ชมความงามของ ทะเลเจดีย์……ที่เมืองพุกาม

ยอดเจดีย์ทอง...อยู่ทางทิศตะวันออกของริมแม่น้ำอิระวดี..... ล่มสลายในปลายศตวรรษที่ ๑๓
ทุ่งเจดีย์ทอง…อยู่ทางทิศตะวันออกของริมแม่น้ำอิระวดี….. ล่มสลายในปลายศตวรรษที่ ๑๓

มิงกะลาบา  ทักทายเพื่อนบ้าน
ฉันไปพุกาม กับแก๊ง “คนรักษ์วัด งานศิลป์ และโบราณสถาน”   เพื่อนบ้านอาเซียน
เริ่มเดินทาง ตีสี่ เพื่อที่จะขึ้นเครื่องที่ … สนามบินดอนเมือง  แล้วไปลงที่มัณฑะเลย์… นั่งรถตู้ไปตามถนน… ที่สร้างใหม่ มีเก็บค่าผ่านทางด้วยนะ….หลายด่าน   มุ่งสู่พุกาม…..ใกล้ค่ำ
ชื้อตั๋วเข้าชมโบราณสถาน ถึงแม้จะค่ำ แต่ตั๋วสามารถเข้าชมโบราณสถานเขตเมืองพุกามได้ ๑ อาทิตย์ นับตั้งแต่วันที่ออกบัตร ค่าตั๋วแพงมาก เข้าได้เฉพาะโชนโบราณสถานเมืองพุกามถ้าไปที่ใหม่ เสียตังค์อีก
ประวัติ เมืองพุกาม  ฝรั่งเรียกว่า บากัน (Bagan) 
อาณาจักรพุกามเริ่มสถาปนาขึ้นในปี พ.ศ. ๑๕๘๗-๑๘๓๑ นับเป็นสมัยกาลอันชนชาติพม่าเริ่มก้าวสู่ความมีอำนาจในลุ่มน้ำอิระวดีโดยพระเจ้าอโนรธา หรืออนิรุทธิ์ ผู้ทรงครองราชย์ในปี พ.ศ. ๑๕๘๗-๑๖๒๐ นับเป็นกษัตริย์พระองค์แรกที่ได้ทรงรวบรวมพม่าให้เป็นปึกแผ่นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  โดยมีอำนาจหรือกลุ่มเชื้อชาติอื่น เช่น ยะไข่ มอญ ไทยใหญ่รวมอยู่ด้วย ทั้งยังได้ทรงยกทัพไปตีดินแดนใกล้เคียงหลายแห่ง รวมทั้งยึดเมืองศรีเกษตรของชนเผ่าปยูไว้ได้
เรื่องราวของพระเจ้าอโนรธา ผู้ทรงเป็นมหาราชองค์แรกของพม่านั้น ประวัติศาสตร์ตอนหนึ่งได้จารึกไว้ว่า
พระราชบิดา ของพระเจ้าอโนรธาถูกบังคับให้ทรงผนวชเป็นพระภิกษุ และมอบราชบัลลังก์ให้ผู้แย่งราชสมบัติในขณะที่พระองค์ยังทรงพระเยาว์ แต่ด้วยความเป็นผู้ได้รับการอบรมวิชาการทหารและทรงกล้าหาญอยู่แล้ว เมื่อทรงเจริญวัยขึ้นจึงได้ถึงกับท้าทายผู้แย่งชิงราชสมบัติไปจากพระราชบิดาให้มาต่อสู้กับพระองค์ตัวต่อตัว แล้วฆ่าเสีย ต่อจากนั้นก็ได้ทรงอัญเชิญพระราชบิดามาทรงครองราชย์ต่อไป”
     พระเจ้าอโนรธา ได้ทรงยกทัพไปตีเมืองสะเทิมในปี พ.ศ. ๑๖๑๐ ทั้งนี้ก็เนื่องด้วยพระเจ้ามนุหะไม่ทรงยอมให้มีการคัดลอกพระไตรปิฏก ที่ทรงสนพระทัยเป็นอย่างยิ่ง ด้วยทรงนับถือพุทธศาสนาและอุปถัมภ์ศาสนาพุทธฝ่ายหินยาน จึงจำเป็นต้องมีพระไตรปิฏกฉบับที่ถูกต้องไว้เป็นหลัก ดังนั้นจึงทรงยกทัพบกทัพเรือไปโจมตีเมืองสะเทิม จับเชลยชาวมอญมาได้สามหมื่นคน รวมทั้งพระเจ้ามนุหะ พระไตรปิฏกสามสิบชุด ช่างฝีมือ ข้าราชสำนัก และสมณชีพราหมณ์มาไว้ ณ เมื่องพุกาม
พุกาม หรืออีกสมัญญาหนึ่งคือ อริมัทนะปุระ มีความหมายว่าเมืองปราบศัตรูพ่าย
เมื่อครั้งอดีต เคยสะพรั่งพร้อมมหาศาลด้วยวิหารเจดีย์และสำนักสงฆ์ ราวห้าพันแห่ง  หาก ณ ปัจจุบัน หลังจากถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของกองทัพมองโกล เหลือเพียงเจดีย์วิหารประมาณ สองพันแห่ง
ข้อมูลนี้ เอามาจากหนังสือ ยอดเจดีย์ทองสองฟากอิรวดี เขียนโดย คุณกฤษณา อโศกสิน
เจดีย์ทั้งหลายในพุกามสร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของชาวพุกาม ที่เชื่อว่า เจดีย์ คือสัญลักษณ์แทนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พุกามมีทั้งเจดีย์และเจดีย์วิหาร ซึ่งความต่างกันจะอยู่ที่
พระพุทธรูปภายในวิหารเจดีย์
พระพุทธรูปภายในวิหารเจดีย์

เจดีย์ เป็นเจดีย์ต้นๆ เข้าไปข้างในไม่ได้
เจดีย์วิหาร  ข้างในเจดีย์จะมีพระประธาน เข้าไปสักการะ ประกอบพิธีกรรมได้
สองข้างทาง สัมผัสได้ถึงบรรยากาศเมืองโบราณที่มีแต่ต้นไม้ เป็นสังคมชนบทที่เคยได้สัมผัสในอดีต
 
บรรยากาศรอบทะเลเจดีย์...เมืองพุกาม
บรรยากาศรอบทะเลเจดีย์…เมืองพุกาม

รอบ ๆ ตัวเรามีแต่เจดีย์ เหมือนทุ่งนาตามบ้านนอก ฉันเตรียมผ้ากราบพระ  เพื่อไปกราบพระพุทธรูปที่เจดีย์  และดอกไม้ ตามแต่จะหาได้ในท้องถิ่น ไปสักการะ พระพุทธรูป  ตอนที่เรามาถึง ก็เกือบค่ำแล้ว รุ่งเช้า แก๊งเราก็ไปชมพระเจดีย์ กันต่อ  บางคนถ้าไม่เดินก็ใช้บริการ นั่งรถม้า ชมบรรยากาศรอบๆ พระเจดีย์  แล้วถึงจะไปชมเจดีย์องค์ อื่นๆ ต่อไปอีก
สิ่งที่ประทับใจ เห็นชาวบ้านนำดอกไม้ ต้นไม้ ยอดไม้   กิ่งไม้ ที่สวยงาม ที่ปลูกในท้องถิ่น  นำไปบูชาพระพุทธรูป  ด้วยแรงศรัทธา
ความรู้ … ความสุข …..ความสนุกสนาน  และตามรอยประวัติศาสตร์……     ถ้ามีโอกาสจะกลับไปเยือนที่ เมืองพุกามอีกหลายๆๆๆ ครั้ง  ยังเที่ยวไม่ทั่วเลย  สาธุ…

Leave a Reply

Tags

blog CONSAL KPI PULINET การจัดการความรู้ การดูแลสุขภาพ การทำงาน การท่องเที่ยว การบริการ การปฏิบัติงานล่วงเวลา การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาตนเอง การพัฒนาบุคลากร การลงรายการ การศึกษาดูงาน การอ่าน การเรียนออนไลน์ กิจกรรมสำหรับเด็ก กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมห้องสมุด ความสุข ค่ายห้องสมุด งานบริการ ธรรมะ นวนิยาย นักเขียน บรรณารักษ์ บริการชุมชน ประกันคุณภาพ ภาพถ่าย ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ วัด วันสำคัญ วารสาร สัมมนา สุขภาพ หนังสือ หนังสือบริจาค หนังสือและการอ่าน หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ห้องสมุด ห้องสมุด 24 ชั่วโมง อาหาร