ตลาด (ตึก) 50 ปี
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (8 เมษายน) ได้เข้าไปใน fb ของหอสมุดฯ ตามกืจวัตร เพื่อเข้าไปเช็ตเรตติ้ง สายตาพลันไปพบข้อความเชิญชวนว่า ….
มั่นใจ !!! ชาวทับแก้วเกิน 1,000 คน ไม่อยากให้ยุบ ….(แม่นแล้ว… มาแนวการเมืองแน่นอน…. ) อ่านต่ออีกนิด…
ตลาด 50 ปี (ใจนึก….ตลาดไหนหว่า รู้จักแต่สารพัดตลาดร้อยปี ละแวกนี้เหยียบจนปรุแล้วนี่นา)
ไม่รอช้าเพราะกลัวตกข่าว จะเสียยี่ห้อหมด จึงรีบคลิกๆ อ่าน
ตายละวา…. ตลาดนัดตอนเย็นที่ตึก 50 ปี นี่หว่า ไล่ๆ อ่าน อ๋อ……. เรื่องราวเป็นแบบนี้นี่จะเอง …..
แต่เราอยู่ในหอสมุดฯ กลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย เรื่องแบบนี้ถามใครไม่ไดนอกจากหนูใหญ่ ที่แจ้งแถลงไขว่าก็ได้ข่าวประมาณนี้มาเหมือนกัน
จึงนิสัยเสียด้วยการเกทับบอกข่าวว่า อิช้านมีข่าวเด็ดกว่าคือ บัดนี้มีนักศึกษากำลังหา fan ใน facebook แล้ว และจำนวนสมาชิก fan จะโตวันโตคืน จากหลักสิบที่เห็นบัดนี้เกือบครึ่งพันไปแล้ว….
ถามว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร…….
ตอบว่าเป็นเรื่องของ social networking ล้วนๆ นักศึกษาสามารถสื่อสารกันได้ง่ายกว่าเรามากมาย หากเรามะงึมมะงาหราช่องว่างระหว่างกันก็ยิ่งจะถ่างออกจากกันมากขั้น
สมัยก่อนต้องคอยไล่ๆ ตามอ่านเว็บบอร์ด แต่หลังๆ ปิดไปแล้วเกือบหมด ทำให้ไม่รู้ข่าวในอีกฟากหนึ่ง เหมือนปิดตาและปิดหูตัวเอง (ส่วนปากเราไม่ปิด) จากเว็บบอร์ดของวันก่อนก็กลายเป็นสื่อแบบอื่น แล้วก็คงไม่มีอะไรวันหยุดนิ่งแน่นอน ดังนั้นเราจำเป็นต้องเรียนรู้ มิฉะนั้นจะกลายเป็นแน่นิ่ง
ในฐานะที่เราทำงานในหอสมุดฯ ใช้สารสนเทศเป็นแหล่งทำมาหาเลี้ยงชีพ การอยู่แบบนี้เป็นการฝึกให้เราตระหนักถึงการแสวงหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เราชอบหรือไม่ชอบ ทำให้เราได้ขบคิดและคิดต่อได้อย่างรอบด้าน ดีกว่าคิดเอง เออเองว่าใช่…อย่างไม่มีอะไรมาสนับสนุน
การทำงานด้วยความรู้สึก กับการทำงานด้วยใช้ข้อมูลเป็นฐาน เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยประสบการณ์ การเรียนรู้ การจดจำ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เสริมแรงซึ่งกันและกัน ทำให้มองงานอย่างทะลุปรุโปร่งและแม่นยำ ขณะเดียวกันก็สามารถนำไปทบทวนวิธีการทำงานของเราได้อย่างง่ายดาย
กาใช้ชีวิตในเครือข่ายสังคมในวันหนึ่งๆ มีข่าวสารข้อมูลเกิดขึ้นมากมาย ทั้งที่เกี่ยวข้องกับเราโดยตรง หรือแบบเฉี่ยวๆ มีบวกหรือลบ แต่หากเราสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันไ้ด้กับคนในเครือข่าย มีการสื่อสารระหว่างกัน แม้จะจำนวนไม่มากแต่ก็ยังดีกว่าที่ไม่ทำอะไรเลย อย่างน้อยพวกเขาก็เป็นตัวแทนของผู้ใช้ห้องสมุด …
เมื่อตอนบ่ายเข้าไป fb … ก็มีเข้ามาทักทายบอกว่าอยากหอบหมอนเข้ามานอน ก็สนทนากันไปต่างถามไถ่ทุกข์สุขระหว่างกัน ไม่ต่างกับที่เราถามลูกหลานในห้องสมุดที่เดินผ่านหน้าเราไป เพียงแค่โลกแห่งความจริงกับโลกออนไลน์
ตอนนี้เวลาเกือบเที่ยงคืนสมาชิกของหอสมุดฯ จำนวนหกร้อยกว่าคน กำลังออนไลน์อยู่ 75 คน บางวินาทีของบางวันก็จะมีข้อความเด้งดึ๋งขึ้นมาบอกว่า นอนดึกจัง
ตอบไปว่า แอบดูเด็กๆ
เด็กตอบว่า 555++++ คริคริ หุหุ 😀 ^ ^ – – > < L T^T Y^Y ToT ^______^ ;D ;( ._. -.-
แปลว่าอะไรน่ะไม่รับแซร่บ (แซร่บ = ทราบ เด็กๆ มักใช้ตอบเวลาประกาศปิดหอสมุดฯ)
ตัวช่วยคือลูกน้อยกลอยใจ
สายใยเล็กๆ จะเหนียวแน่นและถักทอให้ยาวต่อไปได้ เพราะเราเชื่อว่าไม่ว่าเพื่อนของหอสมุดฯ ดำรงอยู่ในสถานภาพไหน ณ ปัจจุบันหรืออนาคต ทุกคนล้วนเป็นเพื่อนทั้งนั้น…………… แม้ต่างวัยก็เถอะ