การบริหารการเปลี่ยนแปลง
จากการศึกษาวิชาการบริหารการเปลี่ยนแปลง สรุปสาระดังนี้
การบริหารการเปลี่ยนแปลง เป็นการใช้เทคนิควิธีที่เป็นระบบ เพื่อประกันว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นไปตามทิศทางที่ได้วางแผนไว้ และก่อให้เกิดความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ ภายในระยะเวลาที่กำหนด
สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงจากทั้งปัจจัยภายนอกและภายในองค์กรทำให้องค์กรดำเนินต่อไปได้ และมีความก้าวหน้าอย่างยั่งยืนผู้บริหารควรมีความรู้ความเข้าใจเรื่องแรงผลักซึ่งจะต้องเอาชนะ แรงต้านที่เกิดจากตัวบุคลากร หน่วยงานและส่วนอื่นๆขององค์กร
การบริหารการเปลี่ยนแปลงอาจทำได้โดยคนในองค์กร หรือที่ปรึกษาจากภายนอกด้วยวิธีการและเทคนิคต่างๆ องค์กรจะต้องมีวัฒนธรรมที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้เพราะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้าราชการต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้จะได้รับผลกระทบไม่รุนแรงเท่ากับภาคเอกชน การได้เรียนรู้และพัฒนาตนให้ทันและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงจะช่วยให้สังคมไทยโดยรวมได้รับประโยชน์อย่างมาก
ประเภทของการเปลี่ยนแปลง แบ่งออกเป็น 4 ประเภท
1. การเปลี่ยนแปลงทางกลยุทธ์
2. การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี
3. การเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้าง
4. การเปลี่ยนแปลงทางบุคลากร
การสร้างวัฒนธรรมที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงทำได้ดังนี้
1. การกระตุ้นให้มีวัฒนธรรมส่งเสริมนวัตกรรมเช่น การใช้ Internet การใช้เครื่องแสกน คีย์การ์ด บาร์โค๊ด
2. การสร้างให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
2.1 Single Loop องค์กรที่พัฒนาศักยภาพอย่างสม่ำเสมอ พร้อมที่จะปรับตัวและเปลี่ยนแปลงการเรียนรู้
2.2 Double Loop ความผิดพลาดจะได้รับการแก้ไขให้ถูกต้องโดยใช้วิธีปฏิบัติเดิมๆ ที่เคยใช้อยู่
คุณสมบัติผู้นำที่ควรนำมาบริหารการเปลี่ยนแปลง
– ผู้นำอาจเป็นผู้กระตุ้น หรือผู้สนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
– ผู้นำมีส่วนกำหนดวัฒนธรรมที่ส่งเสริมนวัตกรรมและองค์กรแห่งการเรียนรู้
– ปรับตัวให้เข้ากับผู้ที่เกี่ยวข้อง
– ปรับโครงสร้าง
ผู้นำระดับสูง ต้องตัดสินใจทั้ง ทางด้านกลยุทธ์ ทางด้านเทคโนโลยี ทางด้านโครงสร้าง และทางด้านบุคลากร
ผู้นำระดับกลาง ต้องมีส่วนร่วมในการนำเสนอข้อมูล เหตุการณ์จริงป้อนกลับให้ระดับสูง และทำความเข้าใจกับวิสัยทัศน์ นโยบายและการขยายงาน เพื่อการประสานงานที่ดี
ผู้นำระดับต้น จะใกล้ชิดกับผู้ปฏิบัติงานซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและบุคลากรที่ต้องการการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก
– จากข้อมูลที่ได้รับเราสามารถวิเคราะห์และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น หรือบทบาทที่เป็นผู้กระตุ้น หรือเป็นผู้ต้านการเปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างดีเพื่อให้วัตถุประสงค์ของหน่วยงานได้รับการตอบสนองอย่างสัมฤทธิผล
– นวัตกรรมการเปลี่ยนแปลงทั้ง 4 ประเภท ขึ้นอยู่กับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิด และนโยบาย การดำเนินงาน ผลลัพธ์และผลตามมาของการเปลี่ยนแปลงประเภทต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้มองภาพออกและทำให้สอดคล้องและเกิดประโยชน์ต่อหน่วยงานได้เป็นอย่างดี
– เราจะบริหารการเปลี่ยนแปลงได้โดยวิธีหลากหลาย ซึ่งผู้นำการเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเป็นคนในหรือคนนอกองค์กร ต่างก็ต้องสร้างความตระหนักถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงและให้ข้อมูลที่เพียงพอเพื่อให้ผู้ร่วมงานซึ่งจะต้องเป็นผู้ที่ได้รับความร่วมมือกับการเปลี่ยนแปลงและยังเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเปลี่ยนแปลงด้วย เกิดการรับรู้ที่ถูกต้องและมีทัศนคติที่ดีต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
– เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงดำเนินต่อไปอย่างยั่งยืนไม่พลิกกลับไปอยู่ในสภาพเดิมซึ่งผู้นำและ
ผู้บริหารจะต้องสร้างวัฒนธรรมขององค์กรให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและขับเคลื่อนให้องค์กร
ให้อยู่ในสภาพที่มีการเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา
สรุปแล้วในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงผู้นำต้องเป็นแบบอย่างที่จะดำเนินการไปตาม วิสัยทัศน์ และวัตถุประสงค์ขององค์กร จะต้องเป็นผู้นำที่ร่วมสร้างวัฒนธรรมที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและสร้างองค์กรการเรียนรู้เพื่อที่องค์กรจะได้พัฒนาทันต่อการเปลี่ยนแปลงและสามารถก้าวต่อไปได้อย่างยั่งยืน