เจ้ดัน
วันนี้ในห้องยกตำแหน่งเจ้ดันให้ เพราะหวังจะสร้างดรีมทีมส่วนใหญ่เป็นผู้เฒ่า วัยละอ่อน 😯 ที่มีหัวหน้าสายอย่างพี่พัช พี่นก น้องอ้อ น้องเอ๋ แนะนำกันต่อ แล้วก็ต่อๆ กันไป แปล้กแปลกใจที่ตอนยังไม่เข้าห้องก็เขียนกันได้ พอเข้าห้องไหงงงหยั่งงี้ ในที่สุดก็เปิดเผยมาว่านอกจากหัวหน้าสายแล้ว ยังมีเหล่าบรรดากุลบุตรและกุลธิดาช่วยจ้าาา… เช่นน้องเมย์ ลูกแม่อารียาบอกว่า จิ๊บ จิ๊บ ส่วนรูปที่ใส่น้องมีนลูกลุงพงษ์ทำให้
สำหรับดรีมทีมตั้งใจว่าจะให้เป็นวิทยากรให้กับเพื่อนกลุ่มอื่น เพราะไม่อยากให้ทีมงานซึ่งเป็นบรรณารักษ์เป็นศูนย์กลางทุกอย่างทุกเรื่อง อันนี้ไม่ใช่จะปฏิเสธความรับผิดชอบ แต่เป็นความตั้งใจให้ทุกคนเข้าใจว่าเทคโนโลยีไม่ใช่เรื่องไกลตัวใครๆ ก็ทำได้ และเชื่อว่าจะทำได้ดีด้วย เช่นเดียวกับหลายๆ โครงการที่หลายคนเป็นผู้บริหารโครงการ โดยส่วนตัวแล้วถือว่าการช่วยกันแบบนี้เป็นการสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่แท้จริงและทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นขึ้น
ว่าที่ดรีมทีมจึงได้เข้ามาฟังถึงจุดมุ่งหมายที่สร้างบล๊อกขึ้นมาว่าคืออะไร ใช้ทำอะไร มีประโยชน์อย่างไร ได้เรียนรู้กันว่าควรใช้เวลาช่วงไหนอ่านและเขียนและมีเทคนิคอื่นๆอย่างไร
ลุงมนหยิบกระดาษต้นฉบับออกมา แสดงความพร้อม ท่ามกลางเสียงโห่ (คือว่าอิจฉาน่ะ) พอน้องอ้อพิมพ์ให้สักพัก ผมว่ามันน่าจะมีรูปนะคร๊าบ จึงไปถ่ายรูปแต่ละขั้นตอนให้ ขณะที่คนอื่นมุมานะพิมพ์ไปแบบไม่ยิ้มไป เผลอแผลบเดียวใครไม่รู้ร้องว่า…เก้าสิบเก้าเรื่องแล้ว เราต้องรีบบอกว่าจองเรื่องที่หนึ่งร้อยนะ เพราะเขียนดร๊าฟเอาไว้แล้ว ดังนั้นจึงต้องชิงดำกัน ท่ามกลางเสียงโห่แบบไม่สรรเสริญ
น้องพัฒน์ ลูกแม่ษร จะเป็นตัวอย่างที่ยกให้ใครๆ ฟัง เพราะพาเพื่อนๆ จาก ม.แม่ฟ้าหลวงไปที่ศต. เห็นน้องพัฒน์กำลังอ่าน blog ที่เล่าเรื่องงานแต่งน้องเบญ ถามว่าชอบเหรอ
น้องพัฒน์ตอบว่าชอบ ชอบที่มีรูปพ่อ (อัมพร) ก็บอกว่าป้าก็ชอบเหมือนกัน
ถามน้องพัฒน์ต่อว่าอยากให้แม่เขียนไหม น้องพัฒน์ตอบว่าอยากครับ อยากอ่านของแม่ ส่วนแม่ษรบอกว่าไม่รู้จะเขียนอะไร ก็บอกไปว่าก็เขียนเรื่องราวของเรานั่นแหละที่น่าสนใจมากมาย เห็นดร๊าฟของน้องษรขึ้นหลายเรื่องอยู่ ไม่นานน้องพัฒน์คงได้อ่านของแม่ษรแล้ว เย้…
อาทิตย์ก่อนน้องเหมย ถามที่ห้องสมุดทำแบบนี้ด้วยเหรอ…แม่เหมยเขียนด้วยเหรอ ดีจังล่าสุดน้องแทนมาถามว่าน้าปองจะไปเที่ยวเมื่อ่ไร น้องแทนอยากไปด้วย เอ้าซี้…เรื่องราวของพวกเราเป็นของพวกเราจริงๆ
ตัวอย่างต่อจากเรื่องของน้องพัชก็คือเรื่อง hi5 ของลูกๆ ที่บรรดาพ่อและแม่หลายๆ คนไม่รู่ว่าลูกกำลังทำอะไร คุยกับใคร… ซึ่งอาจเป็นการเรียนรู้เรื่องต่อไปของพวกเรา
พอออกจากห้อง…ดรีมทีมทำเป็นเนียนค่ะ แจ้งว่างานยุ่งมาก…
พี่สุนีย์บรรจงพิมพ์เหมือนพี่ๆ หลายคนด้วยเหตุผลเดียวกันคือใช้โน๊ตบุ๊คส์ครั้งแรก น้องมาร์คเตรียมการบ้านใส่แฮนดี้ไดฟ์ ส่วนน้องสมพรเอียงอายก่อนจะหยิบต้นฉบับที่ยู่ยี่ในกระเป๋าขึ้นมา ส่วนน้องกอล์ฟหนุ่มเฮ้วบอกว่าผมอยากเล่าเรื่องหนังสือเล่มนี้…จัดรูปให้ค่ะ
ป้าจันทร์ก็เตรียมงานมา น้องเอ๋ไปถ่ายรูปให้ ส่วนจะแถมรูปที่มีลุง ใครๆ ก็ห้ามเกรงว่าลุงจะมาแย่งซีน ลุงบอกว่าลุงรอต้นไม้ก่อนหากโตได้ที่ลุงจะเขียน น้องหงษ์เตรียมเรื่อง เจ๊ช่วยเตรียมภาพ น้องรสเตรียมเรื่องเหมือนกับน้องมาร์คคือวิชาการมาก เกรงว่าจะมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์จึงบอกว่าเขียนเหมือนเล่าเรื่องให้เพื่อฟัง หากจะเป็นวิชาการและรูปภาพ หรืออะไรๆ ที่เราไม่ได้ขียนหรือถ่ายรูปเอง…ขอให้แจ้งแหล่งอ้างอิงให้เรียบร้อย… น้องรสจึงเปลี่ยนไปเขียนเรื่องที่ช้อบชอบที่ฉันแอบค้อนนิด ๆ ลุงเพชรมาส่งต้นฉบับให้ฝากพิมพ์หลายเรื่องมาก… ส่วนใครที่ยังนึกไม่ออกก็อ่านของเพื่อนก็ขอเม้นต์ก่อนนะ
เพื่อนๆ ที่ไม่ใช่ดรีมทีมคือน้องรส ปัญญาและมิสเตอร์วี เรียนรู้เรื่องอื่นที่นอกจากบล๊อกคือการใช้ igoogle และการแชร์เอกสารเพื่อใช้งานไปแล้ว และทดลองนำไปใช้งานกัน
พิชิตนี่ไฮเทคใช้กล้องมือถือถ่ายโชะเชะแล้วก็โหลดโลด ส่วนอำนาจนี้เขียนเหมือนพูดคือสั้นๆ ได้แตส่งตาหวาน แต่ตั้งชื่อเรื่องทีในห้องร้อง โห… ส่วนพิชัยนี้สิงห์ซุ่ม ถ้าจะนึกเรื่องอยู่หลายวัน ฯลฯ ปิดท้ายรายการด้วยสามสาวน้อยที่เตรียมมาพร้อมทั้งเนื้อหา อุปกรณ์พยุงสุขภาพได้แก่หมอนรองหลัง แว่น ยาดม ยามและยาหม่อง ที่ฮือฮาคือเรื่อง ส่งลูกน้อยหอยสังข์ไปโรงเรียน เพราะลุ้นแทนแม่ว่าเจ้าหอยสังข์นี้จะเป็นอย่างไร เพราะครั้งแรกมีแต่เรื่อง พอตกเย็นมีภาพประกอบซึ่งทีมงานจากวารสารเป็นเจ้ดัน (ตัวจริง) ระหว่างนี้กำลังชิงความเป็นเจ้ดันตัวจริงกับน้องอ้อ
หลายคนห่วงเรื่องเวลาๆ ตอบไปว่า อ่านบล๊อก เขียนบล๊อก ก็ยังดีกว่า ไม่อ่าน ไม่เขียนและไม่ทำงาน วัฒนธรรมองค์กรที่ดีของเราจะจัดการเรื่องนี้เองโดยธรรมชาติ เชื่อเถอะน่า…
ทุกคนต่างมีเรื่องราวมากมาย ที่สามารถเรียนรู้ความคิด วิถีชีวิต และทำความเข้าใจกันได้ จบงานนี้ปั๊บ เมื่อวานใครถามไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรรู้สึกอย่างไร ตอบไปว่าคนห้องสมุดทุกคนน่ารักมาก ส่วนดรีมทีมที่งานยุ่ง พอโพสต์ปุ๊บ…เม้นต์ก็จะมาปั้บ ขนาดเจ้ดันยังเม้นต์ไม่ทัน
ยังมีเรื่องที่เราไม่รู้ที่ให้เราเรียนรู้อีกมากมาย เราทำเื่องแบบนี้ได้ เทคโนโลยีอะไรมาก็จะจิ๊บๆ หลังจากนี้สอบถามได้ตลอดเวลา ใครอยากทำอะไรขอให้บอกทุกอย่างถ้าทำได้ก้จะทำให้ ทำเองไม่ได้ก็จะไปหาคนอื่นๆๆๆ ทำให้ ไม่ต้องรอเวลา ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องอาย ไม่มีคำว่าเกรงใจสำหรับการเรียนรู้ ไม่รู้ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่รู้แล้วไม่ทำ ไม่ถามหรือหาให้รู้ซิแปลก… การแลกเปลี่ยนเรียนรู้เป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับทุกคน สู้สู้
ปล. แล้วเราก็พบว่าพวกเราต่างเป็นนักเขียนและนักเล่า…แบบมืออาชีพกันทั้งนั้น อีกไม่นานก็จะมี หนังสือจาก blog หรือ blook คนละเล่ม (หน้าเป็นไงอ่านจาก blog ของน้องอ้อค่ะ)
6 thoughts on “เจ้ดัน”
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
ขอบอกว่า งานนี้ขอยกให้พี่ปองเป็นเจ้ดันตัวจริง และสำหรับน้องอ้อขอเป็นผู้ช่วยฝ่าย costume ค่ะ มีหน้าที่ช่วยตกแต่ง ทั้งตัวจริงและผู้ช่วย รวมทั้ง Admin (น้องเอ๋) ต่างทุ่มเทกับงานนี้เต็มที่ เพื่อเปิดเวทีให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ได้แสดงความสามารถ ความคิด บางคนอาจจะยังกล้าๆ กลัวๆ เหนียมอายบ้าง ในการนำเสนอเรื่องของตัวเอง เขียนมาเถอะค่ะ เขียนไปเรื่อยๆ บอกเล่าในสิ่งที่เราสนใจ สิ่งที่เรารู้ แล้วเราจะได้เพื่อนอีกมากมายที่เราอาจเคยคิดว่าเค้าไม่ได้สนใจในสิ่งเดียวกับเรา แต่แท้ที่จริงแล้วเค้าสนใจเหมือนๆ กับเรา พวกเราทั้งเจ้ดัน ผู้ช่วย รวมถึง Admin ยินดีให้ความช่วยเหลือ หากไม่ถนัดในเรื่องเทคโนโลยี หรือแม้แต่การพิมพ์
ดีใจครับ..ที่มีเวทีให้มือใหม่ขึ้นชก เก็บสะสมชั่วโมงบินไปเรื่อยๆ สักวันคงได้ออกสู่โลกกว้าง………
เดี่ยวพี่จัดให้คร๊าบ…
อืม เคยบอกแล้วว่าคนห้องสมุดที่น่ากลัวจริง เวลาบ้า(ทำ)กันทีนึง แฮะๆๆ ไปดีก่าเด๊วถูกตืบ เค้าเอง
วันนี้พี่เปิด blog เข้าไปดูตามที่น้องปองบอกว่าให้เตรียมตัวก่อนเข้าอบรมเรื่อง Blog เนื่องจากเที่ยวบินแรก พลาดโอกาสไป แต่เที่ยวบินที่ 2 นี้คงจะไม่พลาดแน่ เลยลองเปิด blog ตามที่น้องปองบอกประมาณสัก 5 บล๊อกตามที่แนะนำ เกี่ยวกับเรื่องราวของการเขียนบล๊อก ทำให้พี่เข้าใจมากขึ้น โดยเฉพาะมาอ่าน blog เจ๊ดันนี้ ทำให้มองเห็นภาพลักษณ์ในห้องอบรมเลย คงจะสนุกมาก จนทุกวันนี้ ลูกจูนถามแม่บ่อย ๆ ว่า ทำไมแม่ไม่เห็นเขียนลง blog กับเขาบ้างล่ะ พี่ก็ตอบลูกไปว่า ก็แม่ยังเข้าไปเขียนไม่เป็น ช่วงที่อบรม แม่ไปใต้กับจูนไง ต้องขอบคุณทีมงานเจ๊ดันมาก ที่ให้การสนับสนุนบุคลากรชาวหอสมุดทุกคน
ขอบคุณพี่ตาเช่นกันที่ให้โอกาสตัวเอง ไม่มีใครสายเกินไปสำหรับการเรียนรู้ค่ะ สู้สู้ ต่อมาลูกจูนคงได้อ่านงานเขียนของแม่ และไปคุยกับใครๆ ได้วาแม่เขียนเรื่องในเน็ต เห็นมะน่ารักจะตาย