที่คิดจะนำเสนอคือการไปศึกษาดูงาน ที่ปีนี้จะเน้นไปที่เรื่องไอที ดังนั้นเป้าหมายจึงเป้นทางใต้เพราะที่นั่นมีอยู่สองเจ้าที่คิดระบบห้องสมุดอัตโนมัติให้ใช้ ซึ่งเราอาจจะต้องใช้ก็ได้ ดังนั้นรู้ไว้ใช่ว่า
ดังนั้นจึงต้องไปศึกษาแหล่งที่จะไปศึกษาดูงานพอสมควร แม้จะรู้มาเลาๆ อยุ่บ้างแต่ก็ต้องศึกษาเพิ่มเติมทั้งเส้นทาง ที่พัก และที่สำคัญที่สุดคือเนื้อหา สาระที่เราตั้งใจจะไปศึกษาดูงาน
ชานชาลาแห่งการเรียนรู้ ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ http://share.psu.ac.th/home จึงเป็นเว้บไซต์ที่น่าในใจมาก เพราะเป็น blog ของคนทั้งมหาวิทยาลัยที่มาช่วยกันเขียนแบ่งปันความรู้ให้เพื่อน หน้าแรกบอกว่า วันนี้คุณเขียนบันทึกถ่ายทอดเรื่องราว บอกเล่า เพื่อการแบ่งปันแล้วหรือยัง หน้าตาของ Share จะละม้ายกับ gotoknow บล๊อกที่ให้คนไทยได้เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้อันลือลั่น เหตุที่เป็นแบบนั้นเพราะทีมผู้สร้างทำงานอยู่ที่นี่….
หากพอมีเวลาให้ตัวเองลองเข้าไปอ่านเพราะที่ share เป็นลักษณะการทำงานแม้จะต่างมหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยของเขาก็มีหลายวิทยาเขต ที่มากกว่าเรา แต่เรื่องระยะทางไม่มีอุปสรรคสำกรับใครทั้งนั้น ประสบการณ์ทั้งจากที่โน่นคนที่นี่หรือคนที่ไหนๆ ก็นำมาใช้ได้ ไม่แปลกใจเลยว่าเขาจัดลำดับมหาวิทยาลัย ที่นี่จึงมักติดลำดับทุกครั้ง อดภูมิใจลึกๆ ไม่ได้ในฐานะที่ตัวเองเป็นผลิตผลของที่นั่น
พบเรื่อง หลักการเขียนบล๊อกมีอยู่ 14 ข้อ จึงนำมาฝากทุกคน http://share.psu.ac.th/blog/share-psu/26