ชายชราผู้อ่านนิยายรัก
ไล่สายตาบนรถเข็นหนังสือใหม่ของน้องแอน สะดุดกับชื่อ หลุยส์ เซปุลเบดา ทำให้ต้องหยิบหนังสือเล่มนี้โดยที่ยังไม่ได้อ่านชื่อเรื่องด้วยซ้ำ เพราะเคยอ่านหนังสือเรื่องนางนวลกับมวลแมวผู้สอนให้นกบิน ของผู้เขียนคนเดียวกันแล้วชอบมากมาย หน้าปกน่ารักเหมือนเดิม ไม่มีชื่อเรื่องเหมือนเดิม
ถ้าชื่อเรื่องหนังสือเป็นเสมือน Main Idea หรือ topic ของหนังสือ หนังสือเรื่อง “ชายชราผู้อ่านนิยายรัก”เล่มนี้ เมื่ออ่านยังไม่จบดี ก็ได้แต่นึกว่า ไม่เห็นจะเกี่ยวกับนิยายรักเลย แต่คิดดูแล้วฉันว่าฉันต้องคิดอะไรผิดแน่ ๆ เพราะชื่อในภาษาเดิมของหนังสือก็เป็นทำนองเดียวกับภาษาไทย คือ Que leia novelas de amor ผู้เขียนมือรางวัลระดับโลกคงไม่เขียนอะไรที่ง่าย ๆ แบบง่าย ๆ เป็นแน่
เปิดอ่านหน้าแรก ๆ ในส่วนของหมายเหตุของผู้เขียน ก็ทำให้เกิดความรู้สึกสะเทือนใจแล้ว เพราะผู้เขียนยกความดีของหนังสือ และรางวัลติเกร์ ฆวน ที่ได้รับให้กับเพื่อนที่เป็นผู้พิทักษ์ ปกป้องผืนป่าอเมซอน ถูกฆ่าจากฆาตกรรายใหญ่ ผู้แต่งสูทตัดอย่างดี เล็บมือสะอาด อ้างว่าทำเพื่อความเจริญ
ผู้เขียนบอกว่า ได้ฟังเรื่องเล่าที่เต็มไปด้วยมนตร์วิเศษของเพื่อนที่เป็นตัวแทนสหภาพชนเผ่าซูอาร์ และเป็นผู้พิทักษ์ป่าอเมซอน เกี่ยวกับโลกสีเขียวที่เป็นสวรรค์แห่งเส้นศุนย์สูตร
ตัวละครหลักจริง ๆ ของหนังสือเล่มนี้ คือ ชายชราที่ชื่ออันโตนิโอ โฆเช่ โบลิบาร์ /หมอฟัน ผู้มากับเรือที่นำของใช้เข้ามาสู่หมู่บ้านในป่าอเมซอน และเป็นผู้นำหนังสือนิยายรักสมหวังที่ชายชราชอบอ่านมาให้ /ผู้ใหญ่บ้านที่เห็นแก่ตัว บ้าอำนาจ และไม่ฉลาด / แม่เสือ ที่กำลังหิว โกรธที่ลูกถูกฆ่า เสือตัวผู้บาดเจ็บและรอความตาย
การดำเนินเรื่อง มาเข้มข้นตอนที่ชายชรา ตกลงออกล่าแม่เสือเพราะเพื่อความปลอดภัยของผู้คนในหมู่บ้าน ผู้เขียนเขียนเล่าด้วยความรู้สึกลึกซึ้งกับป่า รู้จักสัญชาติญานของเสือเป็นอย่างดี ตอนที่ชายชราไปพบเสือตัวผู้ที่ทรมานจากการถูกยิงและใกล้ตาย ชายชรา ก็จ่อปากลำกล้องปืนลงบนอกเสือตัวผู้ และบอกว่า “ข้าเสียใจนะ เพื่อนเอ๋ย เจ้าแยงกี้ลูกโสเภณีนั่นทำลายชีวิตพวกเราทั้งหมด” แล้วแกก็เหนี่ยวไกปืน และเมื่อต้องฆ่าเสือตัวเมีย …ชายชราลูบตัวมัน ลืมความเจ็บปวดขาข้างที่บาดเจ็บและร้องไห้ด้วยความละอายใจขณะรู้สึกว่าตนเองไร้ศักดิ์ศรี ชั่วช้าสามานย์ ไม่มีทางได้ชัยชนะแห่งสงครามครั้งนี้ ด้วยดวงตาแห่งความพร่ามัวจากน้ำตาและน้ำฝน แกผลักร่างของเสือตัวนั้นไปจนถึงริมฝั่งน้ำ และแล้วสายน้ำก็พัดพาร่างนั้นเข้าป่าลึก ถึงดินแดนที่ไม่มีคนผิวขาวมาบุกรุก กระทั่งบรรจบแม่น้ำอเมซอนไหลสู่สายน้ำต่าง ๆ ซึ่งถูกทำลายเพื่อก้อนหินเพียงไม่กี่ก้อน รอดพ้นจากพวกสัตว์ที่ไร้เหตุผลอันน่ารังเกียจตลอดกาลนาน หลังจากนั้นแกโยนปืนลงน้ำด้วนความโกรธ มองดูมันจมหายลงไปอย่างไร้ชัยชนะ สัตว์ร้ายในรูปโลหะอันไม่พึงประสงค์ของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล…
ย่อหน้าสุดท้ายของหนังสืออาจเป็นจุดที่เฉลยความขัดแย้ง (contrast) ของชื่อหนังสือและเนื้อเรื่องก็ได้ ..อันโตนิโอ โฆเช่ โบลิบาร์ โปรอานโญ่ ถอดฟันปลอมออก ใส่ผ้าเช็ดหน้า อดมิได้จะสาปแช่งไอ้แยงกี้ผู้ริเริ่มโศกนาฏกรรม ผู้ใหญ่บ้าน นักขุดทอง ทุกคนที่ทำให้ป่าอเมซอนสูญเสียความบริสุทธิ์ แกใช้มีดเดินป่าตัดไม้มาท่อนหนึ่ง และออกเดินทาง หันหลังให้เอล อิดิลิโอ จากกระท่อมของแก และนิยายรักที่เขียนด้วยถ้อยคำอันไพเราะเพราะพริ้ง จนบางครั้งทำให้แกลืมความป่าเถื่อนของมนุษย์ไป