THE ONENESS OF SILPAKORN
วันที่ 12 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันสถาปนามหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นหนึ่งมหาวิทยาลัยที่เรามีความผูกพันในฐานะที่เป็นที่ให้อะไรหลายๆ อย่าง ตั้งแต่ก้าวเข้ามาจวนจนถึงปัจจุบัน
ปีนี้ครบรอบ 69 ปีเต็ม และกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 70 อย่างเข้มแข็ง จะแต่ไหนและอย่างไร เป็นเรื่องที่ทุกคนในรั้วศิลปากรต้องร่วมด้วยช่วยกัน (รูปนี้น้องอ้อย ภาสินี จากห้องสมุดเพชรบุรีส่งมาให้ดู)
มหาวิทยาลัยฯ จัดงานนี้ทุกปี จำได้ว่าไปร่วมงานนี้จำนวนสามครั้ง ครั้งแรก ตอนเข้ามาทำงานใหม่ๆ จำได้ว่ามีการพายเรือแข่งกันในสระแก้ว กับปาเป้า จำได้ว่าสนุกมากกกกกก ครั้งที่สอง ไปตอนมหาวิทยาลัยครบรอบ 60 ปี ที่วิทยาเขตสารสนเทศเพชรบุรี ใส่เสื้อยืดสีเขียว ไปกันยกห้องสมุดฯ เพราะพวกเราจะเลยไปสัมมนาบุคลากรประจำปีด้วย จำได้ว่าพวกเราเหมือนไส้คิ่ง 555 นึกแล้วยังขำท่าทางพี่น้อย ส่วนครั้งที่สาม คือเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ใจคิดว่าไปดีหรือไม่ไปดี ปีก่อนมีงานกีฬาแบบนี้เหมือนกัน ยังคุยกันว่าให้ไปกันเยอะๆนะ ครั้งนั้นหนูเล็กพาทีมไป แล้วยังถ่ายรูปมาให้ตั้งเยอะแยะ ซึ่งจำไม่ได้ว่าฝีมือใคร และรูปนี้ยังได้นำไปใช้ตอนงานเกษียณอายุราชการที่ผ่านมา
เช้าของวันที่ 12 มีการใส่บาตร จะมีพวกเราหลายคนไปร่วมงานดังกล่าว
เกือบบ่ายพวกเราไปที่โรงยิมใหม่ แหงนหน้าดูชื่อตึกคือ “อาคารเพชรรัตน์-สุวัทนา” มีความเป็นมาอย่างไร ควรได้หาอ่านกัน
ไปถึงก็ไปลงทะเบียนได้เสื้อยืดสีส้ม ออกแบบได้สวยงาม พี่แมวบอกว่าเป็นอาจารย์จากคณะมัณฑนศิลป์
พวกเราถือโอกาสไปถ่ายรูปแบบมวลหมู่ แม้ไม่ครบแต่ก้อยังดี ที่มีรูปแบบนี้เป็นที่ระลึกให้ดูยามเป็นผู้เฒ่า
แล้วเราก็นั่งเชียร์ เล่มเกมส์ พูดคุยกับ “คนหน้าคุ้นๆ” ที่อยู่ในรั้วเดียว แต่แทบจะไม่ได้พูดคุยกัน กิจกรรม Walk Rally ทำให้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกวิทยาเขต สามารถอยู่ด้วยกันอย่างสนุกสนาน ตัวเองอยู่กลุ่มเดียวกับพี่แฉล้ม นับอายุต่อมาอนิจจาคือข้าน้อยเอง ระหว่างการเล่นมีหนุ่มน้อยน้องอั้ม คอยพัดวีให้ลุง ให้ป้า ให้พี่ๆ เหนื่อย สนุก และประทับใจ
หลายคนเข้าสู่วงการแบบไม่รู้ตัว 555 เท่าๆ กับหลายคนที่เพื่อนผลักดันให้เข้าวงการ การร้องเล่นเต้นระบำแบบชิวๆ ทำให้สลัดๆ อะไรหลายๆ อย่างออกไปได้อย่างไม่รู้ตัว กิจกรรมแบบนี้กับมวลชนที่ไม่รู้จักแบบสนิทสนมกันมาก่อนนับว่าได้ผลทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
หากเป็นกลุ่มที่รู้จักกันแบบสนิทสนมมาก่อนโจทย์อาจจะยากยิ่งนัก!
กว่าจะเสร็จสิ้นเกือบห้าโมงเย็น ทุกคนได้รับรางวัลกันทั่วหน้า และเชื่อว่าทุกคนที่อยู่ในงานมีความสุขและได้หัวเรากันอย่างชื่นบาน และมื้อนั้นเป็นโตีะจีนที่แสนอร่อย
และที่สำคัญพี่ๆ น้องๆ เราได้รับรางวัลคนดีศิลปากร (แบบไม่ทันตั้งตัว) เป็นรางวัลที่สะสมกันมาอย่างยาวนาน ถึง 22 คน ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ
จบท้ายด้วยวงดนตรีจากอาจารย์ภาควิชาวิศวเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ฯ น่ารักมาก จนอดใจไม่ไหวทำตัวเป็นแม่ยกกรี๊ดสลบบบบบ พร้อมกับเรียนเชิญให้อาจารย์มางานบุ๊คแฟร์เรา และเราก้อจะไปเป็นเลซองไลบราเรี่ยนให้อาจารย์ … แหมท่าทางจะสนุก
สุดท้ายขอขอบคุณมหาวิทยาลัย ทีมงาน อาจารย์ที่ออกแบบเสื้อ ท่านที่คิดธีมงาน THE ONENESS OF SILPAKORN และชาวศิลปากรทุกคน 😛 ที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในวันนี้และต่อไปในวันข้างหน้า ช่วยกันคนละนิดเติมเต็มกันคนละหน่อย ศิลปากรของเราจะได้ก้าวไปอย่างมั่นคงและแข็งแรง
อาจารย์สกุล บุณยทัต ท่านได้เขียนไว้ในเฟสบุ๊คส์ว่า..
สิบสอง ตุลาคม คือวันสถาปนามหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งจะมีอายุไค้หกสิบเก้าปีในปีนี้ และกำลังจะก้าวเข้าสู่ปืทื่เจ็ดสิบ สำหรับชาวศิลปากรทุกคน เรายังมีวันนี้อยยู่ในความทรงจำหรือไม่…. วันที่ถูกให้ค่าเพียงน้อยนิด ทั้งๆที่มันคือบทเริ่มต้นของความเป็นตัวตนแห่งเราในวันนี้ (THE ONENESS OF SILPAKORN)