เวลาที่เหลืออยู่

หากผู้คนแต่ละคนมีอายุขัย 70 ปี จะพบว่า แต่ละคนมีเวลาเท่ากันคือ
= 840 เดือน
= 25,550 วัน
= 613,200 ชั่วโมง
เคยสงสัยหรือไม่ว่าผู้คนแต่ละคนมีเวลาเท่ากันคือ ใน 1 วันมี 24 ชั่วโมง แต่ทำไมเขาจึงสร้างผลงานหรือประสบผลสำเร็จได้ไม่เท่ากัน
เมื่อพิจารณาดูดี ๆ จะพบว่าธรรมชาติของเวลามีลักษณะ คือ
1. เป็นทรัพยากรที่ทุกคนมีเท่ากันไม่ว่ารวยหรือจน คือ ใน 1 วัน มี 24 ชั่วโมง
2. เป็นทรัพยากรที่มีจำกัด ใช้แล้วหมดไป ไม่สามารถเก็บไว้ได้
3. ไม่สามารถซื้อหรือขอเวลาเพิ่มได้
4. เวลาจะผ่านไปเรื่อย ๆ ไม่สามารถจะย้อนกลับมาได้
คนหลาย ๆ คน มีมุมมองต่อระยะของเวลาที่แตกต่างกัน เวลาอาจแสนสั้นเหลือเกินสำหรับคนบางคน แต่อาจยาวนานเกินไปสำหรับคนบางคน คนเราไม่สามารถทำอะไรได้ครบทุก ๆ สิ่งตามที่ต้องการในเวลาอันจำกัด การบริหารเวลาจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกคนต้องกระทำ เพื่อให้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าตามเวลาที่เหลืออยู่ หลักที่ใช้ในการบริหารเวลาที่ใช้กันกันอยู่ชนิดหนึ่งคือ หลักของปาเรโต้ หรือ กฎ 80/20
หลักของปาเรโต้ หรือ กฎ 80/20 คิดขึ้นโดยนักเศรษฐศาสตร์ชาวอิตาลี ชื่อ วิลเฟรโด้ ปาเรโต้ (Vilfredo Pareto) ในปี ค.ศ. 1960 เขาได้สร้างสูตรคณิตศาสตร์ขึ้นมาอธิบายการแพร่กระจายความมั่งคั่งในประเทศอิตาลีที่เกิดขึ้นอย่างไม่เท่าเทียมกัน ด้วยการสังเกตเห็นว่า ประชากรจำนวน 20 เปอร์เซ็นต์ ครอบครองความร่ำรวยในปริมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของความร่ำรวยทั้งหมด
กฎ 80/20 มีความหมายว่า อะไรก็ตามที่มีจำนวนน้อย (ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์) เป็นส่วนที่มีความสำคัญ และจำนวนที่มาก (ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์) เป็นส่วนที่สำคัญน้อย หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “จำนวนน้อยที่สำคัญมาก และจำนวนมากที่สำคัญน้อย” หากคุณสังเกตการใช้ชีวิตประจำวันแต่ละวันจะพบว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำตลอดทั้งวันจะมีเพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่มีความสำคัญจริง ๆ, 80 เปอร์เซ็นต์ของเสื้อผ้าที่ถูกใช้เป็นประจำ มาจาก 20 เปอร์เซ็นต์ของเสื้อผ้าที่มีอยู่, 80 เปอร์เซ็นต์ของร้านอาหารกลางวันที่รับประทานเป็นประจำ มาจาก 20 เปอร์เซ็นต์ของร้านอาหารทั้งหมดที่มีอยู่ในโรงอาหาร เป็นต้น
หลักการ 80/20 มาจากแนวคิดที่ว่า ทุกอย่างไม่ได้เป็นเส้นตรง สิ่งที่เกิดขึ้นจำนวนมหาศาลที่ไม่สำคัญ สามารถตัดทิ้งไปได้ มีพลังงานจำนวนน้อยเท่านั้นที่ก่อให้เกิดผลดีมหาศาล…การเติบโตของสิ่งที่สำคัญจำนวนน้อยจะเติบโตเป็นเท่าทวีคูณมากขึ้นอย่างรวดเร็ว เหตุนี้คนรวยจะยิ่งรวยเร็วขึ้น ไม่ใช่เพราะเขาเก่งกว่าแต่เขาอยู่ในส่วนที่ทำให้ทวีตัวได้รวดเร็ว (อานันท์ ชินบุตร 2548 : 21) เราจึงจะไม่มองที่งานเล็ก แต่เรามองที่งานสำคัญซึ่งจะส่งผลที่ให้ประโยชน์สูงสุด เราจะไม่เสียเวลาไปกับกิจกรรมที่เสียแรงแต่ได้ผลน้อย เราจะมีเวลาพักผ่อน เราจะมีเวลาได้คลายเครียด เราจะมีเวลาได้ใช้สมองไปกับเรื่องที่ทำให้เรามีความสุข ความสำเร็จที่เหนือชั้นมาจากการทุ่มเทแรงพยายามไปในสิ่งที่จะส่งผลดีขนาดใหญ่ระยะยาวโดยลงแรงน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ (อานันท์ ชินบุตร 2548 : 38)
กฎ 80/20 ไม่ได้ให้คนเห็นแก่ตัว แต่ให้รู้จักเลือกกระทำในสิ่งที่มีความสำคัญ ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ก่อน แล้วค่อย ๆ ขยายการกระทำในส่วนที่เหลืออีกประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยให้พยายามเลือกกระทำในส่งที่เป็นสาระสำคัญก่อน ไม่หมกมุ่นอยู่แต่การลงรายละเอียดนานเกินไปจนไม่มีเวลาเหลือพอสำหรับการกระทำในสาระสำคัญ ตัวอย่างเช่น มหาเศรษฐีที่ป่วยใกล้จะตาย มีสิ่งที่เขาต้องกระทำแต่ยังไม่ได้ทำเหลืออยู่อีก 10 อย่าง แต่เวลาที่เขาจะมีชีวิตเหลืออยู่น้อยมาก ดังนั้นเขาจึงต้องเลือกกระทำในสิ่งที่เขาคิดว่าจะก่อให้เกิดผลดีมากที่สุดก่อน เขาจึงเลือกทำพินัยกรรมเป็นอันดับแรก เพื่อตัดปัญหาการทะเลาะวิวาทในการแย่งมรดกกันในหมู่ญาติพี่น้องและคนในครอบครัวของเขา และค่อย ๆ ทำในสิ่งที่เหลือที่มีความสำคัญลำดับถัดไปเรื่อย ๆ จนกว่าเขาจะหมดลมหายใจ เป็นต้น
ดังนั้นในการใช้ชีวิตประจำวันที่มีอยู่จำนวน 24 ชั่วโมง จึงควรแบ่งเวลาให้เหมาะสมเพื่อรักษาความสมดุลในชีวิตแต่ละด้าน ได้แก่ หน้าที่การงาน ครอบครัว คนที่คุณรัก คนรอบข้าง การพักผ่อน การรักษาสุขภาพ และทำในสิ่งที่คุณรัก โดยแต่ละด้านกระทำ 20 เปอร์เซ็นต์ที่มีความสำคัญก่อน หากมีเวลาเหลือจึงค่อย ๆ ขยายการกระทำในส่วนที่เหลืออีกประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อจะได้ไม่กินเวลาในด้านอื่น ๆ ไป โดยฝึกทำให้เคยชินจะก่อให้เกิดความสุข และไม่เกิดความเครียด ซึ่งอะไรที่ทำซ้ำ ๆ ผ่านไปช่วงเวลาหนึ่งจะกลายเป็นนิสัย นิสัยจะชี้นำชีวิตคุณ หากต้องการความสำเร็จ ต้องรู้จักบ่มเพาะนิสัยที่ดี นิสัยที่ดีเกิดจากการลงมือทำสิ่งที่มีประโยชน์ต่อตนเอง ทำซ้ำ ๆ จนกลายเป็นสิ่งเคยชิน และเป็นส่วนหนึ่งของตัวคุณ (แอนโทนี รอบบินส์, อ้างถึงใน วิศิษฐ์ ศรีพิบูลย์ 2552 : 185)
คุณมีเวลาในชีวิตแค่สองหมื่นกว่าวันเท่านั้น ดังนั้น อย่านั่งรอโชคลาภ อย่ามัวแต่คิดถึงความเจ็บปวดหรือความล้มเหลวในอดีต ในเวลาที่เหลืออยู่ของชีวิตนี้หากยังไม่ได้ทำอะไรดี ๆ ให้กับชีวิตและคนรอบข้างก็รีบ ๆ ทำซะ เพราะเผลอแป๊บเดียวก็หมดเวลาไปอีกหนึ่งวันแล้ว ทำวันนี้ให้เหมือนกับวันสุดท้ายที่คุณมีชีวิตอยู่ อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง เพราะพรุ่งนี้อาจไม่มีเวลาเหลืออยู่ให้ทำอะไรได้อีก

บรรณานุกรม

วิศิษฐ์ ศรีพิบูลย์.  The Lord of Time เทพแห่งกลาลเวลา.  กรุงเทพมหานคร : บานานา สวีท, 2552.
อานันท์ ชินบุตร.  คิดแบบกฎ 80/20.  กรุงเทพมหานคร : กู๊ดมอร์นิ่ง, 2548.

2 thoughts on “เวลาที่เหลืออยู่

  • น่ากลัว… ฟังเพลงแสนล้านนาทีดีกว่าน่าร้ากกก

  • รู้สึกคุ้นๆ กับเรื่องนี้น่าจะเป็นของคุณกวีที่เขียนลงไว้
    ของหนูใหญ่ให้แนวคิดเกี่ยวกับการจัดสรรเวลาให้ได้สิ่งดีดีเพิ่มขึ้นมาด้วย

Leave a Reply

Tags

blog CONSAL KPI PULINET การจัดการความรู้ การดูแลสุขภาพ การทำงาน การท่องเที่ยว การบริการ การปฏิบัติงานล่วงเวลา การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาตนเอง การพัฒนาบุคลากร การลงรายการ การศึกษาดูงาน การอ่าน การเรียนออนไลน์ กิจกรรมสำหรับเด็ก กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมห้องสมุด ความสุข ค่ายห้องสมุด งานบริการ ธรรมะ นวนิยาย นักเขียน บรรณารักษ์ บริการชุมชน ประกันคุณภาพ ภาพถ่าย ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ วัด วันสำคัญ วารสาร สัมมนา สุขภาพ หนังสือ หนังสือบริจาค หนังสือและการอ่าน หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ห้องสมุด ห้องสมุด 24 ชั่วโมง อาหาร