ชวนอ่านหนังสือ : รอยยิ้มและน้ำตาของหัวใจ
“รอยยิ้มและน้ำตาของหัวใจ” เป็นหนังสือรวมวรรณกรรมจีน 4 เรื่อง คือ โคมส้มดวงน้อย, หมิงจื่อกับเหมียวน้อยมีจื่อ, สาวน้อยเสี่ยวหยูว และตำนานกับข้าวคู่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ทรงแปลจากผลงานของนักเขียนชาวจีน 2 ท่าน ผู้อ่านจะได้ตระหนักถึงพระปรีชาสามารถทางภาษาของพระองค์
โคมส้มดวงน้อย…เป็นเหมือนเรื่องเล่าสั้น ๆ ของหญิงสาวคนหนึ่งที่บังเอิญได้พบกับเด็กหญิงยากจนที่พยายามโทรศัพท์หาหมอไปรักษาแม่ที่ป่วย หญิงสาวให้ความช่วยเหลือและไปเยี่ยมที่บ้าน และพบว่าเด็กหญิงเป็นเด็กที่มองสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นและอยู่รอบตัวเป็นบวกทั้งหมด แม้ในขณะที่แม่ป่วย เมื่อหมอมาฉีดยาให้ เธอก็คิดว่าแม่จะสบายดี และบอกหญิงสาวว่า “…คุณสบายใจได้แล้วค่ะ พรุ่งนี้หมอจะมาอีก…” หญิงสาวซื้อส้มไปเยี่ยม เด็กหญิงก็หยิบลูกที่ใหญ่ที่สุดปอกวางไว้ข้าง ๆ ให้แม่ เมื่อหญิงสาวจะกลับเด็กหญิงทำโคมไฟจากเปลือกส้มให้สำหรับส่องสว่างขณะเดินกลับ /// เรื่องเล่าเรื่องนี้มีความยาวเพียง 5 หน้าของ pocket book แค่นั้น การดำเนินเรื่องเรียบง่าย มีตัวละครที่เดินเรื่องอยู่เพียง 3 คน แต่ความหมายของแต่ละบรรทัด ลึกซึ้ง บทสนทนาระหว่างหญิงสาวและเด็กหญิงสั้น ๆ ได้ความรู้สึก และทำให้เห็นว่า ความดีและความงามนั้นได้โดยไม่ต้องเสแสร้ง
หมิงจื่อกับเหมียวน้อยมีจื่อ… หมิงจื่อเป็นเด็กชายที่มีชื่อจริงชื่อ สวีหมิง ส่วนมีจื่อเป็นแมวทที่ชื่อ มีมี่ หมิงจื่อต้องการเลี้ยงแมวแต่แม่ไม่ให้เลี้ยง จนแม่ต้องเดินทางไปเป็นนักวิชาการแลกเปลี่ยนที่คานาดา หมิงจื่อจึงไปขอลูกแมวจากลุงเฉินมาเลี้ยง โดยฝากไว้กับคุณย่าที่บ้านอยู่ใกล้กัน เมื่อกลับจากโรงเรียน หมิงจื่อก็จะไปเล่นกับมีจื่อทุกวัน จนวันหนึ่งนอนหลับอยู่ที่บ้านและฝันไปว่า มีจื่อถูกขังอยู่ในคอมพิวเตอร์ ร้องเรียกให้หมิงจื่อช่วย จนหมิงจื่อตกใจตื่น ด้วยความเป็นห่วงว่ามีจื่อเป็นอะไรไปหรือเปล่า จึงรีบไปหาย่า (ไปหามีจื่อ) ทั้ง ๆ ที่พ่อห้ามไม่ให้ไป เมื่อไปถึงก็พบว่า มีจื่อนอนหลับสบายอยู่กับย่า ไม่ได้เป็นไปอย่างในฝัน หมิงจื่อจึงเข้าไปอุ้มและร้องไห้ (เรื่องจบง่าย ๆ แต่อารมณ์นี้สำหรับสาวกแมว หมา คงเข้าใจ)
สาวน้อยเสี่ยวหยูว เป็นเรื่องชะตาชีวิตของหญิงสาวที่จำต้องแต่งงานกับชายแก่ต่างชาติเพื่อสิทธิในการทำงานอยู่ในต่างประเทศ ทั้งที่มีคนรักอยู่แล้ว และคนรักก็เห็นชอบที่จะให้แต่งงานแต่ในนาม แต่เขากลับเป็นฝ่ายหึงหวง เอาแต่ใจตัว ทั้ง ๆ ที่เขาคอยรับผลประโยชน์จากเสี่ยวหยูวอยู่ตลอดเวลา เมื่อทางการมีการตรวจสอบอย่างเคร่งครัดเรื่องการแต่งงานจอมปลอม เสี่ยวหยูวจึงจำเป็นต้องไปอยู่กับสามีต่างชาติ ทำให้คนรักยิ่งอาละวาด ในขณะที่สามีต่างชาติกลับเข้าใจะเธอมากขึ้นทุกวัน เมื่อถึงกำหนดที่เธอสามารถปลดพันธะที่ต้องอยู่กับสามีต่างชาติ คนรักก็ยิ่งอาละวาดอีก ยื่นคำขาดให้เธอออกมาจากบ้านนั้น ในขณะที่เสี่ยวหยูวกำลังออกจากบ้าน สามีต่างชาติก็ล้มลงและแสดงให้เห็นว่ากำลังไม่สบายมาก แต่ก็ยังยินดีที่เสี่ยวหยูวหมดสัญญา และไม่แสดงอาการว่าต้องการความช่วยเหลือ ด้วยความเป็นคนดีและเริ่มเห็นใจสามีต่างชาติ จึงทำให้เสี่ยวหยูวลังเลว่าจะทำอย่างไร?
ตำนานกับข้าวคู่ ชายคนหนึ่งมีภูมิหลังของครอบครัวที่มีแม่เป็นแม่บ้านทำอาหารให้ตัวเขาและพ่อกิน แม่เป็นคนเรียบง่าย ปราณีต ซึ่งตามปกติเขาก็ชอบกินอาหารของแม่ จนวันหนึ่ง พ่อพาเขาไปกินอาหารที่บ้านผู้หญิงอีกคนของพ่อ ที่เป็นคนตรงข้ามกับแม่ทุกอย่าง ทั้งกิริยาระหว่างการทำอาหาร ลักษณะของอาหารที่ทำ ทำให้เขารู้สึกตื่นตาตื่นใจกับความสนุกสนานในระหว่างการทำและทานอาหาร จนเขาโตเป็นหนุ่ม เขาจึงมีภรรยา 2 คน ไว้ทำอาหารให้กิน จะได้มีความแตกต่างกันไม่น่าเบื่อ และเขาก็คิดว่าเขาฉลาดพอที่จะไม่บอกรักใครสักคน และไม่มีใครรู้ว่าเขามีผู้หญิงอยู่อีกคน (คิดเอาเอง!) แต่ละวันเขาจะต้องไปกินอาหารทั้งสองบ้าน จนวันหนึ่งเขารู้สึกไม่สบาย และพบว่าสาเหตุที่ไม่สบายเกิดจากการรับประทานอาหารคู่กัน ที่เป็นพิษต่อกัน โดยเกิดจากการสมรู้ร่วมคิดของภรรยาทั้งสองคน เขาจึงเลือกที่จะมีผู้หญิงใหม่อีกคนหนึ่ง ที่เขาคิดว่าทำอาหารไม่เป็นเลย แต่แล้ววันหนึ่งเขากลับพบว่าผู้หญิงคนล่าสุดของเขาทำอาหารได้เป็นอย่างดี และไปทำให้ชู้รักกิน ณ ตอนนั้นเขากลับคิดถึงแม่ คิดถึงอาหารที่แสนจะธรรมดาของแม่ และตระหนักว่าเป็นอาหารที่วิเศษสุด….
วรรณกรรมทั้ง 4 เรื่อง ล้วนเกี่ยวกับความรักในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ ความรักในเพื่อนมนุษย์, ความรักกับสัตว์เลี้ยง, ความรักระหว่างหญิงชาย และความรักของแม่…ความรักมีการแสดงออก และปฏิิกิริยาโต้ตอบ แตกต่างกัน… ความรักทำให้เกิดทั้งรอยยิ้ม และน้ำตา…อารมณ์ที่ได้รับจากการอ่านวรรณกรรมแปลของสมเด็จพระเทพรัตนฯ เล่มนี้จึงใกล้เคียงกับความเป็นจริงของชีวิต
วันไหนได้กินส้มลูกโต ๆ ที่มีเปลือกหนา ๆ จะลองทำโคมส้มดูบ้าง เพื่อน ๆ จะลองทำดูบ้างไหม ลองอ่านโคมส้มดวงน้อยดูแล้วจะทราบว่าเด็กหญิงทำได้อย่างไร..