การที่คนเรามีผิวพรรณสวยสดใส แลดูอ่อนกว่าวัยคือสิ่งที่หลายคนปรารถนากันทั้งนั้น มีคำกล่าวหนึ่งว่า “ความสวยที่แท้จริงและยั่งยืนนั้นต้องเริ่มต้นจากภายใน จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เครื่องบำรุงผิวและเครื่องสำอางต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ เพื่อปรนนิบัติ และดูแลรักษาผิวสวยนั้น แม้จะดูแลผิวพรรณโดยตรง แต่ก็เป็นการดูแลเพียงภายนอกเท่านั้น แต่การที่ผิวพรรณจะมีสุขภาพที่ดีที่สุด และคงความสวยงามอยู่คู่กับร่างกายไปได้ยาวนานนั้นจะต้องดูแลรักษาจากภายใน ซึ่งปัจจุบันสำคัญที่สุด และเป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามก็คือ อาหารที่เรารับประทานเข้าไปในแต่ละวัน
การที่ร่างกายของเราได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณอย่างครบถ้วน สม่ำเสมอ เป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยาก อาหารสำหรับผิวพรรณที่เราสามารถจะรับประทานได้บ่อยๆ และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยไม่ต้องพึ่งอาหารเสริมราคาแพงก็มีอยู่มากมายหลายชนิด ได้แก่ น้ำดื่ม ทำหน้าที่สำคัญกับทุกระบบภายในร่างกาย เพิ่มความชุ่มชื้นภายในเซลล์ของร่างกาย รวมไปถึงเซลล์ผิวหนังอีกด้วย เราควรดื่มน้ำวันละ 1-5-2 ลิตรต่อวัน (6-8 แก้ว) เป็นต้น
ผักบร็อกโคลี ซึ่งเป็นผักสีเขียวที่มีประโยชน์มาก มีสรรพคุณช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวหนังอีกด้วย การรับประทานบร็อกโคลี เป็นประจำ จะช่วยชะลอไม่ให้ผิวพรรณเหี่ยวย่นง่าย ทำให้ผิวแลดูอ่อนกว่าวัย ปลาแซลมอน ก็เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีจะช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอช่วยยืดหยุ่นให้กับผิวหนังด้วย ปลาแซลมอนยังเป็นแหล่งสำคัญของกรดโอเมก้า 3 ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระลดการอักเสบระคายเคืองผิวป้องกันการเกิดรอยแดงที่ผิวและริ้วรอยต่างๆได้ น้ำมันมะกอก เป็นน้ำมันจากพืชที่มีข้อดี คือ มีกรดไขมันโอเมก้า 9 ซึ่งเป็นกรดไขมันชนิดดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นตัวควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ ทำให้ผิวดูอ่อนกว่าวัย  มะเขือเทศ คนส่วนใหญ่รู้ดีว่า การรับประทานมะเขือเทศ จะช่วยให้ผิวดูสวยอมชมพู แต่แท้จริงแล้ว มะเขือเทศมีประโยชน์ช่วยป้องกันผิวจากอนุมูลอิสระ ช่วยการต่อต้านการเกิดมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม อาหารเหล่านี้จะช่วยให้เรามีสุขภาพผิวที่ดี แต่การรับประทานอาหารประเภทใดประเภทหนึ่งในปริมาณที่มากเกินไป อาจจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ ดังนั้นในการรับประทานอาหารจึงให้ครบ 5 หมู่ และรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมพอดี จึงจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อการดูแลสุขภาพ และทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้การมีผิวสวย และสุขภาพที่ดีคงอยู่กับเราไปนานๆ
 
แหล่งข้อมูล ได้มาจาก วารสารประชาสัมพันธ์โรงพยาบาลคริสเตียน นครปฐม