ความสำเร็จ…อยู่ที่ไหน
ความสำเร็จ คำนี้ทุกคนต่างปรารถนา มีหนังสือมากมายที่กล่าวถึงความสำเร็จ เล่มนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่หอสมุดฯ คัดสรรไว้ให้บริการ
ชาริดา สวัสดิพงศ์. ปั้นความสำเร็จให้เป็นตัว. กรุงเทพฯ : ณดา, 2555. 174 หน้า. (BF 637 S4ช64)
คนเรามีเป้าหมายของความสำเร็จแตกต่างกัน หนังสือเล่มนี้ผู้เขียนพยายามรวบรวมและเรียบเรียงเรื่องราวทั้งแนวทางและวิธีปฏิบัติที่จะนำพาความสำเร็จมาสู่ตัวเรา เนื้อหาก่อนเข้าเรื่องจะมีการตั้งคำถามให้เราคิด การตั้งคำถามชวนคิดก็เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นการพลิกชีวิตพิชิตความสำเร็จซึ่งผู้เขียนได้กล่าวเป็นบทๆ ดังนี้
1) การมีชีวิตอยู่นั้นเราอย่าเพิ่งปักใจเชื่ออะไรไปก่อนเสียทั้งหมด เช่น โลกกลมหรือแบน เราต้องอ่านเพิ่มเติมจากผู้รู้กล่าวถึง
2) เลิกโทษคนอื่นแต่หันมาโทษตัวเองเป็นอันดับแรกซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้น หากเรารู้จักตัวเองและพร้อมที่จะโทษตัวเองสิ่งที่ตามมาคือการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงซึ่งย่อมมีสิ่งดีๆ เข้ามา
3) ให้คิดเปลี่ยนตัวเองไม่ต้องคิดไปเปลี่ยนคนอื่น การคิดเปลี่ยนแปลงคนอื่นเป็นเรื่องยากมากๆ เพราะทุกคนมีอัตตาไม่เปลี่ยนแปลงเพื่อใครง่ายๆ การคิดเปลี่ยนตัวเองทำได้ง่ายนิดเดียวแต่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน
4) ไม่เปลี่ยนความคิดชีวิตไม่เปลี่ยน ต้องคิดนอกกรอบมีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตสิ่งสำคัญอยู่ที่ใจอย่าพยายามยึดติดหรือคิดแต่สิ่งเดิมๆ
5) การรู้จักตั้งคำถาม การถามว่า “ใคร” กับ “ทำไม” ก็ให้ผลที่แตกต่างกัน เวลาเกิดเหตุร้ายขึ้นมาคนส่วนใหญ่มักสนใจว่า “ใครทำ” แต่ไม่ค่อยถามว่า “ทำไมถึงเกิดขึ้น” วิธีการถามว่าทำไมถึงเกิดขึ้นทำให้พนักงานช่วยกันหาสาเหตุและวิธีป้องกันแก้ไขแทนที่จะซัดทอดหรือกล่าวโทษกัน
6) ความทุกข์ คือดอกไม้แห่งความสุขที่จะติดตามมา จำไว้ว่าความทุกข์ไม่ทำให้เราตายแต่ทำให้เราโต ไม่มีใครที่จะพบแต่ความสุขไปตลอดชีวิตและไม่มีใครที่จะเห็นแต่ความทุกข์ ไม่ว่าสุขหรือทุกข์นั่นคือ ความจริง
7) บทเรียนที่นำทางแห่งสุขที่แท้จริง จงอย่าท้อแท้หรือยอมแพ้สิ่งใดง่ายๆ จงอดทนสู้ต่อไป อย่าไปยึดมั่นในผลการกระทำของเราและเราจะไม่มีวันผิดหวังเพราะเราไม่หวังสิ่งใดตอบแทนจากการกระทำของเรานี่คือเคล็ดลับของการปล่อยวาง ลองบอกตัวเองทุกเช้าว่า “ฉันมีความสุขเหลือเกินกับชีวิต” วันหนึ่งเราจะพบว่าเวลาที่ผ่านมาเราช่างมีความสุขเหลือเกิน ผลทางจิตวิทยาเช่นนี้คือ เดอะซีเครท ที่ผู้นำยิ่งใหญ่แทบทั้งโลกเข้าใจและนำมาปฏิบัติ
8) กลับความล้มเหลวมาเป็นชัยชนะด้วยตัวคุณเอง โดยประเมินหาสาเหตุแห่งความล้มเหลว ตั้งเป้าหมายอบู่บนความเป็นจริงที่จะประสบผลสำเร็จได้ อย่ากลัวหรือเข็ดขยาดความล้มเหลว อย่าใส่ใจกับปากคนหรือความคิดของคนอื่นมากเกินไป อย่าหมกมุ่นกับความล้มเหลวแม้จะเสียใจ อับอายแค่ไหนก็ปล่อยให้ผ่านไป การที่คนเราคิดใหญ่หนทางการดำเนินชีวิตย่อมนำไปสู่ความยิ่งใหญ่ด้วยเช่นกัน
9) เอาอะไรมาวัดความสำเร็จ หรือความสำเร็จคืออะไร ความสำเร็จของคนเราอยู่ที่การทำให้ตนเองอิ่มเอมมีความสุขพอใจในสิ่งที่เป็นตัวของตัวเอง
10) ทฤษฎีแห่งความสำเร็จ ควรจัดเวลาให้สมดุลทั้งส่วนตัว ครอบครัวและการงาน , รับประทานอาหารถูกหลักอนามัย ทำใจให้เบิกบาน, การพัฒนาคุณภาพการงาน ด้วยสูตร 4 ใจ คือ ใจรัก ใจสู้ ตั้งใจ ใส่ใจ
11) ความสำเร็จต้องแลกด้วยอะไร ด้วยตัวคุณเองทำตัวให้เหมาะกับงาน เหมาะกับเหตุการณ์ในอนาคต เหมาะกับเพื่อนร่วมงาน เหมาะกับเจ้านาย เหมาะกับลูกน้อง เหมาะกับลูกค้า ต้องฝึกการเรียนรู้, ฝึกฝนทางความคิด, ลงมือทำ, รู้จักสื่อสาร, รู้จักและเข้าใจวิเคราะห์ ให้คิดอยู่เสมอว่าไม่ว่าใครจะทำอะไรย่อมต้องเจออุปสรรคและความเจ็บปวดเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนทั้งสิ้น
12) สร้างความคิดให้เป็นระบบ รู้จักเรียงลำดับความคิด ลำดับความสำคัญปัญหาต่างๆ ก็สามารถแก้ไขได้อย่างลุล่วง
13) ดูคนที่เขาสำเร็จเป็นอย่างไรกันบ้าง ลักษณะที่เหมือนกันของเศรษฐีทั้งหลาย คือ มีชีวิตอยู่อย่างพอเพียง (มีรายรับสูงกว่ารายจ่าย) ไม่เป็นพวกที่บ้างาน เขาจะให้ความสำคัญกับคนรอบข้าง คนในครอบครัว การมีสุขภาพที่ดี การมีชีวิตส่วนตัวที่สมดุลกับการทำงาน เขาจะไม่ตามใจลูกๆ ทุกอย่างเพื่อทดแทนสิ่งที่ตนเองขาดหายไป เขาจะสอนให้ลูกรู้จักอดทน รู้จักคุณค่าของเงิน มีความเป็นผู้ใหญ่ สอนให้ลูกรู้จักใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ พวกเขาต้องเรียนและทำงานไปด้วยผลการเรียนจึงไม่สูงนักสิ่งนี้ทำให้เขารู้จักอดทนไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ เมื่อเจออุปสรรคในการทำธุรกิจจึงไม่ตื่นเต้น มุมมองเศรษฐีทั้งหลายเชื่อว่าชีวิตสี่ปีในรั้วมหาวิทยาลัย เป็นช่วงแห่งการแสวงหาตนเองว่าชอบหรือมีความถนัดอะไร ซึ่งสองสิ่งนี้คือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวด กล้าที่จะเสี่ยงและมีใจรักในงานที่ทำ เขาเชื่อว่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ไม่ได้อยู่ที่เงินตราแต่อยู่ที่คุณธรรมความจริงใจที่มีให้กันเขาจึงทำธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ไม่มีการหลอกลวง ธุรกิจพวกเขาจึงเจริญก้าวหน้า
การจะประสบความสำเร็จได้จำเป็นต้องอาศัยการทำงานร่วมกันเป็นทีม สามารถรับมือกับคำวิพากษ์วิจารณ์ได้ทุกรูปแบบ เลือกที่จะใส่ใจคำพูดของคนที่เสนอหนทางแก้ไขให้ด้วย มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีระเบียบวินัยและมีเป้าหมายชัดเจนแน่นอน
14) คนที่มี EQ สูงจะเป็นคนที่มีความเข้าใจตนเองดี รู้เท่าทันอารมณ์ของตน มีความเข้าใจผู้อื่น แก้ไขข้อขัดแย้งได้ดี สร้างสัมพันธภาพกับคนรอบข้างได้
15) 10 ความแตกต่างทางความคิดและมุมมองระหว่างคนรวยกับไม่รวย คนรวยชอบตั้งคำถามเชิงบวก คิดยาวเป็นปีๆ ชอบพูดเรื่องไอเดีย ยอมรับการเปลี่ยนแปลง กล้ารับความเสี่ยง เรียนรู้และเติบโตตลอดชีวิต ทำงานเพื่อหากำไร ใจบุญสุนทาน มีแหล่งรายได้หลากหลาย เน้นเพิ่มขึ้นความมั่งคั่งของตนเอง ใช้เงินทำงานแทน ตั้งคำถามเชิงบวกและสร้างกำลังใจ
16) ยังไม่รวยแต่ขอมีความสุขก่อน แต่ละคนมีความสุขแตกต่างกัน ต้องรู้จักใช้เงินและออมเงิน
17) บทสรุป ไม่ว่าสำเร็จหรือไม่สำเร็จชีวิตที่ดีที่สุดคือชีวิตที่มีความสุข การทำเพื่อคนอื่นต่างหากที่ทำให้ตนเองมีความสุข ความสำเร็จที่แท้จริงคือเรารู้จักพอใจในตัวเองหรือยังและรู้จักที่จะทำอะไรให้คนอื่นบ้างหรือเปล่า ทั้งหมดนี้คือเทคนิคการปั้น “ความสำเร็จ” ให้เป็นตัว หากเข้าใจอย่างจริงจังแล้ว “ความสำเร็จ” แท้จริงก็อยู่ตรงหน้าเรานี่เอง