ซาลาเปา

คนจีนออกเสียงว่า พินอิน คนอังกฤษเรียกว่า เบาไซ แต่คนไทยรู้จักในชื่อ ซาลาเปา หรือ ติ๋มซำ จะเรียกชื่ออะไรก็แล้วแต่ รูปลักษระก้?เหมือนหรือคล้ายๆ กันคือทำเป็นรูกทรงกลม ผิวขาว เนื้อนุ่ม
มีตำนานเล่าขานอย่างน้อยสองกระแสถึงที่มาของซาลาเปา ทางหนึ่งบอกว่าเป็นอุบายของอาจารย์ขงเบ้ง ผู้รอบรู้ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 2 ว่าทำขนมเหมือนหัวคนเพื่อเซ่นไหว้แม่น้ำสายหนึ่ง อีกทางหนึ่งบอกว่าเป็นอาหารของคนจน สมัยเง้กเซียนฮอ่งเต้ได้ลองชิมเห็นว่าอร่อย จึงนำมาทำกินในวัง ดังนั้นซาลาเจงถือเป็นอาหารว่างของคนจีน มีทั้งชนิดมไส้และไม่มีไส้ที่รู้จักกันในนาม หมั่นโถ ซึ่งต่อมามีวางขายไปทั่วในจีน เฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่เป็นแหล่งชุมชน ต่อมาขยายวงกว้างข้ามน้ำข้ามทะเลพร้อมกับคนจีนที่อพยพมาอยู่ในประเทศไทย
การทำแป้งซาลาเปา
สูตรดั้งเดิม (แป้งหมัก) ส่วนผสม : แป้งหมักหรือแป้งหัวเชื้อ แป้งขนมปัง (1 กิโล) น้ำตาลทราย (250 กรัม) ผงฟู (3 ช้อนโต๊ะ) เกลือป่น (3 ช้อนชา) แอมโมเนีย (1 ช้อนโตะ) น้ำเปล่า (250 กรัม) กระดาษขาวแผ่นเล้กใช้รองซาลาเปา
สูตรแป้งใช้ยีสต์ ส่วนผสม : แป้งสาลี (1 กิโล) ผงฟู (2 ช้อนชา) ยีสต์ (3 ช้อนโต๊ะ) น้ำตาลทราย (250 กรัม) เกลือป่น (1 ช้อนชา) เนยขาว (150 กรัม) น้ำเปล่า (500 กรัม) กระดาษขาวแผ่นเล้กใช้รองซาลาเปา
ส่วนวิธีทำ ให้ไปอ่านเอาเองแล้วกันจากหนังสือที่มีบริการในหอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ชื่อ รวยครบสูตรกับธุรกิจซาลาเปา
ที่น่าสนใจมากกว่าการทำซาลาเปากินเองเป็นก็คือ ในหนังสือเล่มนี้ยังบอกเคล็ดลับการสร้างตลาดซาลาเปาด้วยได้แก่ 1) การใช้สติ๊เกอร์ ซึ่งเหมาะกับรถเร่ขาย ให้เลือกสีสันดึงดูดใจลูกค้า 2) ป้ายประกาศ เป็นป้ายผ้า ธงราวไวนิล โปสเตอร์สแนด์ เหมาะกับการวางในร้านที่จัดสวยงามหรือในห้องาสรรพสินค้าเพื่อดึงลูกค้าให้เข้าร้าน  3) คูปองสะสม นอกจากช่วยเช็คยอดลูกค้าแล้ว ยังนำมาเล่นการตลาดตามวาระโอกาสต่างๆ ได้ด้วย หรืออาจทำเว็บไซต์หรือบริการอีเมล์หรือโฆษณาด้วยวิธีอื่นๆ ที่จูงใจลูกค้า และอย่าลืมให้ความสำคัญกับเรื่องฮวงจุ้ยด้วย ต้องสว่างเพื่อดึงดูดพลังซี่ไลเวียนเข้าร้าน คิดกระจกมากๆ ก้ดี บางคนเลือกตั้งตู้ปลาเพื่อแสดงความสดของสินค้า ส่วนเรื่องคิดเงินควรหันทำมุมกับประตูหน้าและไม่อยู่ใต้คานเพราะจะทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ ต้องไม่มีมุมหรือขอบแหลมใดๆ พุ่งเข้าหาเครื่องคิดเงินเป็นอันขาด นอกจากนี้ให้แขวนขลุ่ยไม้ไผ่ที่พันด้วยริบบิ้นแดงเอาไว้เหนือเครื่องคิดเงิน (ลุกค้าอุดหนุนมาก) ตัวขลุ่ยต้องไม่หันขึ้นด้านบนเพราะทำให้การค้าตกต่ำ
เหลืออีกอย่างเดียวที่ทำให้คนเข้าร้านตลาดเวลาคือ ทำให้อร่อยสุดฝีมือและขายในราคาเหมาะสม

Leave a Reply

Tags

blog CONSAL KPI PULINET การจัดการความรู้ การดูแลสุขภาพ การทำงาน การท่องเที่ยว การบริการ การปฏิบัติงานล่วงเวลา การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาตนเอง การพัฒนาบุคลากร การลงรายการ การศึกษาดูงาน การอ่าน การเรียนออนไลน์ กิจกรรมสำหรับเด็ก กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมห้องสมุด ความสุข ค่ายห้องสมุด งานบริการ ธรรมะ นวนิยาย นักเขียน บรรณารักษ์ บริการชุมชน ประกันคุณภาพ ภาพถ่าย ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ วัด วันสำคัญ วารสาร สัมมนา สุขภาพ หนังสือ หนังสือบริจาค หนังสือและการอ่าน หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ห้องสมุด ห้องสมุด 24 ชั่วโมง อาหาร