ทับแก้วบุ๊คแฟร์

ในที่สุดงานนี้ก็ได้เคาะระฆังหง่างเหง่ง แต่ไม่วังเวงแว่ว งานทับแก้วบุ๊คแฟร์มาแล้วจ้า …. โหครั้งนี้ปาเข้าไปครั้งที่ 6 แบบเป็นทางการแล้วหรือนี่ อ้าวถ้านับแบบตั้งแต่ยุคพี่แมวมาเบิกโรง ก็เป็นครั้งที่สิบกว่าแล้วเหรอนี่
หากเป็นคนก็ยังไม่บรรลุนิติภาวะทั้งคู่ นับแบบแรกก็อยู่ประถมต้น นับแบบหลังก็อยู่มัธยม เป็นวัยที่ต้องเรียนรู้ทั้งคู่….
งานนี้เริ่มไปหลายเพลาโดยฝ่ายคุณใหญ่ รับเป็นเจ้าภาพเรื่องป้ายๆ อะไรๆ ทั้งหลาย 555 ทั้งที่งานประชาสัมพันธ์คุณเอ๋เป็นประธาน การจองร้านค้าคุณกาญจน์รับไป คุณพี่หน่อยรับเรื่องกิจกรรมบนลานบ้านเรา Knowledge Park@Library ส่วนคุณปองทำหน้าที่ดูแลทั่วไป หรือพูดให้เก๋ๆ ว่าประสานงาน หรือพูดแบบให้ร้ายว่าไม่ทำอะไรเร้ยยย  5555 ทำเหมือนกันจ้าาาา โดยจะดูเรื่องเอกสารซึ่งสรุปกันว่าเอกสารจะให้ออกตรงกลางคือจากฝ่ายวิเคราะห์ฯ จากนั้นก็มีหน้าที่ติดต่อประสานงานกับภายนอกโดยการใช้ตั้งแต่อีเมล เฟสบุ๊คส์ โทรศัพท์ ขอความช่วยเหลือจากมวลหมู่สมาชิกในเครือข่าย ให้มาช่วยกันหน่อยนะจ๊ะ นะจิ๊ คุณพี่ คุณน้อง and คุณเพื่อน
มวลหมู่ที่เอ่ยชื่อมาแล้วยังมีคุณพี่พัช คุณน้องน้อง คุณอ้อ และคุณวี มาเป็นผู้ก่อการดี ช่วยกันปรุ่งแต่ง ปรับโฉมงาน ให้สวยสคราญ เช่นปีก่อนๆ  งานทั้งหมดจะรวมอยู่ใน check list ที่ส่วนกลางคือดิฉันคิดเป็นโครงให้ พี่น้องท่านอื่นๆ ช่วนกันเสริม แต่ง เติม แบ่งปัน ประสบการณ์ให้กันและกัน และอยู่อย่างมีความสุข
ถามว่าความสุขวัดจากตรงไหน คงตอบให้ใครไม่ได้ แต่ขอบอกว่าตลอดระยะเวลาที่ทำงานนี้มารู้สึกว่ามีความสุข  สุขที่ได้เรียนรู้ สุขที่ได้ทำงานที่ต่างไปจากเดิมแบบพลิกฟ้าผืนดิน สุขที่ฟังหรือพบเห็นอะไรๆ ที่ต่างไปจากเดิม
ความสุขที่ได้ยินเสียงเตือนกันว่า…  เธอทำแล้วยัง? ชั้นทำแล้ว? เออว่ะลืม? ติดต่อใครดีนะ? คนนี้สิ? จะลองถามให้? ม่ได้อ่ะ? โอเคนะ? งานนี้ช้านทำเองานนี้เธอทำนะ งานนั้นชั้นทำไปแล้ว
ต่อไปกระดาษที่ทำ check list ในกระดาษเอ 4 ที่อัดแน่นไปด้วยข้อมูล  และบางเรื่องเราก็ฝากไว้ใน google doc.  อาจเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบอื่น เป็นรอยจารึก เป็นความทรงจำ หรืออาจเก็บเกี่ยวสร้างเป็นนวัตกรรมที่ให้น้องๆ ได้เข้ามาเรียนรู้และฝึกฝน … หวังไว้แค่นี้
ช่วงนี้งานยังตกอยู่ เป็นของผู้เกี่ยวข้องในกลุ่มเล็กๆ ขอบคุณหลายๆ คน ที่เข้ามาถามอย่างห่วงใยว่าจะให้ช่วยอะไร  ได้แต่บอกว่า ขอบคุณ แต่คงไว้ใกล้ๆ หรือหน้างาน ซึ่งประธานของแต่ละชุดคงจะรวมพลัง กระจายงานออกไป
อย่างไรก็ตามขอใช้พื้นที่ตรงนี้รายงานความคืบหน้าของงานให้ทราบกันคือ
1.  การประชาสัมพันธ์ ที่เราได้เริ่มกันแล้วตั้งแต่ทำสคริปรอบแรก ทำป้ายท้งหลาย ซึ่งจะเริ่มพร้อมๆ กันในทุกสื่อ ปฐมฤกษ์ในวันจันทร์นี้  ยังขาดโปสเตอร์ประจำวันเพระาต้องรอให้วิทยากรนิ่งก่อน
2. การจองร้านค้า ตอนนี้เหลือแต่โซนบี และร้านค้าย่อย ที่ทยอยมาเรื่อยๆ ปีนี้ พวกเราสรุปกันว่าปีนี้ ร้านค้าย่อยจะไม่จำหน่ายอาหารและอาหารว่าง รวมทั้งโหราศาสตร์ทุกประเภท ขั้นต่อไปคือการจัดแต่ละร้านลงในพื้นที่ที่กำหนด
3.  กิจกรรมในลาน Knowledge Park@Library ติดต่อเครือข่ายเรียบร้อยแล้ว โดยทีมงานลงไปในวันงานได้เลยเพื่อจัดกิจกรรม 7 วัน 7 สิ่ง

4. กิจกรรมบนเวที ยังมีฟันหลอวันว่างอยู่บ้าง แต่คิดว่าแก้ปัญหาได้ เพราะเรามีนโยบายรวมพลังนักศึกษาชาวศิลปากรบ้านเรา
5. งานเอกสาร พวกหนังสือราชการนานาชนิด ก็ทยอยออกไปเรื่อยๆ
หลายอย่างติดที่เงื่อนไขของ “น้องน้ำ”  แต่ไม่เป็นไร เพราะเรายังไม่โดนน้ำท่วมทั้งที่บ้าน และที่ปาก  55555
เมื่อวานเพื่อนส่งข้อความ เรื่องลิขิตสี่ประการ ของอินเดีย มาให้อ่านแล้วชอบมาก เพราะรู้สึกว่าถูกกับจริตของเรา  http://dhamma-human.blogspot.com/2011/10/blog-post.html
• ลิขิตข้อแรกตราไว้ว่า “ไม่มีใครที่ก้าวเข้ามาในชีวิตเราโดยบังเอิญนี่เป็นการยืนยันว่า บรรดาผู้คนที่เข้ามาเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับเราในจังหวะชีวิตต่างๆนั้น ทุกคนล้วนเข้ามาเพื่อให้เราได้เรียนรู้บทเรียนใด หรือช่วยให้เราแก้สถานการณ์ใด ในขณะหนึ่งขณะใดทั้งสิ้น
• ลิขิตข้อที่สองตามมาว่า “ทุก…สิ่งที่เกิดกับเรา ล้วนต้องเกิดเป็นเช่นนั้นทุกสิ่งที่เกิดกับเรานั้นไม่อาจเป็นอื่นไปได้ เป็นความหลงผิดยิ่งที่ไปคิดว่า”ชีวิตเราไม่น่าจะเป็นอย่างนี้ ถ้าในอดีตเราได้ทำอย่างนั้น” เพราะเป็นเรื่องที่ต้องเกิด กับเราแน่นอนในทุกรายละเอียดเลยทีเดียว เรามีหน้าที่ ต้องเรียนรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นและก้าวไปข้างหน้า แม้ว่ามันจะฝืนกับความเข้าใจหรืออัตตาของเรา สักปานใดก็ตาม
• ลิขิตที่สาม มีว่า “ทุกอย่างจะเกิดขึ้นเมื่อได้เวลาแล้วเท่านั้น”  ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นจะมาตามเวลาเสมอ ไม่มีช้าไปหรือเร็วไป มันจะมาถึงเมื่อเราพร้อม พร้อมต่อสิ่งใหม่ ในชีวิตที่รอเราอยู่ก่อนแล้ว
• ลิขิตที่สี่ มีว่า “ชีวิตไม่มียืดเยื้ออะไรจบแล้วก็จบเลยเป็นคำสอนง่ายๆว่า เมื่อสิ่งใดในชีวิตเราจบลงแล้ว ก็จะช่วยให้เราพัฒนาขึ้น ดังนั้นเมื่อมีประสบการณ์เพิ่มขึ้น เราก็ต้องปล่อยให้บทเรียนนี้ผ่านไป แล้วก้าวเดินต่อไปข้างหน้าอีก เป็นเช่นนี้ตลอดไป
แม่เจ้า บล๊อกข้อยจบลงด้วยธรรมะได้ด้วยวุ๊ยส์
ปล. โครงการเขียนบล๊อกเรื่อง ก-ฮ ยังไม่ถึงไหนจ้า จะกัดฟันให้ครบทั้ง 44 ตัวอักษร ส่วนท่านใดรอบทความ อิอิ เขียนแล้วจ้าเหลือเกลาๆ ขัดสีฉวีผ่องอยู่ฮ่ะ

One thought on “ทับแก้วบุ๊คแฟร์

  • ชอบลิขิตสี่ประการมากค่ะ เป็นธรรมะหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่าหากทำใจ และแสดงออกได้อย่างนั้น ชีวิตน่าจะสงบสุขมากเลย

Leave a Reply

Tags

blog CONSAL KPI PULINET การจัดการความรู้ การดูแลสุขภาพ การทำงาน การท่องเที่ยว การบริการ การปฏิบัติงานล่วงเวลา การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาตนเอง การพัฒนาบุคลากร การลงรายการ การศึกษาดูงาน การอ่าน การเรียนออนไลน์ กิจกรรมสำหรับเด็ก กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมห้องสมุด ความสุข ค่ายห้องสมุด งานบริการ ธรรมะ นวนิยาย นักเขียน บรรณารักษ์ บริการชุมชน ประกันคุณภาพ ภาพถ่าย ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ วัด วันสำคัญ วารสาร สัมมนา สุขภาพ หนังสือ หนังสือบริจาค หนังสือและการอ่าน หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ห้องสมุด ห้องสมุด 24 ชั่วโมง อาหาร