วิธีคิดอย่างคนเก่ง
คนจะเก่งได้นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับพรสวรรค์เพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีพรแสวงด้วย คือหมั่นค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม หมั่นฝึกฝนและพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดนิ่ง สิ่งเหล่านี้แหละที่จะทำให้คุณกลายเป็นคนเก่งด้านการปฎิบัติ
การฝึกฝนทุกคนคงพอทำกันได้ แต่ในด้านความคิดละคนเก่งเขาคิดกันอย่างไร แล้วคิดอย่างไรถึงจะเป็นคนเก่งมาลองดู7 วิธีนี้ น่าจะให้อะไรมากกว่าการเป็นคนเก่งอีกนะจะบอกให้
1. คิดในทางมองโลกในแง่ดี และทำทุกสิ่งอย่างเต็มกำลังด้ายรอยยิ้มและความเบิกบาน ทำตัวให้สดชื่นมีชีวิตฃีวาและกระตือรือร้นอยู่เสมอ พร้อมที่จะเผชิญกับทุกสถานการณ์ จะช่ายให้คุณสามารถจัดการกับทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาได้อย่างอยู่มือ
2. มีศรัทธาในตัวเอง ถ้าคุณเองยังไม่ศรัทธาและเชื่อมั่นในตัวเองแล้วจะมีมนุษย์หน้าไหนล่ะ จะเชื่อมั่นในความเก่งของคุณ อยากให้ใครๆ เขาชื่นชอบ และทึ่งในตัวคุณ คุณก็ต้องมั่นใจในตัวคุณก่อน
3. ขอท้าคว้าฝัน ไม่มีอะไรที่จะทรงพลังมากเท่ากับความตั้งใจจริงและทุ่มสุดตัวจะเป็นแรงผลักดันที่จะทำให้คุณสานฝันสู่ความจริงได้
4.ค้นหาบุคคลต้นแบบ ใครก็ได้ที่คุณชื่นชอบเพื่อเป็นมาตรฐานที่ดีในการดำเนินรอยตาม ศึกษาแนวคิด วิธีการทำงาน จุดเด่นในตัวเขาแล้วอาจนำมาปรับใช้ให้เข้ากับชีวิตเราได้
5. เริ่มต้นงานใหม่ทุกวันด้วยรอยยิ้มสดใส คนที่มีรอยยิ้มระบายบนใบหน้าเสมือนประตูที่เปิดกว้างให้ใคร ๆอยากคบหาด้าย การเจรจา ติดต่องานด้วยจะประสบความสำเร็จ
6.สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง จะเป็นอะไรเชียวถ้าเราจะทำอะไร แล้วจะยังไม่สำเร็จอย่างที่หวังไว้ เพียงแต่ขอให้ทำเต็มที่ และเปิดใจให้กว้างยอมรับความจริงหันมาทบทวนดูว่ามีขั้นตอนไหนที่ผิดพลาดไปเพื่อที่จะเริ่มต้นใหม่ให้ดีกว่าเดิม
7. ทนุถนอมมิตรสัมพันธ์เก่าๆ คงไม่มีใครที่จะอยู่อย่างมีความสุขโดยปราศจากเพื่อนหรือมิตรที่รู้ใจหรอก แม้ว่าชีวิตของคุณในแต่ละวันจะวุ่นวายแค่ไหนก็ตาม คุณควรจะมีเวลาให้กับเพื่อนที่รู้จักมักจี่กันมานานแวะไปหากันบ้างเมื่อโอกาสอำนวยร่อนการ์ดวันเกิดไปให้ เผื่อในยามที่คุณทุกข์ใจ ก็ยังมีเพื่อนซี้ไว้พึ่งพาและให้กำลังใจกันได้นะ
นอกจากนี้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะยังสร้างความเบิกบาน และคลายทุกข์แถมเป็นยาอายุวัฒนะขั้นดีอีกด้วยนะ- –
จากวารสาร สาส์นรัฐประศาสนศาสตร์ 9, 89 (ก.ค 2551)
One thought on “วิธีคิดอย่างคนเก่ง”
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
เปิดมาเช้านี้ก็พบกับเรื่องราวดีๆ
ขอบคุณบทความที่งดงามในยามเช้าครับลุงบูรณ์
เห็นด้วยกับทุกข้อเลยครับลุง
ว่าแต่ว่าข้อ ๔ น่ะ คงมิอาจสามารถแสดงให้ปรากฎ โดยเบ็ดเสร็จในบุคคลคนเดียว
คือ ถ้ามีก็อาจเป็น ๑ใน๑๐๐ อะไรทำนองนั้น
เป็นว่าใช้พิจารณา และวิจารณะ เป็นตัวช่วยส่อง
แล้วเก็บ เกี่ยว แง่ดี มุมงาม จากหลากหลายบุคคลิกของผู้คนแวดล้อม
มาปรับใช้ให้เป็นแบบอย่างในใจของเรา อย่างนี้มีแต่กำไรกับกำไร
กำไรชีวิต…ที่มีต้นแบบให้เก็บเกี่ยว ไม่ต้องคิดเองทั้งหมดไง หุหุหุ