สวัสดีค่ะ หลังจาก blog ที่แล้วได้รีวิวการนั่งรถไฟไปเชียงใหม่ครั้งแรกแล้ว วันนี้ก็จะขอพามาเที่ยวสถานที่หนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งใครที่มาถึงแล้วไม่ได้มาถือว่าพลาด ซึ่งสถานที่นั้นก็คือ “อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เชียงใหม่” เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ศูนย์กลางการเรียนรู้พืชสวนโลก มีการจัดแสดงพันธุ์ไม้หลากหลายชนิด การจัดแสดงนิทรรศการด้านการเกษตรและอื่น ๆ เพื่อการเรียนรู้สำหรับเยาวชนและประชาชนทั่วไป เพื่อการศึกษางานวิจัย และเป็นแหล่งพบปะกันในกลุ่มเกษตรกร ภายในพื้นที่มีการจัดภูมิสถาปัตย์อย่างสวยงาม

ก่อนเข้าก็ต้องซื้อตั๋วกันก่อน สำหรับราคาค่าเข้าชมนั้นไม่แพงค่ะ

ผู้ใหญ่ 100 บาท

เด็ก 70 บาท

หากมีบัตร ข้าราชการ – นักเรียน – นักศึกษา – ผู้สูงอายุ (แสดงบัตรประจำตัว) สามารซื้อในราคา 70 บาท

พระภิกษุ – คนพิการ และเด็กเล็กที่สูงไม่เกิน 100 ซม. เข้าฟรีค่ะ

เนื่องจากอุทยานมีเนื้อที่ 400 กว่าไร่ หากใครอยากจะปั่นจักรยานชิวชิว เพื่อชมรอบๆ ก็สามารถเช่าได้ค่ะ ซึ่งราคาก็เบาๆ เพียง 60บาท/คน/คัน/ครั้ง เท่านั้นค่ะ

เข้าไปดูด้านในกันดีกว่านะคะ หลังจากที่เดินผ่านจุดซื้อตั๋วเพื่อเข้าชม เราก็จะมาถึงประตูทางเข้า ซึ่งสวยงามมากๆค่ะ

เดินเข้ามาอีกนิดก็ถึงจุดบริการรถราง ค่าบริการรถรางเพียง 20 บาทต่อรอบค่ะ มีเจ้าหน้าที่คอยบรรยายข้อมูลให้ฟังตลอด
รถรางจะจอดตามจุดรับ – ส่งต่างๆ เราสามารถกระโดดขึ้นลงได้ตามจุดที่สนใจค่ะ พร้อมแล้วเราไปชมด้านในอุทยานกันเลย…

รถรางเริ่มออกแล้ว อากาศเย็นสบายเนื่องจากฝนตกโปรยปลายตลอดการชมอุทธยาน เลยทำให้การเดินทางในวันนี้เย็นชุ่มฉ่ำมากๆ รถก็จะขับวนไปเรื่อยตามเส้นทาง ผ่านสวนที่ถูกจัดขึ้นอย่างสวยงาม ซึ่งมีสวนหลากหลายรูปแบบจากประเทศต่างๆ บางรูปก็จำได้ว่ามาจากที่ไหน บางรูปก็จำไม่ได้ ก็ต้องขออภัยไว้ก่อนล่วงหน้านะคะ อิอิ และเนื่องจากฝนตกโปรยปราย เลยไม่ได้ลงไปถ่ายรูปด้านในนะคะ

 

สวนแรกที่ผ่าน(และจำได้) คือสวนกล้วยไม้ ที่ไม่ใกล้ม้วย เพราะสวยและดูแล้วสดชื่นมากๆ ถัดไปอีกนิดเป็นสวนทืี่จัดโดยประเทศเกาหลี

และจุดเด่นของอุทธยานฯ ซึ่งถ้าใครมาเที่ยวสวนราชพฤกษ์ฯแล้วไม่ได้เข้าไปเที่ยวชม หอคำหลวง ก็นับว่ายังมาไม่ถึงสวนราชพฤกษ์ เพราะ “หอคำหลวง” ซึ่งถือว่าเป็นพระเอกของงาน มีที่ผู้คนสนใจเข้าไปเที่ยวชมมากที่สุด ซึ่งไกด์ที่นำชมนั้นได้อธิบายให้ฟังว่า  “หอคำหลวง”เป็นอาคารที่สร้างขึ้นตามแบบสถาปัตยกรรมล้านนา โดยอาศัยแนวคิดมาจากการสร้างหอคำทางภาคเหนือ ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญสำหรับออกว่าราชการและใช้ในการประกอบพระราชพิธีต่าง ๆ ของเจ้าหลวงล้านนาในอดีต ภายในหอคำหลวง มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องราวพระราชกรณียกิจอันเกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาด้านต่าง ๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในการเสด็จเยี่ยมราษฏรตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ทรงครองราชย์ และ บริเวณชั้นล่างสุดของหอคำหลวง ยังเป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการพระอัจฉริยภาพด้านการเกษตร รวมถึงความเป็นกษัตริย์นักพัฒนาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับโครงการที่เดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท แต่เนื่องจากสายฝนที่โปรบปรายดิฉันจึงไม่ได้ลงเข้าไปดูทางด้านใน (น่าเสียดายมากๆ ) แต่บรรยากาศรอบๆ ก็สวยงามไม่แพ้ด้านในแน่นอนค่ะ อิอิ

 

 

เรือนร่มไม้ค่ะ

รถรางวนไปได้ประมาณ 20-30 นาที ก็หมดรอบ แต่ยังมีอีกหลายๆสวนจากประเทศต่างๆ ที่ไม่ได้ถ่ายมา ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ เรามาเปลี่ยนบรรยากาศมาชมสวนดอกไม้กันบ้างดีกว่าค่ะ ที่นี่มีดอกไม้สวยๆ หลากหลายสายพันธุ์ รู้จักบ้างไม่รู้จักบ้างไม่เป็นไรค่ะ เพราะที่นี่มีชื่อติดเพื่ออำนวยความสะดวกไว้สำหรับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ ในส่วนนี้ขอเน้นเป็นรูปดอกไม้สวยๆนะ พยายามจะคัดรูปให้เหลือน้อยแล้ว แต่อดไม่ได้จริงๆ อยากจะแบ่งปันรูปสวยๆค่ะ

 

ก่อนกลับตรงบริเวณทางออกมีร้านขายของฝากเล็กๆน่ารัก ทั้งผลไม้และดอกไม้ค่ะ

สุดท้ายขอลงรูปสวยๆคู่กับดอกไม้สักหน่อยค่ะ