น้ำปัสสาวะเป็นยารักษาโรค

น้ำปัสสาวะ

“อโรคยาปรมาลาภา” ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ เด็กน้อยอายุ 7 ขวบผู้หนึ่งได้ถามปัญหากับพระพุทธเจ้าว่า “หนทางแห่งประโยชน์นั้นมีประการใด” พระพุทธองค์ทรงตอบว่า อันหนทางแห่งประโยชน์นั้นประกอบกัน 6 ทางคือ

1. ความไม่มีโรค เป็นธรรมอย่างยอด เพราะบุคคลผู้ไม่มีโรคเท่านั้น ทรัพย์ที่ยังไม่ได้มาก็จะสามารถแสวงหามาได้ ทรัพย์ที่มีอยู่แล้วก็สามารถเพิ่มพูนได้ ทรัพย์ของตนก็ยังประโยชน์แก่ตนได้ ความตั้งใจมุ่งมั่นทั้งหลายก็จะสมความปรารถนา แม้การปฏิบัติธรรมย่อมลุล่วงไปได้ด้วยดี

2. ศีล ต้องรักษาเป็นจารีตปฏิบัติ ศีลเป็นพื้นฐานของสมาธิ สมาธิเป็นพื้นฐานของสติ สติเป็นพื้นฐานของปัญญา

3. คำสั่งสอนทั้งหลายของบัณฑิต ผู้ถึงพร้อมปรีชาญาณจะนำมาซึ่งปัญญาแก่ผู้ปฏิบัติตาม

4. ความเป็นผู้ได้สดับตรับฟังมาก ย่อมอาศัยประโยชน์ในโลกนี้ได้

5. ความประพฤติในสุจริตธรรม เว้นทุจริตธรรมเสีย ย่อมได้กัลยาณมิตร

6. ความไม่ย่อหย่อน ไม่ย่อท้อ ไม่ถดถอย ยังแต่ความสำเร็จ

ดังนั้น “สุขภาพ” จึงเป็นหัวใจในการดำรงชีวิตที่สำคัญของคนเรา ในสมัยพุทธกาลคนโบราณโดยทั่วไปอยู่กับธรรมชาติ และพระพุทธเจ้าได้กล่าวถึงน้ำปัสสาวะใช้รักษาโรคดังพบในพระไตรปิฎกในหลายๆเล่ม หนังสือเล่มนี้ได้ยกตัวอย่างพระสงฆ์และบุคคลที่ใช้น้ำปัสสาวะเป็นยารักษาโรค เช่น พระอาจารย์สิงห์ทน นราสโภ เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ท่านไม่ได้รักษาตามแพทย์แผนปัจจุบัน ท่านออกบวชรักษาศีลและอาศัยน้ำปัสสาวะนี่แหละเป็นยา มะเร็งท่านก็หายขาดไม่กลับมาอีกเลย ชาวบ้านบางคนเอาน้ำปัสสาวะให้ลูกดื่มเพื่อแก้อาการผมบางซึ่งก็ได้ผล ชาวบ้านบางคนเป็นโรคความดันโลหิตสูง แต่เดิมกินยาควบคุมความดันมาตลอด เมื่อดื่มน้ำปัสสาวะ ความดันลดลง งดกินยาแต่นั้นมา

ที่ประเทศอินเดีย โยคีสวามี สัตยานันทะ สรัสวดี แห่งรัฐพิหาร ได้สอนศาสตร์อมาโรลิด้วยน้ำปัสสาวะกับการล้างพิษออกจากร่างกาย และได้เขียนคุณค่าของน้ำปัสสาวะกับการรักษาเผยแพร่ออกไปทั่วอินเดียและโลกตะวันตกในนิตยสาร “Auto Urine Therapy”

โรคที่เห็นผลในการรักษาด้วยน้ำปัสสาวะได้ดีคือ โรคหอบหืด ภูมิแพ้ ท้องผูกเรื้อรัง โดยที่ประเทศอินเดียและในแอฟริกาใช้น้ำปัสสาวะรักษาโรคเอดส์ได้ผลดี นอกจากนี้ประเทศจีน ญี่ปุ่น เยอรมัน บราซิล ก็มีการใช้น้ำปัสสาวะในการรักษาโรคเช่นกันทั้งโรคปวดข้อ ไมเกรน ภูมิแพ้ โรคเอสแอลอี แผลไฟไหม้ เบาหวาน มะเร็งลำไส้ใหญ่ เชื้อราตามผิวหนัง ฯลฯ

ความตื่นตัวเกี่ยวกับความมหัศจรรย์ของน้ำปัสสาวะในการรักษาโรคด้วยการจัดการประชุมระดับโลกแล้ว 2 ครั้งและกำลังจัดเตรียมการประชุมครั้งที่ 3 ชื่อ The Third World Conference on Urine Therapy  ในวันที่ 1-4 พฤษภาคม พ.ศ.2556 ณ ประเทศบราซิล

ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เล่าถึงประสบการณ์ในการใช้น้ำปัสสาวะรักษาเหงือกอักเสบอย่างแรงแต่ไม่ยอมกินยาที่หมอจัดให้แต่รักษาด้วยน้ำปัสสาวะตัวเองผสมน้ำให้เจือจางแล้วเอามาอมไว้ในปาก และเอาน้ำปัสสาวะมาทาแก้มข้างที่ปวด สวนทวารหนักด้วยน้ำปัสสาวะผสมน้ำดื่มทำเช้าและก่อนนอน รวมถึงดื่มน้ำปัสสาวะแบบเจือจางด้วยปรากฎว่าอาการอักเสบหลงเหลือน้อยมาก ความปวดแทบไม่รู้สึกเลย

น้ำปัสสาวะยังใช้รักษาแผลผิวหนังถลอก กลากเกลื้อน สิวฝ้า (ส่วนผสมประกอบด้วยผงถ่าน 1 ส่วน ผงดินสอพอง 2 ส่วน ผสมด้วยน้ำปัสสาวะ หยดน้ำมันเขียวสูตรหมอเขียว) ได้ผลดี

ในหนังสือเล่มนี้ได้กล่าวถึงว่าน้ำปัสสาวะมีอะไรดี? จึงใช้รักษาโรคได้ สารสำคัญต่างๆ ในน้ำปัสสาวะ  อาหารบำรุงน้ำปัสสาวะ ฯลฯ

การดื่มน้ำปัสสาวะสำหรับผู้เริ่มต้นนั้นให้ดื่มทีละน้อย ผสมน้ำให้เจือจางเพื่อให้ร่างกายและจิตใจค่อยๆ ปรับตัว  ท่านพร้อมหรือยังกับการเริ่มต้นใช้น้ำปัสสาวะเพื่อการรักษาสุขภาพ หากสนใจอ่านเพิ่มเติมด้วยตนเองได้ที่

RM 252 น63 2554

นิดดา หงษ์วิวัฒน์.  ยาพระพุทธเจ้า : น้ำปัสสาวะเป็นยารักษาโรค.  กรุงเทพฯ : แสงแดด, 2554.

Leave a Reply

Tags

blog CONSAL KPI PULINET การจัดการความรู้ การดูแลสุขภาพ การทำงาน การท่องเที่ยว การบริการ การปฏิบัติงานล่วงเวลา การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาตนเอง การพัฒนาบุคลากร การลงรายการ การศึกษาดูงาน การอ่าน การเรียนออนไลน์ กิจกรรมสำหรับเด็ก กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมห้องสมุด ความสุข ค่ายห้องสมุด งานบริการ ธรรมะ นวนิยาย นักเขียน บรรณารักษ์ บริการชุมชน ประกันคุณภาพ ภาพถ่าย ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ วัด วันสำคัญ วารสาร สัมมนา สุขภาพ หนังสือ หนังสือบริจาค หนังสือและการอ่าน หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ห้องสมุด ห้องสมุด 24 ชั่วโมง อาหาร