ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย (รายบุคคล) : วิธีการ
จากที่ได้เล่าถึงหลักการกำหนดตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายรายบุคคล ว่าจะต้องกำหนดตัวชี้วัดตาม SMART กำหนดประเภทของตัวชี้วัดว่ามุ่งเน้นปริมาณ คุณภาพ ความรวดเร็ว หรือความประหยัดคุ้มค่า และกำหนดค่าเป้าหมายตั้งแต่ระดับ 1-5 ซึ่งระดับ 1 เป็นค่าเป้าหมายต่ำสุดที่สามารถยอมรับได้ ไปจนถึงระดับ 5 ซึ่งเป็นระดับท้าทายที่มีความยาก
ถึงตอนนี้จะพูดถึงวิธีการกำหนดตัวชี้วัด ซึ่งมี 3 วิธี
วิธีการแรก การถ่ายทอดตัวชี้วัดผลสำเร็จจากบนลงล่าง (Goal cascading method) โดยลักษณะงานที่เหมาะสมคือ งานตามคำรับรอง งานตามแผน งานของผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร และงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบหลัก โดยที่ค่าเป้าหมายและตัวชี้วัดผลงานควรสอดรับหรือสะท้อนภาระหน้าที่ที่ผู้ปฏิบัติงานพึงกระทำให้สำเร็จ ดังนั้นจะเริ่มต้นโดยการใช้ตัวชี้วัดของผู้บังคับบัญชาหรือหน่วยงานเป็นตัวตั้ง ซึ่งอาจกำหนดรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งคือ
…..– ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายเป็นตัวเดียวกันกับผู้บังคับบัญชา เกิดขึ้นเมื่อผู้บังคับบัญชาและผู้ปฏิบัติงานต้องรับผิดชอบต่อความสำเร็จร่วมกัน ไม่สามารถแบ่งแยกกันได้
…..– ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายแบ่งส่วนจากส่วนของผู้บังคับบัญชา เกิดขึ้นจากการที่ผู้บังคับบัญชารับผิดชอบต่อเป้าหมายรวม โดยที่เป้าหมายรวมเกิดจากผลผลิตของผู้ปฏิบัติงานหลายคนที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบเหมือนๆ กัน
…..– ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายเป็นคนละตัวกับผู้บังคับบัญชา แต่จะเป็นตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายที่สะท้อนงานที่เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายโดยรวมของผู้บังคับบัญชา ซึ่งตัวชี้วัดของผู้ปฏิบัติงานจเป็นตัวชี้วัดที่ผู้ปฏิบัติงานไ้ด้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานเพียงบางด้าน
วิธีการที่ 2 การสอบถามความคาดหวัดของผู้รับบริการ (Customer-focused method) โดยลักษณะงานที่เหมาะสมคือ งานให้บริการ งานของหน่วยงานสนับสนุน หรืองานที่มีผู้รับบริการเป็นหัวใจสำคัญ โดยการกำหนดตัวชี้วัดจะใช้ความคาดหวังหรือความต้องการของผู้รับบริการเป็นตัวตั้ง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะบ่งชี้ถึงผลการปฏิบัติงานว่าทำได้ดีเพียงใด
วิธีการที่ 3 การไล่เรียงตามผังการเคลื่อนของงาน (Workflow-charting method) โดยลักษณะงานที่เหมาะสมคือ งานที่มีขั้นตอนหลายขั้นตอน แต่ละขั้นตอนเกี่ยวข้องกับผู้ปฏิบัติงานหลายคนที่อยู่ภายในสำนัก/กองเดียวกัน โดยจะกำหนดตัวชี้วัดให้กับงานที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับยุทธศาสตร์ แต่จะไล่เรียงเนื้องานในความรับผิดชอบของตำแหน่งงาน
จะเห็นว่าวิธีการกำหนดตัวชี้วัดค่อนข้างจะมีความละเอียดและซับซ้อนพอสมควร ซึ่งจะได้นำมาเล่าเพิ่มเติมในครั้งต่อไป… 😉