งานบุ๊คแฟร์แต่ละปี จะเป็นโอกาสให้ได้นั่งและเดินปั้นจิ็้ม ปั้นเจ๋อเนื่องจากเป็นกำลังเสริม
งานใหญ่ๆ แบบนี้จัดต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่สาม สองครั้งแรกมีเหตุให้ต้องไปราชการงานเมือง จึงได้เห็นวันแรกๆ หรือไม่ก็วันท้ายๆ เท่านั้น  แต่ปีนี้ได้อยู่ตลอดงาน
หลังจากงานของปีที่แล้ว หนูเล็กได้คุยให้ฟังว่าอยากให้ลงไปช่วยงานกันเยอะๆ ดังนั้นปีนี้จึงคุยกับพี่ๆ น้องๆ หลายคนว่าเราคงต้องเริ่มต้นอย่างไรก็ต้องเต็มที่ แม้การทำงานของเราจะมีเวลาเป็นตัวกำหนดก็ตาม รวมทั้งกำลังคนก่อนงานนี้จะนี้เกิด เพราะคนของเรามักพุ่งตรงไปที่กิจกรรมวันเด็ก ขาดการมองภาพรวมของกิจกรรมในภาพรวม
ปีนี้เราจึงคุยกันแต่เนิ่นๆ ทั้งเรื่องการส่งงานต่อกันระหว่างงานวันเด็ก กับงานบุ๊คแฟร์  กับกำลังคนที่พวกเรามีอยู่ จะได้ smooth as silk
ปัญหาของปีที่ผ่านมาคือการขอกำลังคนเพื่อไปแจกแบบสอบถาม ซึ่งเราจำเป็นต้องทราบล่วงหน้า เพราะจะได้ไปจัดตารางการทำงานในปัจจุบัน
แต่ปีนี้ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่นี้จึงเปลี่ยนระบบใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่วิธีการแจก โดยเฉพาะเรื่องของจำนวนผู้ตอบแบบสอบถาม
คำถามที่ถามในที่ประชุมและตอบในที่ประชุมคือ จำนวนของคนที่เข้ามาในงาน กับการใช้สถิติของกลุ่มตัวอย่างต้องมีความสัมพันธ์กัน รวมทั้งวิธีการแจกและหน้าที่ของคนแจก ซึ่งคิดว่าตัวเองได้ตอบและชี้แจงวิธีการที่จะปฏิบัติในปีนี้อย่างชัดเจน
ส่วนงานที่ฝ่ายบริการต้องรับผิดชอบอีกอย่างหนึ่งคือ กิจกรรมวิชาชีพ ปีที่แล้วในกลุ่มนี้จะได้คำถามจากตัวเองไปคือ จัดสรรกำลังคนอย่างไรเพื่อไม่ให้งานประจำมีผลกระทบมาก กับทำกิจกรรมอะไร มีค่าใช้จ่ายมากน้อยแค่ไหน ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีส่วนอย่างไรในการจัดพื้นที่ตรงนี้ ฯลฯ
ปีนี้พี่พัชรีจึงปรับกระบวนยุทธ์ใหม่ ทั้งในเรื่องของการคำนวณค่าใช้จ่าย การจัดสรรพลพรรค รวมทั้งการให้ผู้เข้ามาในพื้นที่ส่วนนี้มีส่วนร่วม ผลคือเกิดการเรียนรู้ระหว่างผู้ที่เข้ามากับพวกเรา
ในปีนี้ในบูธนี้มีกิจกรรมมากมาย สิ่งที่มากมายนั้นเกิดจากการสั่งสมความรู้ มีได้มาอย่างฉาบฉวย เป็นวิธีการและรูปแบบที่ได้จากการจัดกิจกรรมต่างที่พวกเราทำกันมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่งานห้องสมุดสัญจร งานองค์พระปฐมเจดีย์ โลกของหนู งานวันเด็ก รวมทั้งการทำงานกับสิ่งเหล่านี้ด้วยความรักที่จะทำ และทำเพื่อหน่วยงานของเรา
ขุมกำลังตรงนี้น่ายกย่องมากไม่ว่าจะเป็นท่านใดก็ตามที่มีส่วนในการชะแว๊บเข้าไปติชม แซว เก็บของ ซื้อของ หาคนมาช่วย  เอาของมาฝาก ซื้อหนังสือมาให้ ลงทุนซื้อเพื่อมาแกะย้อนรอย นำของมาจากบ้าน การฝีมือของลูก ใช้เวลาที่ควรจะพักเพื่อนั่งหลังขด หลังแข็งในการซ้อมมือ ซึ่งทำกันไปโดยไม่รู้ว่าทุกคนเข้าใจหรือไม่ว่าผลงานที่ก้มหน้า ก้มตานั้นจะเอาไปทำอะไร หรือเกี่ยวกับห้องสมุดหรือไม่ …. ขอบคุณจริงๆ
งานอีกอย่างที่ช่วยคือติดต่อการวิทยากรมาช่วย ไม่ได้ทำอะไรมากแค่คุยเบื้องต้นกับคนที่เราคิดว่าจะมาช่วยงานเราได้ แล้วส่งต่อให้หนูเขียดแค่นั้นจริงๆ  แล้วก็มาคอยดูตอนที่วิทยากรมา ไม่รู้สึกเหนื่อย ไม่รู้สึกว่านี่คือภาระ สบายๆ ดีซะอีกที่ได้คุยกับพี่ๆ น้องๆ โดยไม่ต้องเดินทาง
และการอัพเดทข้อมูลในเฟซบุ๊ค กับตามอ่านว่านักศึกษารู้สึกอย่างไรกับงานนี้ … งานสบายคร่อดๆ
ปีนี้กับปีที่แล้วในระหว่างงาน ดูแล้วคนของเราในบางวันอาจจะลงไปในพื้นที่การทำงานน้อยกว่าปีที่แล้วด้วยซ้ำไป ยกเว้นทำหน้าที่ตามที่ร้องขอแบบเฉพาะกิจ
จะมากหรือน้อยไม่ใช่ปัญหา สิ่งที่ดีใจคือพวกเราสามารถก้าวผ่านปัญหาต่างๆ ด้วยการนำข้อมูลเก่ามาพิจารณา การมองงานอย่างทะลุและเห็นความต่อเนื่องของงาน เป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับตัวเอง ในฐานะคนที่ดูแลพี่น้องกลุ่มหนึ่งในห้องสมุด
ขอบคุณทุกคนค่ะ
อ้อ.. ปีนี้ได้นั่งปั้นจิ้ม ปั้นเจ๋อในบูธประชาสัมพันธ์ เพื่อแจกแบบสอบถาม ได้ข้อมูลมาว่า
1.  อยากได้แผนผังใหญ่ติดหน้างาน
2.  อยากให้แจกแผนผังร้านหนังสือฉบับพกพา
3.  หาหนังสือจนเมื่อย อยากให้เราเป็นสื่อกลางในการประกาศว่า หนังสือเล่มที่ต้องการมีขายที่บูธไหน
4.  ร้านหนังสือประเภทคู่มือครู/ติว ขายที่ร้านไหน
5. นิยายอยู่บูธไหน
ไม่ทราบว่าท่านอื่นๆ มีใครถามว่าอะไรบ้าง มาช่วยกันหน่อยจ้า