กระยาสารทในชาติอาเซียน
ในช่วงเดือนนี้มีวันที่เกี่ยวข้องกับประเพณีทั้งของชาวไทยและของชาวจีนอยู่ถึงสามวันด้วยกัน คือ วันไหว้พระจันทร์ (วันที่ 8กันยายน), วันสารทไทย (วันที่ 23 กันยายน) และยังเป็นวันเริ่มเทศกาลกินเจในปีนี้ด้วย กล่าวสำหรับวันสารทไทยของเรานั้น จะตรงกับวันแรม 15 ค่ำเดือน 10 ของทุกปี หรือที่เรียกกันว่าสารทเดือนสิบ ซึ่งเป็นวันที่คนไทยตั้งแต่สมัยโบราณจะให้ความสำคัญอีกวันหนึ่งโดยจะพร้อมใจกันไปทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ปู่ย่าตายายและญาติมิตรทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้ว วันสารท เป็นวันทำบุญกลางปีตามประเพณีนิยมของไทยในทางจันทรคติถ้านับจากวันสงกรานต์ซึ่งถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ วันสารทก็จะครบ 6 เดือนพอดี ต้นกำเนิดของการทำบุญวันสารทนั้นมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย เป็นพิธีที่เรารับมาจากศาสนาพราหมณ์ และรับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมอินเดีย ขนมประจำเทศกาลนี้ที่จะขาดเสียมิได้เลยก็คือ “กระยาสารท”
กระยาสารท เป็นขนมที่คนไทยรู้จักและทำกันมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ โดยใช้ธัญพืชทั้งหมดมาผสมกัน เป็นขนมที่ทำแล้วสามารถเก็บไว้กินได้นาน ส่วนประกอบของขนมกระยาสารท คือ ข้าวเม่า ข้าวตอก ถั่วลิสง งา (ทั้งหมดนี้ต้องนำมาคั่วเสียก่อน)และน้ำตาล ถ้าจะให้หวานหอมอร่อยต้องกวนผสมกันด้วยน้ำอ้อย (บางที่ใช้กะทิผสมด้วย) การทำบุญวันสารทเดือนสิบ จะทำกันทั่วทุกภูมิภาคของไทย แต่ละภาคก็จะเรียกชื่อต่างกันไป เช่น ในภาคใต้เรียก “งานบุญเดือนสิบและประเพณีชิงเปรต” ภาคอีสานเรียก “ทำบุญข้าวสาก” และภาคเหนือเรียก “ตานก๋วยสลาก หรือ งานทานสลากภัต” ของประกอบในการทำบุญต่างๆในแต่ละภาคก็จะแตกต่างกันไป แต่ทุกถิ่นที่จะต้องมี “ขนมกระยาสารท” ซึ่งจะขาดมิได้ ด้วยมีคติความเชื่อสืบต่อกันมาว่า ถ้าไม่ได้ใส่บาตรหรือทำบุญด้วยกระยาสารทในวันสารทไทยแล้ว ญาติผู้ล่วงลับก็จะไม่ได้รับส่วนบุญกุศลที่ทำไปให้ เนื่องจากในวันสารทจะเป็นวันที่ญาติที่ล่วงลับไปแล้วทั้งหลายได้มีโอกาสกลับมารับส่วนบุญจากญาติพี่น้องที่ยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นจึงเชื่อว่าหากทำบุญในวันนี้ไปให้ญาติทั้งหลายญาติเหล่านั้นก็จะได้รับส่วนบุญเต็มที่มีโอกาสหมดหนี้กรรมและได้ไปเกิดหรือมีความสุข ประเพณีทำบุญสารทเดือนสิบนี้นอกจากไทยแล้ว มอญ, ลาว และเขมร ก็มีการทำบุญนี้เช่นกันเพียงแต่ช่วงเวลาอาจต่างกันไปบ้าง แต่จะอยู่ในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคมเช่นเดียวกัน
รู้หรือไม่ว่า “ขนมกระยาสารท” นี้เป็นขนมประจำชาติของประเทศกัมพูชาด้วย เป็นขนมที่ชาวกัมพูชาใช้ในพิธีกรรมสำคัญต่างๆแทบทุกพิธี และใช้ในงานบวงสรวงทุกครั้ง ไหนๆก็กล่าวถึงขนมประจำชาติแล้ว ดังนั้นขอแถมเรื่องของขนมประจำชาติอาเซียนสักหน่อยก็แล้วกัน เพราะขนมทุกชนิดที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้เป็นขนมที่คนไทยคุ้นเคยกันดีและคงจะเคยลิ้มลองกันมาแล้วทั้งนั้น ก็คือ
บัวลอยไข่หวาน – เป็นขนมประชาติไทย ข้าวต้มมัด – เป็นขนมประจำชาติเมียนม่า(พม่า) น้ำตาลอ้อย – เป็นขนมประจำชาติลาว ขนมเบื้องญวน – เป็นขนมประจำชาติเวียดนาม
วุ้นมะพร้าว – เป็นขนมประจำชาติอินโดนีเซีย โรตี – เป็นขนมประจำชาติมาเลเซีย ลอดช่องสิงคโปร์ – เป็นขนมประจำชาติสิงคโปร์ กล้วยแขก – เป็นขนมประจำชาติบรูไน
ฮาโล ฮาโล หรือไอสครีมทรงเครื่อง – เป็นขนมประจำชาติฟิลิปปินส์
ไม่น่าเชื่อว่าขนมบางอย่างจะเป็นขนมประจำชาติของเพื่อนบ้านอาเซียนไปได้ใช่ไหม เช่น ข้าวต้มมัด กล้วยแขก วุ้นมะพร้าว หรือแม้แต่กระยาสารท นี่ก็เถอะ
(ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากนิตยสาร See Saw Seen ฉบับเดือนมีนาคม 2557 และเว็บไซต์ foodnetworksolution.com/wiki/word)