เมื่อนึกถึงอาหารทะเลโดยเฉพาะปลา เชื่อว่าคนไทยแทบทุกคนต้องนึกถึง “ปลาทู” เป็นอันดับแรกๆแน่นอน เพราะปลาทูอยู่คู่กับครัวไทยและคนไทยมาช้านาน ในสมัยก่อนปลาทูคือสินค้าส่งออกของประเทศเชียวนะในรูปของปลาทูเค็ม เพราะสมัยก่อนโน้นอ่าวไทยถือเป็นแหล่งรวมของปลาทูที่ชุกชุมมาก ต่างจากในยุคปัจจุบันที่เราต้องไปหาแหล่งจับปลาทูจากประเทศเพื่อนบ้านในแถบอาเซียนเป็นหลัก ส่วนปลาทูสัญชาติไทยแท้นั้นแหล่งสำคัญอยู่ที่ “แม่กลอง” ปากอ่าวไทยของเรานี่แหละ ปลาทูแม่กลองของแท้ต้องตัวสั้น หนังบาง เนื้อนิ่มมัน  เมื่อนำมาทำเป็นปลาทูนึ่งที่ต้องบรรจุลงเข่งจึงต้องหักคอปลาทูเพื่อให้พอดีกับขนาดของเข่ง และแหล่งทำปลาทูนึ่งที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของประเทศก็ที่แม่กลอง เมืองสมุทรสงครามนี่เอง ดังนั้นปลาทูแม่กลองของแท้จึงต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใครคือต้อง “หน้างอคอหัก” และกลายเป็นสัญญลักษณ์ของสินค้าขึ้นชื่อเป็นของดีประจำจังหวัดสมุทรสงคราม มีการจัดงานเทศกาลปลาทูเป็นประจำทุกปีมานานนับสิบปีแล้ว
ปลาทูนั้นถือเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่ทำรายได้และก่อให้เกิดอาชีพได้เป็นอย่างดี เรานำปลาทูมาประกอบอาหารได้หลากหลายอย่าง แต่ที่เราคุ้นชินและกินกันมาแต่ไหนแต่ไรก็คือ ปลาทูทอด ที่เรามักจะกินควบคู่กับน้ำพริกกะปิและผักจิ้มนานาชนิด จนกลายเป็นอาหารโปรดของคนไทยส่วนมากนั่นคือเมนูที่ชื่อว่า น้ำพริกปลาทู (นึกแล้วอยากกินขึ้นมาทีเดียวเชียว) มีคนกล่าวว่าปลาทูนั้นทำอะไรก็อร่อยโดยเฉพาะการนำไปทำเป็นกับข้าวชนิดต่างๆในกระบวนการต้มยำทำแกงทั้งหลาย ปัจจุบันมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทำจากปลาทูเป็นของขบเคี้ยวสำหรับกินเล่นและได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีมานี้ก็คือ ข้าวเกรียบปลาทู ที่ผลิตออกมาขายเหมือนข้าวเกรียบกุ้งที่มีมาแต่ดั้งเดิม
ในเมื่อปลาทูแม่กลองเป็นสินค้าขึ้นชื่อที่อยู่คู่มากับคนแม่กลองมานานแสนนาน ปัจจุบันมีผู้นำผลิตภัณฑ์ปลาทูนึ่งมาพัฒนาจนเกิดเป็นสินค้าตัวใหม่ ในชื่อว่า “ปลาทูนึ่งก้างนิ่ม” โดยคุณ อาทิตยา อมาตยกุล ซึ่งเป็นชาวแม่กลองโดยกำเนิด เธอทดลองทำจนประสบผลสำเร็จถือเป็นนวัตกรรมใหม่และจดอนุสิทธิบัตรไว้แล้ว ใช้แบรนด์สินค้าเป็นชื่อของเธอเอง โดยปลาทูนึ่งก้างนิ่มที่ว่านี้สามารถกินก้างได้ด้วยไม่ต้องกลัวก้างติดคอ(แมวหมาถึงคราอดละงานนี้!) นอกจากปลาทูนึ่งก้างนิ่มแล้ว เธอยังทำปลาทูซาเตี๊ยะ(ปลาทูต้มเค็ม) ออกมาจำหน่ายด้วย โดยเน้นการขายผ่านทางออนไลน์ และการออกงานประจำจังหวัด แล้วล่าสุดเธอเปิดขายแบบแฟรนไชส์ด้วย  ราคาขายก็ค่อนข้างสูงกว่าปกติทั่วไปคือ ปลาทูนึ่งก้างนิ่มเข่งละ 60-65 บาท (มี 3-4 ตัวต่อเข่ง) ส่วนปลาทูซาเตี๊ยะ 3 ตัว 90 บาท (บรรจุกล่องให้)  ด้วยต้องใช้เทคโนโลยีในการผลิตที่ต้องลงทุนพอสมควร ก้าวต่อไปที่เธอจะผลิตคือ ปลาทูอบกรอบทั้งตัว สามารถฉีกซองแล้วรับประทานได้ทันที เป็นไงล่ะปลาทูเริ่มไม่ธรรมดาแล้วใช่ไหม? จากปลาทูนึ่งแบบบ้านๆธรรมดาที่ขายกันในท้องตลาดทั่วไป ถูกพัฒนาไปอีกรูปแบบหนึ่งขยับฐานะไปเป็นสินค้าในตลาดออนไลน์แล้วจ้า
ขอบคุณข้อมูลจากเว็บ  http://manager.co.th/iBizChannel.