เนียนไปกับ KM : แสงสว่างที่พรางใจ

ปล๊าววววว ม่ะมีรัย
บังเอิน….ที่ไม่ใช่พี่ชายคนนึงที่ทำงานที่โรงเรียนสาธิต
แต่เป็นบังเอินที่เราไปสะดุดเข้าอย่่างแรง กะ ชื่อบทความนี้เข้าบน
http://gotoknow.org/blog/econtent/329550
ซึ่งอันที่จริงกะลังหาเนื้อหาสนับสนุนการเขียนรายงานที่จะต้องเสนอหน้า…Present เฟซ
สรุปจบการอบรม นบก.2 ที่เฝ้าเพียรไปเรียนรู้ถึง 1 เดือน เต็มๆ ที่มีอันต้องหายศรีษะไปจากที่ทำงาน….แต่ ก็คุ้มนะ คุ้มงัยเป็นว่า…ติดตามตอนต่อไป ซึ่งม่ะใช่ตอนนี้นั่นล่ะ
บทความที่ว่านี้อยู่ที่เว็ปไปเพื่อรู้นั่นล่ะ ซึ่งเราเข้าไปหาข้อมูล การจัดอันดับมหาวิทยาลัยไทย
แต่ไหงไปป่ะเหมาะเอากับบทความของคุณที่ใช้นามว่า ณัฐวรรธน์ นักเรียนรู้คนหนึ่ง เข้าก็นึกม่ะออก เอาเป็นว่าดื้อๆ เลยละกัน ลองอ่านบทความตามชื่อที่ว่าดู ดั่งนี้จ้ะ

บันทึกนี้ ผมเขียนตอนที่ผมกำลังได้คิดถึงอะไรบางอย่างครับ
ซึ่งภารกิจแทบทุกวันของผมที่ได้เขียนบันทึกนี้ หลังจากที่ได้เลิกการทำงานเรียบร้อยแล้ว พอสบายใจก็มาเขียนกันครับ….
ผมเองขณะที่เขียนทำให้นึกถึงวันก่อนที่เคยสนทนากับเพื่อน… ผมให้คำยืนยัน จะอยู่ที่นี่หรืออยู่ที่ไหนก็แล้วแต่ ผมจะเขียนต่อใน G2Kครับ โดยมีจุดประสงค์หลักคือ เป็นการพัฒนาตนเองและจัดการความรู้ที่หลากหลาย เพราะการทำงานหรือในชีวิตประจำวัน เริ่มที่ ใจ เป็นสำคัญ หากเรามีกำลังใจที่มั่นคง ไม่ผันแปรไปตามสิ่งใดแล้ว อุปสรรคต่างๆ ก็คงสามารถแก้ไขปัญหาได้ครับ
ใน G2K ที่ผมเขียนนั้น เพื่อนผมเคยถามว่า ใครให้เขียนเหรอ เขียนแล้วได้อะไร ? ผมกล้ายืนยันว่าไม่ได้มีใครใช้ให้เขียน แต่ที่เขียน เพราะต้องการสื่อถึงมุมมองที่เป็นอิสระทางความคิดที่หลากหลาย ครับ และในการเขียนผมเองยังต้องฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ เป็นการสอดรับกับการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ในเรื่องความคิดสร้างสรรค์และเรื่องการมองโลกในแง่ดี ซึ่งเหมือนกระจกเงา ที่คอยส่องคอยมองไม่ได้จับผิดแต่เพียงสร้่างสรรค์ ด้วยการสร้างความยืดหยุ่นในจิตใจ ให้เกิดกับท่านผู้อ่านทุกท่านด้วยการเปิดใจให้กว้าง รับรู้ในมุมมองที่แตกต่าง (รวมถึงข้อผิดพลาด) เป็นผลดีในงานที่ทำและต่อองค์กร ในการปรับปรุงแก้ไข หรือเพื่อการพัฒนาต่อไปซึ่งถือเป็นสำคัญมากกว่าครับ (เหมือนกับปัญหาเรื่องอาคารที่ผมเคยนำเสนอ ถ้าไม่เห็นปัญหาหรือข้อผิดพลาด เราจะไม่มีทางหาทางแก้ไขปัญหาหรือข้อผิดพลาดนั้นได้ครับ)…เป็นประโยชน์ที่ได้รับนอกเหนือจากความรู้ที่ยังได้แถมมาใน G2K แห่งนี้ ทำให้ผมมีความสบายใจและความสุขที่ได้เขียน…
ผมเองก็พลาดในตอนแรกอาจมองไม่ออก พอมาทีหลังถึงรู้ว่า ที่ทำงานทั้งเก่าและใหม่ต่างก็มี KM แบบไม่รู้ตัวเนียนในเนื้องานลงไปแล้ว แต่เพียงผมไม่ได้นำมาถ่ายทอดกัน….(ซึ่งอาจเป็นเพราะผมเองก็ไม่รู้เนื้อรู้ ตัวว่าได้รับKMแล้วเหมือนกันครับ)
สายงานผมเองถือว่าโชคดีที่มีพี่ๆ ที่ทำงานเป็นพี่เลี้ยง (Mentoring System) ที่คอยสอนงานถ่ายทอดและแบ่งปันประสบการณ์ในงาน(Coaching) อยู่เสมอ เช่น พี่เปิ้ล พี่นวย ลุงสุบิน(ต้นกำเนิดลุงลีกับเครื่องถ่ายเอกสาร) พี่รัตน์ และพี่เปิ้ลเอง มีบทบาทสำคัญก็เป็นคนคอยจุดไฟในการทำงานอยู่เสมอเช่นกัน ซึ่งเป็นผลดีต่อการพัฒนาครับ คือการกระตุ้นต่อมให้เกิดความร้อนเพื่อสร้างพลังครับ (ใช้วิธีดั้งเดิมครับ) ซึ่งไฟในการทำงานนี้ เป็นผลต่อการพัฒนาจะช่วยสร้างพลังกายพลังใจให้มุมานะ ครับ (เป็นการทดสอบตนเองในเรื่องมุมมองในแง่สร้างสรรค์ด้วยครับ) และมีน้องปัท น้องใหม่ไฟแรง ที่ทั้งสวยเก่งและขยัน ซึ่งต่อไปอาจมีส่วนสำคัญในการจัดการความรู้ภายในหน่วยงานและนำมาถ่ายทอดสู่เวที G2K ในอนาคตครับ
และที่เห็นคือมีการจัดตั้งทีมข้ามสายงาน (Cross-functional team) แบบกลายๆ คือมีการแบ่งกลุ่มกันเล็กๆ ครับ เพื่อการแบ่งปันช่วยเหลือกันให้กำลังใจกันในทีม ซึ่งความแตกต่างนี้ ในตอนแรกหากมองอย่างไม่เข้าใจแล้ว อาจนึกว่าเป็นความขัดแย้ง แต่จริงๆแล้วไม่ใช่นะครับ คือ การตั้งกลุ่มทีมข้ายสายงาน มาทำงาน ช่วยกัน แบ่งปัน เพื่อการพัฒนาและความสำเร็จครับ พี่ๆ บางคนทำงานหามรุ่งหามค่ำ เวลามีงานรีบเร่งก็ทำกันอย่างจริงจัง (จนผมอดคิดไม่ได้ว่าพี่ๆ ไม่เหนื่อยกันบ้างหรือ?) ซึ่งสำหรับผม ก็ไปช่วยในเรื่องสนับสนุนภารกิจในงานด้านการบำรุงรักษาและดูแลครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ ในกรณีปัจจุบันทันด่วนซึ่งพอช่วยได้บ้างตามถนัดครับ
ซึ่งตอนนี้ สิ่งที่ผมเคยพูดมาในปีนี้แล้วคือ การให้เกียรติหัวหน้างานในการขอยืมบุคลากร นั่นคือ เป็นพื้นฐานในการสับเปลี่ยนงาน (Job Rotation) และการยืมตัวบุคลากรมาช่วยงาน อีกมุมมองหนึ่งของ KM ครับ (ที่ผมไม่รู้เรียกว่าเนียนมากครับ) ซึ่งการยืมตัวบุคลากรมาช่วยงาน อาจบอกกับทางหัวหน้างานหรือบอกกับเจ้าตัว (กรณีสนิทกัน) ก็ได้ครับ ซึ่งในเรื่องนี้เป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ๑ ความพึงพอใจในการสับเปลี่ยนงาน ๑ ซึ่งถ้ามองในแง่ของการพัฒนาแล้ว การสับเปลี่ยนงานและการยืมตัวบุคลากรมาช่วยงาน จะช่วยลดปัญหาภาระงานที่หนักลงและเป็นการเสริมให้บุคลากรมีการพัฒนา ประสบการณ์การเรียนรู้ภายในหน่วยงานอีกด้วยครับ ซึ่งตรงนี้ คงต้องค่อยเป็นค่อยไปกันครับ แต่ในหน่วยงานผม ได้เห็นเห็นเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคนมีสปิริตหรือมีกำลังใจที่จะต่อสู้ต่ออุปสรรคแทบทุกคนครับ
ซึ่งเรื่องราวที่ผมกล่าวมานั้น ได้พบ ได้เห็น ทั้งในองค์กรเก่าและองค์กรใหม่ ซึ่งเรียกว่าเนียนไปกับเนื้องานจนเคยชิน คือ ดูไม่ออกหรือไม่รู้เนื้อรู้ตัวก็ ว่าได้ (เนียนจริงๆ ครับ) ซึ่งการนำความรู้มาถ่ายทอดนั้น ไม่ได้มีแต่ในลักษณะของกิจกรรมเท่านั้น ในลักษณะชีวิตปัจจุบัน การทำงาน เช่นความรู้ที่พ่อแม่ท่านสอนสั่ง ความรู้ที่ครูบาอาจารย์ท่านสอน หรือ ความรู้ที่ผู้บังคับบัญชาหรือเพื่อนร่วมงานสอนหรือนำมาบอกกล่าว หรือแม้แต่สิ่งที่เราได้รับการจากการเรียนรู้ด้วยตนเอง อาจเป็นเทคนิควิธีการต่างๆ เพื่อพัฒนางานและพัฒนาตนเอง ซึ่งถ้าจัดทำเป็นลายลักษณ์อักษรหรือเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ก็ได้ครับ และความรู้ที่ได้รับนี้ เหล่านี้คือองค์ความรู้ที่มีค่าทั้งสิ้น ครับ
สิ่งที่ผมได้กล่าวมานี้ เหมือนกับแสงสว่างที่พรางใจผมอยู่ จนผมแทบมองไม่เห็นครับ ซึ่งต้องอาศัยการคิดอย่างเป็นระบบ (System Thinking) เป็นผลดี ทำให้เราเข้าใจวิธีการคิดและมีความเข้าใจในเนื้องานมากขึ้น จนมองเห็น สิ่งที่พรางอยู่เป็น “แสงสว่างที่กลางใจ“ครับ
ขอบคุณครับ


ทั้งหมดนั่น….ต้องขออนุญาต และขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง
แก่ท่านเจ้าของบทความ มาณ โอกาสนี้
แหม!!! อาร๊ายยยยย จะอินเทรน** ซ๊ะ ขน๊าดดดดดดดดดด หุหุหุ
** หมายเหตุ…คำคำนี้เป็นภาสาปะกิต ที่มักใช้ผิดแบบดับเบิ้ลมั่วซั่วหลายชั้น แบบตั้งใจแบบเด็กไทยไง… ฝรั่งคงมึนกับศัพท์คำนี้ถ้าได้ยินภาษาพูด แต่มันอาจจะอนุมานว่า คงเป็น Trend Trendy อะไรเทือกแถวนั้น…หวัง อ่ะนะ หวังว่ามันจะเดาว่างั้น
แต่พออีฝรั่งมังคุดมาเจอคำเขียนแบบพี่ไทยเข้าให้อีก มันคงอยากมุดดดดด ไปไหนแล้วกลับมาเกิดใหม่ โอ้ววววววว พี่ไทย ช่างทำปาสาของไอวิบัติได้มากมายเสียเจงๆ ไม่เชื่อก็ลองเลียบๆ ไปแถวทางรถไฟ หลังมอ มองหาชื่อสถานเที่ยวท่องล่องราตรี ชีวีกระจายแห่งใหม่ดูดิ แล้วจะรู้ ว่าในรถไฟมีอะไร เอ…….หรือ เขาจะตั้งใจจริงๆ เพราะอยู่ริมทางรถไฟ
โอ้ยยยยยยยย สับสน สับสน เพราะเดี๊ยนคนนึงล่ะ ที่ชอบอำใครๆ แบบดับเบิ้ลอำว่า
กลัวม่ะได้อยู่บนรถไฟ….ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า เอิ๊กกกกกกกกกก


4 thoughts on “เนียนไปกับ KM : แสงสว่างที่พรางใจ

  • ดีนะที่ลงท้ายด้วย…ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า เอิ๊กกกกกกกกกก เพราะถ้าลงท้ายด้วย อิอิ ยัยหนูใหญ่จะจินตนาการและใส่ร้ายว่าอะฮั้นเป็นคนเขียน…
    KM หากจะทำให้สนุกต้องเนียนไปกับงาน ของแบบนี้ต้องทำถึงจะเข้าใจ อ่านให้ตายแต่ไม่ลงมือทำก็ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไปทำไม เพราะมีวิธีการกระบวนงานและเครื่องมือมากมายอย่างในภาษาปะกิตที่ผู้เขียนเล่ามา
    แต่ปัญหาที่เห็นคือเข้าใจทุกอย่าง แต่ไม่ทำเป็นไรอ๊ะปล่าวก็ปล่าว จึงมีภาคบังคับซึ่งก็ไม่ชอบอีก จึงยากไง แต่พี่ว่าง่ายที่สุดคือเริ่มที่ตัวเรานี่แหละง่ายที่สุดแล้ว ชวนคนข้างๆ จะด้วยสมัครใจ ขอร้อง ขอร้องแกมบังคับ อะไรก็ตามทีเหอะให้เข้ามาร่วมวงการ มันก็จะขยายความเข้าใจให้มากขึ้นๆ
    ส่วนการเขียนบล๊อกก็เป็นเครื่องมือหนึ่ง ที่เหมือนกันคือถ้าไม่เขียนไม่เล่าก็ไม่รู้หรอกว่าเขียนไปทำไมเล่าไปทำไม
    และเนื่องอะฮั้นชอบเขียนและชอบเล่าจึงหลงตัวเองว่ารู้ -ฮา- ว่าแล้วไปเขียนต่อดีกว่า
    อ้อ… ขอ ลปรร ว่า เวลาเขียนบล๊อกอย่าใช้ copy แล้ว paste เพราะหน้าตาจะพิลึก ให้คลิกไอคอนที่มีตัว W แล้วกดปุ่ม Ctrl กับ ปุ่มตัว V แทน… ไอคอนนะไม่ใช่ไิอแครกๆๆ หรือเจตนาแบบนี้ หรือประสงค์กลั่นแกล้งคุณ admin ??? คริคริ

  • …เวลาเขียนบล๊อกอย่าใช้ copy แล้ว paste เพราะหน้าตาจะพิลึก ให้คลิกไอคอนที่มีตัว W แล้วกดปุ่ม Ctrl กับ ปุ่มตัว V แทน…
    ขอบคุณจร้าาาาา สำหรับคำนำแนะ แต่หากจะหมายถึงขนาดตัวอักษรที่บิ๊กไซส์ ใหญ่ซ๊าาาา
    นั้นเป็นความตั้งอ๊ก ตั้งใจ จร้าาาาา เพราะตาแก่เลี้ยววววว ยายก็แก่ล่วย ฮิ้ววววววววววววววว

  • เห็นด้วยกับทั้งผู้เขียน และผู้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ แต่จะว่าไป ลปรร อาจหมายถึง ปล่อยปะละเลย..ก็เป็นได้..หุหุ..เพราะไม่เห็นจะมีใครจะค่อยเข้ามา ลปรร เลยนิ..แต่มองในแง่ดีอย่างพี่ปองว่า ดูไปดูมาก็มีคนเข้ามา ลปรร กันเกือบๆ 15 คน ก็โออยู่เหมือนกัน

  • ยายจันเอ๊ยยยย ลปรร ของเจ้าหล่อนเนี่ย!! กาเด๋วก็มีคนเข้ามาให้ขยายฟามอีก 55++
    ฉ้านนน ขยายเรยละกัน นั่งเอา…เกากะลาที่หนากว่ากะโหลกซักกะเด๋ว เพ่งนึกออก
    แลก เปลี่ยน เรียน ร๊ากสสสสสสส์ เอ้ย รู้ รู้ รู้ เอ…หรือว่าไม่รู้หว่า…ฮิ้วววววววววว
    แต่ในมุมของพี่นะ คึือ อะไร อะไร ที่มันมาด้วยใจน่ะ จะน้อย จะมาก พี่ไม่ประเมินนะ
    1 คนเข้ามาเห็น เข้ามาอ่าน แล้วเห็นดีงามเก็บเกี่ยวเอาอะไรติดไป จะมาก จะน้อย พี่ว่าดีกว่า 100 คนเข้ามาแล้วไม่มีรัยเลย และพี่ก็เชื่ออย่างหนึ่งว่า เวลาที่เราคิดดังๆ เนี่ย มันจะค่อยๆ เชื่อมโยงการสื่อสารให้มันจูนได้ตรงช่องกันมากเข้า มากเข้า ว่ามั้ย..ม่ะรุ๊

Leave a Reply

Tags

blog CONSAL KPI PULINET การจัดการความรู้ การดูแลสุขภาพ การทำงาน การท่องเที่ยว การบริการ การปฏิบัติงานล่วงเวลา การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาตนเอง การพัฒนาบุคลากร การลงรายการ การศึกษาดูงาน การอ่าน การเรียนออนไลน์ กิจกรรมสำหรับเด็ก กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมห้องสมุด ความสุข ค่ายห้องสมุด งานบริการ ธรรมะ นวนิยาย นักเขียน บรรณารักษ์ บริการชุมชน ประกันคุณภาพ ภาพถ่าย ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ วัด วันสำคัญ วารสาร สัมมนา สุขภาพ หนังสือ หนังสือบริจาค หนังสือและการอ่าน หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ห้องสมุด ห้องสมุด 24 ชั่วโมง อาหาร