โลกเปลี่ยน คนไม่เปลี่ยน ฤาจะอยู่รอด?
ทุกวันนี้สภาพอากาศของโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เกิดภัยธรรมชาติซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสียอย่างมาก สิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลกนี้จึงต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถดำรงอยู่ได้ หากศึกษาเรื่องราวในอดีตจะพบว่าทั้งพืชและสัตว์ก็ต้องปรับตัวให้เป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงของโลก หากปรับตัวได้ก็จะอยู่รอดมาจนถึงปัจจุบัน หากปรับตัวไม่ได้ หรือปรับตัวได้ไม่ดีก็จะล้มหายตายจากจนสูญพันธุ์ไปจากโลก ซึ่งสอดคล้องกับคำกล่าวของ Charles Dawin นักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษ (ค.ศ. 1809-1882) ที่ว่า “ผู้ที่อยู่รอดได้ไม่ใช่ผู้ที่แข็งแรงหรือฉลาดที่สุด แต่คือผู้ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้ดีที่สุด”
ย้อนมาดูตัวเราเอง เราใช้ชีวิตอยู่ได้ในปัจจุบันนี้เราก็มีปรับตัวเพื่อให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เช่น โทรศัพท์มือถือ รถ กล้องถ่ายรูป เครื่องใช้ภายในบ้าน ที่พักอาศัยต้องติดเครื่องปรับอากาศหรือมีพัดลมในบ้าน การสัญจรด้วยระบบขนส่งสาธารณะต่าง ๆ อาหารการกิน การทำงาน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เราทำเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอดหรืออยู่อย่างไม่ทุกข์รำเค็ญ
หากเป็นในรูปองค์กรหรือหน่วยงานก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จะเห็นชัดเจนคือองค์กรในวงการธุรกิจที่ต้องพยามยามคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อให้แตกต่างจากคู่แข่งขัน พยายามนำหน้าผู้อื่นให้ได้อย่างน้อย 1 ช่วงตัวอยู่เสมอ เพื่อให้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของเขาเป็นที่สนใจของลูกค้าหรือผู้บริโภคและเกิดการซื้อขาย หากเป็นที่น่าสนใจเพียงอย่างเดียว แล้วไม่สามารถทำให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคซื้อได้ ก็อยู่ไม่รอดเช่นกัน เขาจึงต้องพยายามคิดค้นหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ลูกค้าควักเงินออกจากกระเป๋าเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการของเขาให้ได้ เราลองสังเกตตัวเราเองดู บางครั้งเราไปเดินเล่นตามศูนย์การค้า หรือตามตลาดนัด เราไม่เคยคิดจะซื้อของบางอย่างมาก่อนเลย แต่ด้วยรูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ที่แปลกตา ประโยชน์ใช้สอยดูแล้วคุ้มค่ากับราคา เป็นสิ่งที่แตกต่างจากของที่คนอื่นมี วิธีการนำเสนอของผู้ขายที่เชิญชวน จูงใจ ทำให้เราเกิดความประทับใจ และหากเรามีของสิ่งนั้นมาใช้จะทำให้เราดูดี มีความภาคภูมิใจ ทำให้เราควักเงินซื้อโดยไม่ลังเล เป็นต้น
องค์กรที่เราอยู่ก็เช่นเดียวกัน จำเป็นต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง พัฒนาการบริการต่าง ๆ เพื่อให้ผู้รับบริการเกิดความประทับใจ เมื่อเข้ามาใช้บริการแล้วเรามีทุกอย่างที่เขาต้องการ เขามาแล้วไม่เสียเที่ยวกลับไปโดยได้ของที่เขาต้องการไม่ครบหรือไม่ได้เลย เขาก็จะกลับมาใช้บริการอีกในครั้งต่อ ๆ ไป ไม่ไปแล้วไปลับ ขณะเดียวกัน เราต้องปรับตัวในการทำงานเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายหรือกลยุทธ์ของผู้บริหารและของประเทศในแต่ละยุคแต่ละสมัยด้วย เราจึงจะได้รับงบประมาณมาใช้จ่าย รวมทั้งเงินเดือนของเราด้วย ทำให้หน่วยงานของเราไม่ถูกยุบ ยกเลิก หรือนำไปรวมไว้กับหน่วยงานอื่น
พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า “ทุกสิ่งนั้นไม่เที่ยง ไม่มีสิ่งใดที่คงอยู่ตลอดไป” ดังนั้น เราจะจมปลักอยู่กับการใช้ชีวิตและใช้วิธีการทำงานแบบเดิม ๆ เหมือนในอดีต โดยไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นกว่าเดิม ฤา?… เราจะไม่ยอมรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่จะทำให้เรามีชีวิตที่สะดวกสบาย ทำงานได้รวดเร็วขึ้น เราจะไม่เรียนรู้การปฏิบัติงานตามขั้นตอนหรือกระบวนการทำงานใหม่ที่จะทำให้ทำงานได้ง่ายขึ้น เราจะไม่ลดหรือยกเลิกการทำงานแบบเดิมที่มีหลายคนบอกเราว่าเป็นการทำงานที่เชื่องช้า มีขั้นตอนมากไม่เหมาะกับยุคปัจจุบัน ก็นั่นมันเป็นขั้นตอนการทำงานที่เราคิดและทำสำเร็จมาตั้งสิบกว่าปีที่แล้วนะเราจะเลิกทำได้อย่างไร เราไม่สนใจหรอกว่าปัจจุบันเป็นอย่างไร เราจะอนุรักษ์การกระทำเก่า ๆ เดิม ๆ ของเราไว้… หากเราเป็นเช่นนั้น เราจะอยู่อย่างเป็นสุขในสังคมปัจจุบันได้อย่างไร การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่สิ่งที่ยากจนเราเกิดความลำบากอย่างใหญ่หลวง หากเราทำให้มันกลมกลืนกับการใช้ชีวิตประจำวันไปบ่อย ๆ ทำเป็นประจำจนเป็นนิสัย จะทำให้เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องยากเย็นแสนเข็ญอะไรเลย
ในขณะที่โลกหมุนและเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาไม่มีวันหยุดนิ่ง เราจำเป็นต้องก้าวตามโลก หากเพียงเราหยุดอยู่กับที่ ก็เท่ากับเราถอยหลังไปแล้ว