ทีม
เมื่อไม่นานี้มีโอกาสได้สนทนากับผู้บริหารทั้งในและนอกองค์กร ที่ในกลุ่มมองพฤติกรรมคนของสังคมรอบๆ ตัว สิ่งที่มองคือ การรับประทาน การสนทนา และการแสดงความคิดเห็น มีคำหนึ่งที่ติดใจคือคำว่า individual
individual แปลว่า แต่ละบุคคล รายบุคคล เช่นพวกเราต้องมีแผนพัฒนารายบุคคล ศัพท์สูงๆ ที่ต้องแปลความซ้ำอีกคือคำว่า ปัจเจกบุคคล ซึ่งสำนักงานราชบัณฑิตยสถาน (2555) อธิบายไว้ว่า ปัจเจก หมายถึง เฉพาะตัว เฉพาะบุคคล ตามลำพังไม่มีผู้อื่นสิ่งอื่นเข้ามาร่วมด้วย คำว่า ปัจเจก ส่วนใหญ่จะไม่ใช้คำเดียวโดด ๆ แต่จะใช้นำหน้าคำอื่นเพื่อให้มีความหมายว่าเฉพาะผู้เดียวอย่างเดียว ปัจจุบันมีผู้ใช้คำว่า ปัจเจก หมายถึง ความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ตามอย่างใคร เช่น คนบางคนมีความเป็นปัจเจกสูง ไม่ตามกระแสสังคม
สำนักงานราชบัณฑิตยสถาน มีการนำภาษาไทยจัดทำบทวิทยุรายการ “รู้ รัก ภาษาไทย” ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ช่วงประมาณเจ็ดโมงเช้า ดิฉันชอบรายการนี้มากเพราะนอกจากได้รับความรู้แล้วยังเป็นรายการที่เป็นบทสนทนาระหว่างแม่-ลูกในระหว่างการเดินทาง และเป็นรายการที่เราใช้แทนการดูนาฬิกา หากฟังได้ฟังรายการนี้ก่อนถึงบิ้กซี แปลว่าทำท่าจะสายแล้ว หากไปถึงแยกริวเว่อร์ แปลว่ายังเช้าอยู่
การเป็นคน individual จึงฟังดูแล้วไม่น่าจะดูดีนัก ในวงสนทนาดิฉันบอกไปว่าดิฉันก็เป็นในบางครั้ง แต่ขอใช้คำว่า อินดี้ แทน จากการอ่านบอกกันว่า indy มาจากคำว่า individual แต่ในความรู้สึกแล้วน่าจะบวกอารมณ์ติสต์ๆ มีสไตล์แบบฟุ้งๆ วันก่อนดิฉันถามหาเรื่องความเป็นทีม ด้วยเสียงอันดังจนตัวเองต้องกลับไปค้นคว้าหาอ่านว่า สิ่งที่คิดว่ารู้และเข้าใจ ใช่หรือไม่
คำว่า ทีม มาจากคำว่า Team ที่แปลกันสั้นๆว่า คณะ กลุ่ม กรุ๊ป แต่หากเป็นก๊ก เป็นเหล่า น่าจะใช้คำว่า แก๊งค์ หรือ gang เนื่องจากคำแปลของ gang มีคำว่า กลุ่ม ซ้อนอยู่ด้วย ดังนั้นเพื่อให้เข้าใจมากขึ้น จึงไปถามกูเกิ้ลโดยใช้คำค้นว่า what difference between team and group (โปรดสังเกตว่าไร้ซึ่งไวยากรณ์) มีข้อมูลเยอะแยะและมีภาพที่ถูกใจ ดีต่อใจที่ภาพมีลายน้ำเพราะมีการเผยแพร่กันมากจนไใ่ทราบว่าต้นแหล่งคือที่ใด
มีคนใจเดียวกันที่เขียนบล๊อก เรื่องทีม (Prathan D., 2015) และนำภาพนี้ไปประกอบด้วย และที่ประเสริฐคือแปลอย่างสละสลวยให้ว่า ทีมไม่ใช่แค่กลุ่มคนที่เอามานั่งรวมๆ กันแล้วให้ทำงาน แต่เป็นกลุ่มคนที่เชื่อใจซึ่งกันเและกันที่จะทำงานไปด้วยกัน อ่เป็นบล็อกของคนรุ่นใหม่ ที่มีเรื่องที่น่าสนใจน่าติดตาม เช่น บอกว่า ประสบการณ์ เกิดจากการลงมือ จากองค์ความรู้ ที่เกิดจากการเรียน พูดคุย แลกเปลี่ยน การอ่าน เป็น หนึ่งในเส้นทางการเพิ่ม องค์ความรู้ และขอสรุปความหมายของทีมว่าจะต้องมีคุณลักษณะดังนี้ คือ
- รับผิดชอบงานในที่ทำงานได้ถูกต้องตามความต้องการร่วมกันทั้งในทีมทำงานเดียวกันและกับทีมอื่นๆ ที่ต้องทำงานร่วมกัน
- ร่วมทำงานกันแบบพึ่งพาอาศัยช่วยเหลือกันทั้งในทีมทำงานเดียวกันและกับทีมอื่นๆ ที่ต้องทำงานร่วมกัน
- รับผิดชอบทุกอย่างร่วมกันทั้งในทีมทำงานเดียวกันและกับทีมอื่นๆ ที่ต้องทำงานร่วมกัน
- มีข้อตกลงในการทำงานร่วมกันทั้งในทีมทำงานเดียวกันและกับทีมอื่นๆ ที่ต้องทำงานร่วมกัน
- รับผิดชอบในการทำงาน บริหารจัดการและดูแลความสัมพันธ์ทั้งในทีมทำงานเดียวกันและกับทีมอื่นๆ ที่ต้องทำงานร่วมกัน
- ไม่มีใครเป็นผู้นำใคร ทุกๆ คนเสมอภาคหรือถ้าจะมีก็ผลัดๆ กันเป็นผู้นำในแต่ละสถานการณ์
ชอบ เพราะถูกจริตจึงรีบบุ๊คมาร์คเก็บไว้ตามอ่าน แม้จะฉลาดน้อยเรื่องคณิตศาสตร์แต่สรุปให้ตัวเองฟังว่า กลุ่ม จึงเป็น subset ของ ทีม
ข้างๆเครื่องคอมพิวเตอร์มี Competency ที่ติดเอาไว้เตือนใจตัวเอง อดไม่ได้ที่กลับไปหาอ่านคำจำกัดความของการทำงานเป็นทีม เอกสารบอกว่า หมายถึงความตั้งใจที่จะทำงานร่วมกับผู้อื่น เป็นส่วนหนึ่งของทีม หน่วยงาน หรือส่วนราชการ โดยผู้ปฏิบัติมีฐานะเป็นสมาชิก ไม่จำเป็นต้องมีฐานะหัวหน้าทีม รวมทั้งความสามารถในการสร้างและรักษาสัมพันธภาพกับสมาชิกในทีม ว่ากันว่าจะทำให้องค์กรดีขึ้น องค์กรจะดดีขึ้นหรือไปทางไหนสมาชิกเป็นส่วนที่สำคัญ
อาจารย์ชาญชัย อาจิณสมาจาร สรุปว่าทีมงานเป็นการ รวมตัว หากไม่สามารถรวมตัวกันได้ทีมย่อมไม่เกิด ตัดสินใจ การ ตัดสินใจของทีมที่ดีที่สุดนั้น ควรเกิดจากการลงมติเป็นความเห็นร่วมกัน ควรหลีกเลี่ยงการตัดสินใจด้วยวิธีการโหวต ทั้งนี้เพื่อไม่ให้มีใครรู้สึกว่าเป็นฝ่ายแพ้ และจะได้ร่วมกันทำงานเพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายของทีมต่อไป สื่อความ คือ มีการสื่อความภายในกลุ่มอย่างมีประสิทธิภาพ ประสานกลุ่มอื่น ในการทำงานเป็นทีมจำเป็นต้องประสานงานกับกลุ่มอื่น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของทีมและขององค์กรโดยรวม และ ไว้ใจ คือ การสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจภายในทีม ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเรารู้จักไว้ใจคนอื่นและขณะเดียวกันเราก็ต้องทำตัวให้คนอื่นไว้ใจด้วยเช่นกัน นี่คือ บทบาทเพื่อการพัฒนาทีมให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
อ่านเรืองนี้เยอะพอจะสรุปว่าหากอยากให้ทีมไปต่อได้ ผู้ร่วมทีมจะต้องมีทักษะต่างๆ เช่น 1) การประสานงาน 2) การสื่อสารแบบเปิดเผย จริงใจ ไม่นินทา รู้จักฟัง ไม่กล่าวคำปฏิเสธจนกว่าจะได้พยายามแล้ว นำความจริงมาพูด เหตุการณ์จริงมาคุย อย่าใช้ความรู้สึกคิดก่อนทำ (ไม่ทำโดยไม่คิด) เพราะจะเสียเวลาคุยแล้วหาข้อสรุปไม่ได้ 3) การสร้างปฏิสัมพันธ์ให้เข้าใจกัน/เห็นใจกัน นึกเราเราเป็นเขา และเขาเป็นเรา 4) ไม่ทอดทิ้งกัน ปล่อยให้เพื่อนรับภาระ ช่วยกันมองงานให้ทะลุในจุดที่คิดว่าทำไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ ทนไม่ได้ และความหวาดระแวงผู้อื่น 5) การแก้ปัญหา การตัดสินใจและหาสาเหตุจากจุดเล็กๆ จนถึงการแก้ไขในภาพรวม 6) ช่วยเหลือเกื้อกูลกันอย่างมุ่งมั่น 7) ให้เกียรติและไว้วางใจ 8) มีจิตสำนึกในหน้าที่และความรับผิดชอบ 9) ทราบว่ากำลังทำอะไรอยู่มองไปในทิศทางเดียวกัน มองไกลถึงอนาคต มากกว่าการให้ความสนใจแค่การทำงานที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนั้น และ 10) เรียนรู้การทำงานและบทบาทหน้าที่ของเพื่อนและรู้จักขยายการเรียนรู้ให้กับตนเองรวมทั้งศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
เรื่องอะไรก็แล้วแต่ทุกคนทราบดีว่าอยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น เริ่มที่ตัวเราง่ายที่สุด เนอะ 😯
อ้างอิง
สำนักงานราชบัณฑิตยสถาน. (2555). ปัจเจก. สืบค้นจาก http://www.royin.go.th/?knowledges=%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%81-%E0%B9%91%E0%B9%97-%E0%B8%98%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A1-%E0%B9%92%E0%B9%95%E0%B9%95%E0%B9%95
การทำงานเป็นทีม ช่วยเหลือองค์กรได้อย่างไร. สืบค้นจาก. http://www.hrtothai.com/Articles/Index/385
ชาญชัย อาจิณสมาจาร. (ม.ป.ป.). เทคนิคการพัฒนาทีมงาน (Developing Teamwork Techniques). สืบค้นจาก. http://www.train.cdd.go.th/idp57/photo/334190083590030705.docx
Prathan D. (2015). มารู้จัก Feature Team กัน ตอนที่ 1:ทอ-อี-มอ อ่านว่า ทีม. สืบค้นจาก. http://www.scrum123.com/scrum-roles/development-team/what-is-feature-team-less-works-part-1-team/