ตลาดน้ำอัมพวา
หลังจากที่หัวบานจากงาน ตกเย็นจึงไปเที่ยวตลาดอัมพวา เพราะนานๆ จะมีวันหยุดยาวๆ ที่อยู่พร้อมหน้ากันสักที ออกจากที่นี่ประมาณห้าโมงเย็น น้องๆ ที่อยู่เวรถามว่าจะไปไหน บอกว่าไปอัมพวา เสียงบอกว่ารอด้วยยย แต่ใสเจีย…เสียใจ….รอม่ายด้ายค่ะ
ก่อนไปก็รับประทานแล้วก็บึ่งตรงไปอัมพวา ไปทางดำเนินสะดวก แต่ขากลับเราไม่กลับทางนั้นเพราะถนนเส้นที่บ้านจะขนานกับเส้นขาไป โดยจะออกแยกที่เรียกว่าหัวโพธิ์ ตัดออกไปเส้นนครปฐมบ้านแพ้ว เลยตลาดจินดาไปนิดเดียว แปล๊บเดียวก็ถึงบ้าน
หรือจะพักค้่างคืนไปอยู่ตามโฮมสเตย์กับชาวบ้านก็น่าลองไป อยากได้ความคึกคักก็ไปอยู่แถวๆ ตลาดน้ำ อยากได้ความสงบก็ออกไปข้างนอก หรือจะอยู่แบบสบายก็ไปพักตามรีสอร์ทชั้นดีก็มีให้เลือก
ครั้งหนึ่งก่อนที่จะพาพวกเราไป พลพรรครักเอยไปดินเนอร์ที่นั่น เราเลือกกลับบ้าน เพื่อนชาวกรุงขอพัก บอกว่าชอบบรรยากาศ เพื่อนแถวนครชัยศรีไปนอนกันเขาบ้างแล้ว พอเช้ามาโทรมาแจ้งว่าเหมือนบ้านชั้นเลยยย
ตลาดน้ำอัมพวา เป็นตลาดน้ำตอนเย็น ในเย็นวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ เมืองอัมพวามีอดีตอันรุ่งเรืองคือเป็นศูนย์กลางของการเดินทางน้ำที่สำคัญของสมุทรสงคราม ดังนั้นจึงมีตลาดที่เป็นแหล่งทำมาค้าขาย แลกเปลี่ยนสินค้า และมีชุมชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำ แต่พอมีถนนหนทางที่เป็นทางบก ทำให้ตลาดน้ำค่อยๆลดความสำคัญและสูญหายไปในที่สุด ซึ่งเหมือนกันทุกแห่ง แต่ร่องรอยของความเจริญในอดีตยังคงอยู่ และกระแสของผู้คนกลับไปโหยหาอดีต ความเป็นไทย การใช้ชีวิตแบบเดิมๆ จึงทำให้เกิดการฟื้นฟูตลาดน้ำขึ้นมาอีกครั้งและอัมพวาก็เป็นอีกที่ในหลายแห่งใต้ฟ้าเมืองไทย
วันนี้ที่ตลาดน้ำอัมพวาคนเยอะมาก สับสนอลหม่านไปหมด ปีก่อนโน้นเคยพาพวกเราไปดูหิ้งห้อย แต่ไปอยู่ข้างนอกๆ แล้วนั่งเรื่อย้อนเข้ามาในตลาด แต่ยังเป็นแบบเดิมๆ มากกว่านี้ มีความรู้สึกว่าประสบผลสำเร็จด้านการตลาด และความสำเร็จก็มาพร้อมกับผลกระทบของความเป็นเมืองที่สงบ ทั้งเรื่องเสียง และสิ่งแวดล้อมพอสมควร ไม่รู้ว่าผลที่สุดจะเป็นอย่างไรเพราะต่างสร้างขยะทั้งที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ ขณะที่ผู้รับผิดชอบก็หาทางดูแลกันไป
ความน่าชื่นใจของตลาดน้ำอัมพวาคือ คนในชุมชน และชุมชนพยายามสร้างสรรค์เนื้อหาของความเป็นอัมพวาทั้งพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น บ้านครูเื้อื้อ (ที่น้องอ้อเขียนเล่าให้อ่านแล้ว) นิทรรศการวิถีชีวิตของชาวอัมพวา วันที่ไปเป็นเรื่องมะพร้าว ที่ใช้ทุกอย่างมาเป็นนิทรรศการและ มีงานศิลปะของเด็ก อ่านๆ ไป มีหลายหน่วยงานที่เข้าไปช่วยทำงานในพื้นที่ดังกล่าว แต่ดูๆ ไปยังไม่เห็นชื่อมหาวิทยาลัยศิลปากร ทั้งที่อัมพวาอยู่ในภูมิภาคตะวันตก
หากจะไปดูหิ่งห้อย แนะนำให้ไปดูหน้าหนาว ในคืนเดือนมืด เพราะจะเห็นชัด มีจำนวนมาก และต้องไปแหล่งนอกๆ ตลาด ที่ฮิตคือไปคลองหมาหอน สมัยนี้แนะนำให้ใช้เรือพาย เพราะเสียงไม่ดังรบกวนชาวบ้านที่เป็นเวลานอนของพวกเขา เคยมีข่าวว่าชาวบ้านรำคาญพวกนักท่องที่ยวถึงขาดประกาศว่าจะตัดต้นลำูพูที่เป็นที่อาศัยของหิ่งห้อยทิ้ง ซึ่งอันนี้เป็นปัญหาของเวลาที่ทับซ้อนที่ฝ่ายหนึ่งจะนอน ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งจะเที่ยว ดังนั้นเราในฐานะนักท่องเที่ยวก็ควรให้ความเคารพเจ้าบ้าน เพราะนานทีปีหนของเรา ที่ไม่ใช่เราเพียงคนเดียว ดังนั้นคือทุกวันของชาวบ้าน
หากเห็นหิ่งห้อยแล้วบอกว่าละลานตาจริงๆ ยิ่งเด็กเมื่อจับหิ่งห้อยไว้ในอุ้งมือแล้วปล่อยออกกับมือแล้วเป็นความประทับใจที่สุด ไปกับเพื่อนคุณเธอพกไปฉายไปพิสูจน์ว่าเป็นของจริงหรือไม่ ครั้งนั้นการันตีว่าว่าเป็นของจริง
ส่วนในการทำงานพวกเราก็พยายามเก็บข้อมูลไป แม้ี่ยังมองไม่เห็นเลยว่าจะสมบูรณ์มากน้อยแค่ไหน หรือที่ทำไปจะถูกใจคนมาใช้ข้อมูลหรือไม่ อย่างไร แต่ก็ยังดีกว่าที่ไม่เริ่ม
หาเวลาให้ตัวเองแล้วไปเที่ยวบ้างก็จะดีไม่น้อย
3 thoughts on “ตลาดน้ำอัมพวา”
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
ไปมาแล้วเมื่อไม่นานนี้เอง บรรยากาศดีมาก(โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์) บนสะพานไม่ต้องเดินมันจะไหลไปเองโดยอัตโนมัติแต่โปรดระวังทรัพย์สินของท่านมันอาจจะหายไปในพริบตาเดียวเพราะความเพลิดเพลินบนสะพาน ลูกชายชอบไปนอนบ้านแม่อนงค์โฮมสเตย์(ไปบ่อยมาก) สงสัยไปจีบลูกสาวแม่อนงค์ ยังเคยคิดจะเอาของไปขายกันเลยแต่ค่าเช่าแพงมาก ชอบบ้านครูเอื้อมากยังถ่ายรูปกับลูกสาวครูเอื้อเลย แก่แล้วยังสวยอยู่เลย
ตลาดน้ำอัมพวา ใฝ่ผันมานานแล้ว อยากไปเที่ยมมาก ยิ่งปองมาเล่าให้ฟัง ยิ่งอยากมาก ๆ ความจริงพี่ก็ไปเที่ยวแถวสมุทรสงครามบ่อย ดำเนินสะดวกก็ไปบ่อย แต่ไม่เคยเข้าไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาเลย ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน เพราะเห็นทุกคนที่ไปเที่ยวมาแล้ว จะมาเล่าให้ฟังว่า ดีมากทุกคน (ขอให้พกเงินไปเยอะ ๆ เพราะมีของขายเยอะแยะ โดยเฉพาะของกิน อร่อย ๆ ทั้งนั้น)
ตลาดน้ำดอนหวาย ตลาดน้ำลำพยา ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ก็ไปมาแล้ว เหลือแต่ตลาดน้ำอัมพวานี่แหละ ถ้ามีโอกาสจะต้องไปให้ได้ สงสัยต้องรอช่วงปิดเทอมใหญ่
พี่ตา วันไหนไปจะทำความฝันให้เป็นจริงๆ แต่หนูเป็นประเภทเถิดเทิงทัวร์ ไม่มีกำหนดการล่วงหน้า อันเป็นข้อเสียและเป็นอุปสรรคของท่านพี่เป็นอย่างมาก ส่วนเรื่องพกเงินไปเยอะคิดว่าไม่จำเป็น เพราะตังส์ที่พกไปไว้ซื้อของที่แตกต่างจากบ้านเราส่วนอาหารหน้าตาไม่แตกต่างกันกับบ้านเรา