จากการที่ข้าพเจ้ามีความสนใจเรื่องของ HRD (Human Resource Development) ซึ่งมองว่างาน HRD มีส่วนสำคัญ (Key) ในการนำพาองค์กรให้เป็นอมตะ
ดังนั้นงาน HRD ในปัจจุบันจึงเป็นงานที่มีลักษณะ คิดใหม่ ทำใหม่ เรียนรู้วิธีที่จะเรียนรู้ (Learn how to learn) และสามารถบริหารเรื่องที่รู้นั้นได้ด้วย ซึ่งงาน HRD เป็นยุทธศาสตร์หนึ่งในการพัฒนาองค์กร และการทำ LO (Learning Organization) และ KM (Knowledge Management) เป็นกลยุทธ์หนึ่งในการพัฒนาคน พัฒนาองค์กร ในฐานะ HRD จะต้องหา role Model
โดยใช้หลักของ การบริหารคนดื้อ การบริหารการเปลี่ยนแปลง (Change management) การสอนแบบยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ (CC หรือ Child centered education) และเมื่อได้ความรู้แล้ว ก็ต้องไม่ลืมที่จะบริหารความรู้ (Knowledge management) ด้วยเช่นกัน
ซึ่งยุทธศาสตร์ในการพัฒนาองค์กรของ HRD นั้น เริ่มตั้งแต่
1) รู้ว่าอะไรคือ ขีดความสามารถหลักขององค์กร เช่น ห้องสมุดเป็นงานที่เน้นงานบริการ ขีดความสามารถหลักอาจจะเป็น ทักษะของพนักงาน หัวหน้างาน เป็นต้น
2) แล้วพิจารณาต่อว่า อะไรเป็นกระบวนการหลัก ที่ทำให้ขีดความสามารถหลักขององค์กรไปรอดได้ ซึ่งกระบวนการหลัก ต้องพิจารณา man/machine/method/materials/information/timing กรณีของ man จะดูว่า ใคร ตำแหน่งใดบ้างที่เป็นระดับสำคัญ (key)
3) ใน Key person นั้นต้องดูว่ามี competency อะไรบ้างที่สำคัญ และต้องทำ HRD competency คือ รักษาไว้ พัฒนา แก้ไข และปรับปรุง
4) HRD competency คือ การมองถึง
4.1 Core competency (ขีดความสามารถหลักของบุคคล) คือ ความสามารถในระดับจิตใจ จิตสำนึก เช่น Leadership(ความเป็นผู้นำ) EQ (การควบคุมอารมณ์) Continuous improvement(พัฒนาอย่างต่อเนื่อง) Social responsibility (ความรับผิดชอบต่อสังคม) ฯลฯ
4.2 Professional competency (ขีดความสามรถทางอาชีพ โดยเน้นที่ การใช้สมอง การเรียนรู้) ซึ่งขีดความสามารถขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ผ่านความสำเร็จ และล้มเหลวต่าง ๆ และต้องฝึกฝน ปฏิบัติเท่านั้น จึงจะประสบความสำเร็จ เช่น Change management (การบริหารการเปลี่ยนแปลง) Collaboration & team work (การประสานงาน การทำงานเป็นทีม Communication (การสื่อสาร) Initiative & innovation (ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์) People management (การจัดการกับคน) Planning (การวางแผน) Problem solving& decision making (การแก้ปัญหาและการตัดสินใจ) Strategic thinking (การสร้างกลยุทธ์ กำหนดยุทธศาสตร์ได้) ฯลฯ
4.3Technical competency (ทักษะ หรือสิ่งที่ทุกคนเรียนได้ แต่เก่งไม่ได้ทุกคน เน้นใช้การทำบ่อย ๆ จนชำนาญ) เป็นขีดความสามารถด้านเทคนิคเทคโนโลยีที่จำเป็นกับงานของตน เช่น Document management (การบริหารเอกสาร ข้อมูล) Equipment Instrument & Machine operation (การใช้เครื่องจักรอุปกรณ์) Office support (การบริหารจัดการเรื่องต่าง ๆ ใน ออฟฟิศ ) Security management (การบริหารตามขึ้นตอนการทำงาน)
ซึ่งทั้ง 3 อย่างต้องพิจารณาว่าอะไรบ้างสำหรับ key person ที่ต้องรักษา แก้ไข ป้องกัน ปรับปรุง และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทุกการพัฒนาขีดความสามารถ ดังกล่าวนั้นต้องอาศัย LO & KM โดยเฉพาะการใช้ลูกเล่นของ CC หรือ Child centered education แล้ว LO คืออะไร ได้เคยเขียนลงบน Blog ไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่จะสรุปสั้น ๆ อีกครั้ง คือ องค์กรที่ทุกคน ทุกระดับ พัฒนาขีดความสามารถในการสร้างผลงานที่ดีให้กับองค์กรด้วยใจรักอย่างต่อเนื่อง โดยที่ทุกคนในองค์กรรู้สึก มีความสุข สนุกที่จะทำงาน ทุกวันอยากทำอะไรดี ๆ ให้กับองค์กรด้วยความเต็มใจ ผลงานดี ๆ ก็จะออกตามมาด้วย ปัญญาก็จะไหลออกมา ปัญญาก็จะเกิด เมื่อองค์กรมีความรู้ เราก็จะต้องรู้จักการบริการจัดการความรู้ต่าง ๆ (Knowledge) ที่ค้นคว้ารวบรวม สร้างใหม่ ค้นพบเอง เพื่อเอาไปใช้เก็บไว้ฝึกอบรม หรือเผยแพร่ต่อไป เรียกว่า KM (Knowledge management) ซึ่ง KM นั้นเป็นผลพวงของการทำ LO ซึ่งการที่พัฒนาองค์กร ให้เป็น LO ก็เพื่อความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง เป็นองค์กรที่อมตะ เจริญเติบโต และยั่งยืน พนักงานสนุกสนาน มีความสุขกับทำงาน

ศาสตร์ต่าง ๆ มีมากมาย ชั่วชีวิตคน ๆ หนึ่งคงเรียนไม่จบ เรียนรู้ “วิธีเรียนรู้ ” ก่อน แล้วจะได้ความรู้ที่แท้จริง การเรียนรู้เรื่อง “ชนะใจ” ของตนเองได้เมื่อไร เรื่องอะไรทั้งโลกก็เรียนรู้ได้ รากฐานการเรียนรู้ การพัฒนาคน อยู่ “ใจ”