คำนำหน้านาม "ดร."
มีหลายท่านได้บอกว่า เวลามีเพื่อนร่วมงานจบการศึกษาระดับปริญญาเอก ให้ใช้คำนำหน้าชื่อเขาว่า ดร. เพื่อเป็นการยกย่องกัน ให้เกียรติกัน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือราชการ หรือรายงานการประชุม และมีน้อง ๆ หลายคนสอบถามว่า ทำไมผู้เขียนจึงไม่ใช้ตามที่หลายท่านบอกมา ไม่ว่าจะเป็นหนังสือราชการ รายงานการประชุม หรือแม้กระทั่งใบลงเวลาการทำงาน ผู้เขียนจึงขอยกข้อความของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว มาให้ดู ดังนี้
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 กล่าวถึง การลงชื่อและตำแหน่งในหนังสือราชการ ตามภาคผนวก 3 ข้อ 3 ไว้ว่า การพิมพ์ชื่อเต็มของเจ้าของลายมือชื่อ ให้ใช้คำนำหน้านามว่า นาย นาง นางสาว หน้าชื่อเต็มใต้ลายมือชื่อ เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้
1. ในกรณีที่เจ้าของลายมือชื่อเป็นสตรีที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้ใช้คำนำหน้านามตามกฎหมายว่าด้วยการใข้คำนำหน้านามสตรี เช่น สตรีทั่วไปซึ่งมีสามี ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตั้งแต่ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษขึ้นไป หรือที่ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นทุติยจุลจอมเกล้า ตติยจุลจอมเกล้า และจตุตถจุลจอมเกล้า ให้ใช้คำนำหน้านามว่า ท่านผู้หญิง หรือคุณหญิง แล้วแต่กรณี หน้าชื่อเต็มใต้ลายมือชื่อ
2. ในกรณีที่เจ้าของลายมือชื่อมีบรรดาศักดิ์หรือฐานันดรศักดิ์ ให้พิมพ์คำเต็มของบรรดาศักดิ์หรือฐานันดรศักดิ์ ไว้ใต้ลายมือชื่อ
3. ในกรณีที่เจ้าของลายมือชื่อมียศที่ต้องใช้ประกอบชื่อ ให้พิมพ์คำเต็มของยศไว้หน้าลายมือชื่อและพิมพ์ชื่อเต็มไว้ใต้ลายมือชื่อ
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการใช้ตำแหน่งทางวิชาการเป็นคำนำหน้านาม พ.ศ. 2536 ระบุว่า
ข้อ 4 ในระเบียบนี้
“งานสารบรรณ” หมายความว่า งานสารบรรณตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ
“ตำแหน่งทางวิชาการ” หมายความว่า ตำแหน่งศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ หรือผู้ช่วยศาสตราจารย์ ซึ่งได้รับแต่งตั้งตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษา ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งทางวิชาการประจำ ตำแหน่งทางวิชาการพิเศษ ตำแหน่งทางวิชาการเกียรติคุณหรือที่เรียกชื่ออย่างอื่นในลักษณะเดียวกัน
ข้อ 5 ให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการมีสิทธิใช้ตำแหน่งทางวิชาการที่ได้รับเป็นคำนำหน้านามได้ในการลงชื่อ หนังสือ เอกสาร งานสารบรรณหรือการเรียกขานใด ๆ เหมือนยศ หรือคำนำหน้านามอย่างอื่น
ข้อ 6 ในกรณีที่ผู้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการมีสิทธิใช้คำนำหน้านามอย่างอื่นด้วย ให้เรียงตามลำดับก่อนหลัง ดังนี้
1. ตำแหน่งทางวิชาการ
2. ยศ
3. บรรดาศักดิ์ ฐานันดรศักดิ์ หรือคำนำหน้านามสตรีที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์และมีสิทธิใช้คำนำหน้านามนั้นตามกฎหมาย ระเบียบหรือประกาศของทางราชการ
ข้อ 10 ในกรณีที่บุคคลอื่นหรือทางราชการจะเรียกชื่อผู้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการ จะใช้ตำแหน่งทางวิชาการตามระเบียบนี้หรือไม่ก็ได้ตามที่เห็นสมควร
เว็บไซต์ ของราชบัณฑิตยสถาน (www.royin.go.th/th/faq/) ได้ตอบคำถามที่ถามบ่อย หัวข้อ การใช้ภาษาไทย เรื่อง การใช้ ดร. นำหน้าชื่อ ไว้ว่า “ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ คำแสดงวุฒิการศึกษาไม่ใช่เป็นคำนำหน้านาม หรือนำหน้าชื่อ ทำนองเดียวกันกับคำแสดงวิชาชีพ เช่น นายแพทย์ เภสัชกร ทันตแพทย์ สัตวแพทย์ ฯลฯ จะมิใช้เป็นคำนำหน้านามตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณได้…คำว่า ดร. เป็นคำแสดงวุฒิการศึกษา ซึ่งตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ ไม่ใช้เป็นคำนำหน้านามตามแบบแผนของทางราชการ…”
จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าไม่มีหน่วยงานไหนให้ใช้คำนำหน้าชื่ออย่างเป็นทางการว่า “ดร.” ผู้เขียนมีความเห็นว่า เราทำงานอยู่ในสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาของทางราชการ จึงควรระมัดระวังกับการใช้ถ้อยคำ สำนวน ในเอกสารต่าง ๆ ที่เป็นทางการให้มีความถูกต้องตามระเบียบแบบแผนที่กำหนดไว้ เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับผู้ที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงเดียวกับเรา ให้ใช้ได้อย่างถูกต้อง
เข้าใจตรงกันแล้วนะคะ ต่อไปน้อง ๆ อย่าแก้คำนำหน้าชื่อในเอกสารราชการที่ผู้เขียนทำไว้นะคะ
3 thoughts on “คำนำหน้านาม "ดร."”
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
ขอบคุณจ้า…ที่เล่าสู่กันฟัง ก่อนหน้านี้ซักปีที่แล้ว พี่ปองเคยเอาเรื่องทำนองนี้ให้อ่าน พอวันนี้ได้อ่าน เลยยิ่งเข้าใจมากขึ้น มิน่าละเห็นเลขานุการคณะเภสัชศาสตร์ ไม่ลงว่า ดร.เลย
ขอบคุณค่ะ หนูเองก็เพิ่งทราบเหมือนกันนี่แหละค่ะ^^
ก่อนรู้ก็โง่ไปหนึ่งที T^T
กว่าจะได้คำนำหน้าว่า ดร. มาต้องใช้เวลาหลายปี แถมข้ามน้ำข้ามทะเลไปเรียนเพืื่อ คำๆนี
คำพูดประมาณนี้ ของด็อกเตอร์คนดังระดับชาติ แสดงว่า ท่านประสงค์ใช้ทุกสถานการณ์เพื่อความน่าเชื่อถือ ตัวอย่างเช่น นางกาญจนา (c 9) กับ ดร.กาญจนา (c.4) ใครน่าเชื่อถือกว่า
การใช้ตามราชการ/ทางการก็ นาย นาง นางสาว ก็ใช้ไป ดร.ทั้งหลายก็คงต้องประนีประนอมไป ไม่ต้องต่อว่า หรือขัดขืน รูปธรรมนามธรรม ทุกคนไม่ว่าใครในโลกนี้กินข้าง/ขนมปัง กินอาหาร น้ำ หรือเครื่องดึ่ม เจ็บป่วย ตายไม่แตกต่างกัน ต่างกันตรง ประเภทอาหาร ราคาอาหาร ราคาเจ็บป่วย ราคาทำงานศพ 555