บริการ 24 ชั่วโมง

ค่อนทางแล้วกับการเปิดบริการ 24 ชั่วโมง ปีนี้เปิดตลอดเดือนกุมภาพันธ์ 1-25 …. สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยนเศวรก็เปิดพร้อมๆ กับของเรา มีน้องๆ มาเล่าประสบการณ์เหมือนกัน เป็นอย่างไรโปรดตามไปอ่านได้ที่ fb ของข้าพเจ้า
ปีนี้ก่อนการเปิดบริการได้ทำการบ้านพอสมควร หลายเรื่องได้จากการระดมความคิดเห็นของกิจกรรม Librarian Update ที่คุณภาพเต็มร้อย ที่ทุกคนต้องทำการบ้านเพื่อมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ครั้งนี้พี่ติ๋วคุณแม่บ้านที่แสนดีกับหนูน้องได้จัดหาอาหารว่างจากบะหมี่ซองเล็กๆ เป็นซองขนาดจัมโบ้ พร้อมกาแฟ โอวัลติน หากที่ขายดีกลายเป็นน้ำขิง…. ขณะที่พี่บุญตาและพี่ๆ น้องๆ ที่เป็นชายหนุ่ม ได้เตรียมจัดหาเก้าอี้มาวางเตรียมสำรองไว้
มีเด็กๆ บางคนเขียนบ่นใน fb ว่ายุงห้องสมุดเยอะมาก จึงไปบอกว่าจะจัดการให้ …เด็กๆ บอกว่าขอบคุณ และไม่คิดเลยว่าห้องสมุดจะเข้าไปอ่านและจัดการ …. ทีมที่อยู่เวรวันอาทิตย์จะทำหน้าที่พิฆาตยุง ซึ่งไม่ทราบว่ามาจากไหน กัดได้กัดดีทุกวัน… ปีหน้าอยากให้เทศบาลมาฉีดก่อนน่าจะดี
หากแวะเข้าไปดู fb ของมหาวิทยาลัยก็จะเรื่องราวระหว่างศิษย์ปัจจุบันที่ใช้ชีวิตที่นี่ กับศิษย์เก่าที่โหยหาชีวิตนักศึกษาที่ผ่านไป….
มหาวิทยาลัยไม่ใช่เพื่อศิษย์ปัจจุบันเท่านั้น หากการร่วมด้วยช่วยกันเพื่อให้ศิษย์เก่าหันกลับเข้ามาช่วยกันดูแลทุกข์ สุข และทิิศทางด้วยก็จะดีไม่น้อย กับองค์กรและรุ่นน้องๆๆๆ ที่จะตามมา… เราอาจจะช่วยได้เพียงนิดหนึ่ง แต่หากหลายๆหน่วยงานช่วยกันก็จะขยายวงออกไปได้ และพวกเราก็จะอยู่ได้อย่างมีความสุข …. อดนึกถึงหัวข้อของการสัมมนาที่กำลังจะเกิดขึ้น …. การบริหารมหาวิทยาลัยภายใต้ภาวะการเปลี่ยนแปลง ในวันพฤหัสบดีนี้ 18 กุมภาพันธ์ กับ Creative University
………………..
ปีนี้มีการทำประกาศหลายๆ แบบ ได้รับความอนุเคราะห์เป็นอย่างดีจากน้องรอง มาออกแบบให้ได้อย่างถูกใจคนจู้จี้…. เนื้อหายังคล้ายๆ กับเดิมๆ
มีการจัดโซนให้พื้นที่ชั้น 4 เป็นพื้นที่ใช้เสียงได้ในช่วงนี้ แต่ไม่รู้ว่าจะได้ผลไหม ท่ามเสียงของหลายคนที่ไม่เห็นด้วย เรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นกับการให้บริการในปัจจุบัน การบังคับเครื่องยนต์กลไกทำได้ง่ายๆ แต่สิ่งที่ยกคือจิตใจมนุษย์
จิตใจมนุษย์ทั้งที่เป็นฝ่ายให้บริการ และฝ่ายผู้รับบริการ นโยบายคือ… ต้องทำตามฝ่ายผู้รับบริการในขอบเขตที่พอเหมาะพอควร………….  ดังนั้นสิ่งที่ฝ่่ายผู้ให้บริการอึดอัดใจ จำต้องอดทและเข้าใจถึงยุคสมัยของความเปลี่ยนแปลง
การปรับตัวปรับใจคงต้องใช้หนังสือของพี่น้อยที่ให้เมื่อปีที่แล้ว คือ รักษาใจตัวเองให้เป็นสุข
พี่ติ๋วกับพี่จุ๋มบอกว่าพวกเราโชคดีที่ทำงานกับผู้ใช้บริการในระดับการศึกษาที่ไม่แตกต่างกัน เวลาทุกข์ใจพวกเรามักปลอบใจกันว่าเราโชคดีที่ไม่ได้ทำงานในโรงพยาบาล ที่ว่าการอำเภอ สำนักงานที่ดิน สรรพากร สำนักงานขนส่ง ฯลฯ ที่ผู้ใช้บริการหลากหลายสถานภาพ
ที่ผ่านมารายงานเวรดูเรื่อยๆ สะสมไว้จะมาสรูปกันอีกที
แต่ที่สงสัยคืออ่านหนังสือแล้วท่าทางจะหิวน้ำ เพราะน้ำสำรองกี่ถังๆ ก็ไม่ค่อยจะพอ เฮ้อ….
ปล. ข้อดีคือหลายท่านใช้เวลาช่วงนี้หมั่นเพียรเรียนหนังสือ แต่อย่าได้ประมาททีเดียวเชียว เพราะเจ้าเครื่องจับเวลามักเกเรเป็นประจำ

3 thoughts on “บริการ 24 ชั่วโมง

  • สำหรับผู้สูงวัยในการอยู่ปฏิบัติงาน 24 ชั่วโมงนั้น ขอบอกว่าร่างกายไม่ค่อยจะเอื้ออาทรซักเท่าไรแล้ว มันร้อนๆ หนาวๆๆ อวกอาก ขมขื่น วิงเวียนศีรษะ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ นึกถึงมูลนิธิปอ????จะมารับให้ได้เลยทีเดียว ขอให้อายุตัวเลข 55 ก็เพียงพอแล้วมั่ง!!! เด็กๆ นักศึกษาเห้นคนแก่มาอยู่เห็นแล้วบอกว่าป้าๆ น่าสงสารจังเลย……

  • ป้าน่ะน่าสงสาร แต่นักศึกษาน่ะ…ไม่ได้สงสารป้าเลยซักนิด…ส่งเสียงดัง เพื่อให้ป้าเดินไปปราม ไม่เอาบัตรนักศึกษามา แถมบางคราก็เอาให้เพื่อนต่างสถาบันใช้ ส่วนตัวเองยอมเป็นคนกรอกแบบฟอร์ม เพื่อเล่นเอาล่อเอาเถิดกับป้า เอาหนังสือออกโดยไม่ยืม เพื่อดูซิว่าป้าจะรู้มั้ย…ซุกและซ่อนของกิน ที่นอนหมอนมุ้ง ดูว่าป้าจะทันเด็กมั้ย..เอาเข้าไปแล้ว..ไชโย..

  • แล้ววันนี้ที่รอคอยมาถึง แม๊..บอกน้องๆ พี่ๆ บนฝ่ายฯ ว่าจะเหมา 24 ชม.ให้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องให้สะสมวันหยุดยาวเท่าวันที่อยู่ ไม่ยักกามีใครส่งไม้ต่อให้ คริ คริ…555
    ก็หนุกหนานมันส์ส์ส์ไปอีกแบบ สำหรับเวร(หรือหลายๆคนอาจจะบอกว่า..กรำ..เสียมากก่า..ก็แล้วแต่ค่ะ..อาจจะบอกว่าพูดในฐานะแม่ที่ลูกเราไม่ได้เรียนที่นี่ แต่อยู่สถาบันไม่ใกล้ไม่ไกลกันต่างอำเภอเอง..อู๊ยยยยย ว่ามาซะคลุมเครือขนาดน้านนนน จะรู้มั้ยเนี่ย ที่อีนู๋อยากให้ที่สถาบันมียั่งงี๊มั่งจังเลย) คือ ตามความเห็นส่วนตัวตอนยังไม่กลับมาบ้านเก่าหอหมุดนะ ในยุคที่ระบบ 24 ชม.ยังไม่ลงตัวเท่ากับวันนี้ ได้ยินเพื่อนเล่าว่าก็ให้หนาวใจไปด้วยว่า อารายกัลล์จ๊า คนนิ มิใช่ Robot จะให้อดตาหลับขับตานอน หามรุ่งยันค่ำมิวางวายกันเชียวหรือ อายุอานามก็ปูนปิดทอง เอ้ยปูนน๊านนกันไปแล๊นท์ จา..บอริกาน..ทุกระดับประทับใจอารายขนายหนาดเนี่ย แต่เมื่อกลับมาเป็นส่วนหนึ่งแล้ว มีการพูดเจรจาต้าอ้วยกันพอสมควรในหมู่คนทำงาน รูปแบบการอยู่ 24 ชม.ก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง ณ เพลานี้..เราก็ว่าโออยู่นะ อันนี้ความเห็นส่วนตั๊ว ส่วนตัว ไม่เฉพาะว่าเพิ่งได้ยินเสียงคุณลูกสาวอิจฉาเพื่อนๆ ชาวทับแก้วที่มี 24 ชม.แบบ Full Time หรอกนะ แต่พอเริ่มๆ อยู่ตั้งกะครั้งแรกผนวกกับประสบการณ์เดิมของตัวเองซาหมัยที่ต้องเป็นเด็กหอเหมียนกัลล์ และช๊อบชอบอ่านหนังสือสอดแจ้งเหมือนกัลล์ เพราะเวลาอื่นๆของการเรียน ก็มีกิจกรรมสารพัดให้ลั่ลล้าเฮฮาปาจิงโกะไปวันๆ หนังสือหนังหานอกจากตั้งใจฟังตอนนั่งเรียนในห้อง อย่าหมายปองว่าจะเจอกัน ดังนั้นเวลาสอบทุกครั้งจึงขมีขมัน อ่านยันสว่างคาตาไปสอบเสียแทบจะทุกคราไป ผิดแต่เราไม่ชอบไปอ่านนอกสถานที่ จึงคงสิงสถิตอยู่บนเปลยวนหลังห้องพักบนหอบ้าง บนเตียงนอนบ้าง เก้าอี้และโต๊ะการบ้านไม่เจอกันเลยทีเดียว เพราะมิต้องด้วยจริต จนทุกวันนี้ที่อ่านหนังสืออันบรรเจิดสุดก็ยังคงเป็นเปลยวนตามสภาพ(ถ้าเจอ)หรืออย่างดีน้อยหน่อยก็เตียงชายหาด เพราะเวลาที่สุขสุดๆ คือ อ่านหนังสือริมทะเล เพ้อไปไกลละ…ว่าจะเว้าเรื่องเวร 24 ไหงไปเสียไกลเชียว…อ้าวๆๆ กลับมาๆ
    ทีว่ามานั่นก็เพราะเคยอยู่ในสภาพเดียวกับเด็กๆ ที่มานั่งมั่งนอนมั่ง เลื้อยเป็นเถาวัลย์พันเกี่ยวเลี้ยวโต๊ะ เอ…ต้องเรียก8..เอ้ย 9อี้ ซีนะ ก็เจ้าเก้าอี้กลุ่มสี่เหลี่ยมตรงโถงชั้น1ไง ตอนตรวจเวรรอบดึกๆ ทีไรก็อดแอบ อมยิ้มความสามารถในการนอนขั้นเทพของบรรดาทั่นๆไม่ได้ซะที อย่างวันนี้ที่เห็นเป็นฝ่าย(ไม่)สุภาพสตรีค่ะ น้องหนูเลื้อยเอาตัวไว้ท่อนนึง เอาหัวมาแหมะไว้อีกท่อนนึงของอีกฟากเก้าอี้กลุ่มนี้ นึกภาพเก้าอี้กลุ่มนี้นะมันมี4ด้านใช่มะ ตรงกลางมีไม้เป็นที่พิงเป็นแบบกากบาทน่ะ ตัวเจ้าหล่อนอยู่ที่หลุม1 แต่หัวเจ้าหล่อนพาดมาหลุมติดกันโดยไอ้เจ้ากากบาทเนี่ยคั่นอยู่เล็กน้อย แหม๋..ทำไปได้
    ตอนมารับเวรหัวค่ำตรวจจนประมาณ 4 ทุ่มนิดนึงมาถึงชั้น1 น้องวิรุฬก็ส่งบัตรบุคคลภายนอกให้ ว่าประกาศไปแล้วรอบนึงแต่ยังมิเห็นมา เราก็เลยไปประกาศเรียนเชิญท่านมาพบที่บริเวณตรวจทางเข้า-ออก ชั้น1 อีกรอบ คราวนี้ได้ผลเดินออกจากห้องไมค์ก็เห็นผู้รักษาประตู..ที่ไม่ใช่ goalkeeper บุ้ยใบ้กับผู้ใช้มาทางเราก็ไปเจราจาแจ้งท่านว่า 4 ทุ่มแล้วต้องเรียนเชิญท่านนิดนึง ซึ่งท่านสุภาพสตรีก็ยิ้มให้ เป็นอันเข้าใจได้ว่าท่านเข้าใจกฎกติกามารยาทของเรา เดาเอาว่างั้น แต่มิใยเพราะเรายังร่ำไรอยู่ชั้น 1 เวลาผ่านไปอีกสักครู่ใหญ่ๆ หลังจากที่ท่านออกจากด้านในห้องอ่าน รับบัตรคืนไปเสร็จสรรพตั้งกะแจ้งท่านแล้ว ท่านก็ยังคงนั่งอยู่บริเวณเสาโถงนอกสุดกับน้องสาว เดาเอาว่าประมาณนั้น จึงไปไต่ถามได้ความว่ามาติวให้น้อง เราเห็นว่ามิเหลือบ่ากว่าน้ำใจอันพึงให้ได้โดยมิเสียหาย จึงมิได้เชื้อเชิญท่านออกนอกอาคาร แหละเมื่อตรวจเวรอีก 1ชั่วโมงถัดมา ก็ยังคงเห็นท่านติวน้องอยู่แต่ขยับจากเสา ไปที่Sofaแทน ก็มิได้ว่ากระไร แต่ท่านอื่นจะเห็นอย่างไรก็สุดแล้วแต่ค่ะ แต่วิารณญาณของเดี๊ยนก็เออนะ ก็ดูว่ากรณีนี้มิเกินเลยไปมาก พอได้อยู่
    รอบแรกของการตรวจเวรก็เจอขนมนมเนยและน้ำพอนิดหน่อย ตั้งกะกาแฟป๋อง ลูกอมเป็นห่อๆ รวมถึงผลหมากรากไม้ ที่เหลือแต่ซังติดเม็ดให้ดูต่างหน้า อันนี้ที่ชั้น 3 รอบถัดมาเจอที่ชั้น 4 ทั้งอาหย่อยอยู่ในปากไม่มีชิ้นส่วนวางให้เห็น กับมีชิ้นส่วนวางไว้แบบท้าทาย ก็จะเดินไปถามๆ ทุกคน ทุกกลุ่ม แซวบ้าง ขอกินบ้าง ให้แบ่งเพื่อนโต๊ะข้างๆบ้าง ตามประสา พร้อมทั้งทดสอบความเข้าใจกับน้องๆ ถึงเหตุและผลของการห้ามนำขนมนมเนย เข้ามารัปประทาน มี1คู่ กับอีก1คน ที่พอจะเข้าใจว่า อันต่างๆ เหล่านี้นำมาซึ่งสัตว์ไม่พึงประสงค์ แต่สัตว์ที่น้องๆ นู๋ๆ นึกได้คือมด อันนั้นน่ะแค่เด็กๆ ที่เราเจอกันในห้องสมุดทุกบ่อยๆ น่ะมัน นู๋อั่งกิ๊ต หรือ Rat (เรื่องนี้เล่าย้อนไปซาหมัยจ๋าวๆ มีเพื่อนญิ๋งๆ ที่เธอชอบกระตู้วู้เวลาทำไรไร เผอิญมีหนุ่มๆรุ่นน้องเดินผ่านรุ่นพี่ที่ส่งเสียงอยู่ อันนี้ทำเสียงเหน่อๆ ตามวรรณยุกต์ที่ผันหน่อยนะ แล้วจะได้ Feel มากเลย หนุ่มน้อยนายนั้น ที่วันนี้เป็นถึงรองผกก.สน.ดังในเมืองหลวง และก็ยังครองความโสดสนิทศิษย์ส่ายหน้าอยู่ หันมองสาวรุ่นพี่แล้วก็เอื้อนเอ่ยชมเพื่อนสาวของอิฉันว่า นู๋อั่งกิ๊ต..ห่ะแรกตอนนั้น ก็ ฮงๆ กันอยู่ น้องมันว่าไรฟะ เพราะสุ่มเสียงที่เหน่อๆ ของน้อง พี่ๆ ฟังไม่สดับ แต่พอค่อยๆ Re tape ในต่อมความจำก็ให้ถึงบางอ้อ..ที่ไม่ต้องเดินทางไปถึง กทม.ว๊ายยยย กรี๊ดดดดดด ปากคอร้ายกาจนะยะพ่อหนุ่ม ดีว่ามิใช่ข้าพเจ้าที่โดน
    มิเช่นนั้นอาจมีรายการ “สด” คริ คริ ฆ่าได้ หยามไม่ได้ย่ะ)
    เจ้านู๋ตัวหลังนี่เอาแค่ออกเสียงคล้ายแต่ต่างภาษากันค่ะ ซึ่งต่างกับเจ้านู๋ตัวแรกที่เป็นบ่อเกิดของคดี(ยึด!ทรัพ..ยากร)กระยาหารคาวหวาน ที่ทั่นๆ ใช้วิทยายุทธต่างๆ นาๆ นำพาเข้ามาในห้องสมุดเยี่ยงวีรบุรูษ วีรสตรีระดับท้าทาย ก็ยังคงต้องเผชิญกันต่อไป เพราะพี่ก็แก่แล้ว ยิ่งไล่น้องก็ยิ่งคิดวิธีมานำเข้าสินค้าอันมิพึงประสงค์ พี่ล่ะเพลียฮาร์ตจนเป็นขำ แต่พี่ๆ ทั่นอื่นๆ หลายๆทั่น ไม่มีรมณ์ด้วยหรอกจ้ะ โดยเฉพาะพี่ๆ ที่ต้องเป็นคนเคลียร์พืนที่ทุกเช้า พร้อมเคลียร์น้องนู๋ที่พี่เฝ้าอุตส่าห์นำกรง(ไม่ทอง)พร้อมสิ่งล่อใจมาเชิญชวนให้เข้าไปติดอยู่ แล้วก็ต้องหาที่ทางอันเหมาะสมไปปลดปล่อย เพราะทุกท่านมิอยากได้ชื่อว่าเป็นคนใจร้ายรังแกสัตว์ที่ไม่มีทางสู้ เราเองก็จะบอกขำๆ กับคุณน้องๆ ทุกครั้งว่าว่างๆ จะเอาน้องนู๋ในกรง(ไม่ทอง)มาวางให้ดูว่าพี่จับกันได้สมำ่่ำเสมอในบ้านหลังนี้ โดยเฉพาะชั้น4 ที่ยามค่ำคืนเรามักจะนั่งทำงานกันอยู่เงียบๆ ไม่กี่คน มักจะได้ยินเสียงพาเหรดบนฝ้าเพดานเสมอ..เฮ้ออออออ เพลียฮาร์ท เจงๆ แต่..ก็มีนะ หลายๆ ครั้งพอพูดคุยไปน้องบางคนบรรลุได้ ก็เอื้อนเอ่ยขอโทษ และก็มีบางคนรับปากว่านู๋รู้แล้ว นู๋จะไม่ทำอีก ก็ขอบคุณเช่นกันค่ะ ที่รักห้องสมุด เหมือนที่ห้องสมุด รักและหวังดีกับพวกน้องๆ ที่ลุงๆ ป้าๆ สู้อุตส่าห์มาอดหลับอดนอน เฝ้าพวกนู๋ให้มีที่อ่านหนังสือ อย่างปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวง ทั้งวันทั้งคืน ยกเว้นแต่สาธารณภัย หรือภัยจากเพื่อนรอบข้างที่มิรู้ประมาณเรื่องความเกรงใจ ซึ่งบางทีก็มีเพื่อนบางคน อดรนทนไม่ไหวมาขอความช่วยเหลือให้ไปตักเตือน บางทีคนรอบข้างรำคาญแต่ไม่อยากยุ่ง ก็รำคาญกันปะ อันนี้ก็ต้องบอกว่าโตๆ กันแล้วนิ สำหรับเทอมนี้ก็ลาแล้วค่ะทั่นผู้ชม เพราะนาฬิกาพาเข็มเดินไปที่ 6.09 นาทีแล๊นท์ ก็ขออวยพรให้น้องๆ ทู๊กกกกกกโคนนนนน ที่มาเฝ้าอดหลับอดนอนกันตลอดคืนสุดท้ายนี้ ได้A++ทุกๆ วิชาจร้าาาาาาาาาาา Byeeeeeeeeeeee

Leave a Reply

Tags

blog CONSAL KPI PULINET การจัดการความรู้ การดูแลสุขภาพ การทำงาน การท่องเที่ยว การบริการ การปฏิบัติงานล่วงเวลา การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาตนเอง การพัฒนาบุคลากร การลงรายการ การศึกษาดูงาน การอ่าน การเรียนออนไลน์ กิจกรรมสำหรับเด็ก กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมห้องสมุด ความสุข ค่ายห้องสมุด งานบริการ ธรรมะ นวนิยาย นักเขียน บรรณารักษ์ บริการชุมชน ประกันคุณภาพ ภาพถ่าย ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ วัด วันสำคัญ วารสาร สัมมนา สุขภาพ หนังสือ หนังสือบริจาค หนังสือและการอ่าน หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ห้องสมุด ห้องสมุด 24 ชั่วโมง อาหาร