วันที่เปลี่ยนกับวันที่เหมือนเดิม
วันนี้เป็นวันที่ 30 กันยายน เป็นวันสุดท้ายของการทำงานของพี่สาวสองคนที่เลือกพักชีวิตการทำงานในระบบราชการ ไปพักผ่อนและทำงานในกิจการของตนเอง
วันอาทิตย์-วันอังคาร ชีวิตต้องเดินทางตั้งแต่เช้ากลับดึกติดต่อกันสามวัน จึงรู้สึกเหนื่อยมาก น้องอ้อบอกว่ารัฐบาลจะขยายอายุที่จะสามารถเข้าโครงการ Early Retire ลงไปจนถึงอายุ 45 ปี มองในแง่บวกคือดีจังออกไปได้โดยมีเงินสำรองเป็นกอบเป็นกำ แต่ใจหนึ่งเหมือนเขารังเกียจคนมีอายุยังไงไม่รู้ หน่วยงานจะอยู่อย่างไรหากมีแต่เด็กๆที่ยังด้อยประสบการณ์ หรือใครก็ทำได้ หรือ ฯลฯ
วันนี้ก็มีคนถามว่าเกษียณอายุกันไปไม่มีคนมาแทนหรือ ก็มีแต่อยู่ที่ส่วนกลาง ทำเหมือนต้นสังกัดผิดอย่างไรก็ไม่รู้ที่มีคนแก่หรือคนที่อยากออกไปทำอะไรๆๆ หากอยากมีตำแหน่งก็ต้องใช้งบรายได้จ้างเอาเอง แปลกแต่จริง
คนที่อยู่ก็ปรับงานกันไป รับสภาพกันไปตามร่างกายที่โรยรา ใจไหวแต่กายแย่ อาทิตย์ที่แล้วหนุ่มน้อยป่วยไปหนึ่งโดยไม่มีสาเหตุ วันนี้ได้รับรายงานว่าพี่สาวใหญ่ป่วยจนหมดแรง ไล่ตามมาติดๆ คือพี่ชายคนโตป่วยแบบฉับพลันไม่รู้นี่ใช่เหตุผลหนึ่งหรือไม่ที่รัฐบาลลดอายุลงมา บอกน้องคนที่เล่าให้ฟังว่ายังอยากทำงานอยู่
อายุเปลียนแปลงบ่อยก็ต้องหมั่นดูแลร่างกายของตนเอง ส่วนเรื่องจิตใจต้องช่วยกันๆ ดูแล
เช้ามาก็วุ่นวายกับแผนงาน รายงานผล ตามงาน ฯลฯ บ่ายน้องเอ๋ขอให้ใส่หนังสือใน Shrfari ลดลงเพระาจะเปลี่ยนหน้าตา blog เลยเปลี่ยนหนังสือ และเข้าไปดูไปสมัครเข้าก๊วนกับชาวบ้าน ผลคือเขาส่งหนังสือมาให้อ่าน ซึ่งน่าจะเป็นรูปแบบการเล่าเรื่องหนังสืือให้ผู้ใช้ห้องสมุดใน Hi5 Facebook และใน Twitter ได้ ก็เก็บไอเดียแล้วมาปรับกับของเราต่อไป
วุ่นวายกับตัวเองจนเกือบบ่ายสี่จึงกลับบ้าน เพื่อเตรียมมาอยู่เวร 24 ชั่วโมง นอนได้สักพักก็ต้องกลับมาเพราะฝนท่าทางจะตกหนัก ก็เป็นตามคาด ถึงโต๊ะทำงานมีโน๊ตของพี่ต้อยเขียนทิ้งไว้ว่า ไม่ได้คุยกันเลยเพราะมาเช้าก็ไม่เห็น มาเย็นก็ไม่อยู่ จึงรู้สึกผิดที่มัวแต่นึกถึงตัวเอง ไม่ได้ใส่ใจคนรอบข้าง แต่ยังดีที่ท่านพี่บอกว่าจะมาๆ และจะไปเมืองกาญจน์ด้วยกัน
ทั้งนี้ได้ฝากลายไว้สองบล๊อก เมื่อคืนไปนั่งที่โต๊ะเห็นฉบับแล้ว…คิดถึงจริงๆ
มานั่งสักพักพี่ติ่วโทรมาเตือนว่าฝนทำท่าจะตกหนักให้เตรียมเรื่องไฟฉาย ฯลฯ ถามน้องๆ บอกว่าทุกอย่างโอเค ซ้อมเรียบร้อยแล้ว หนูกาญจน์เป็นหัวหน้าเวร วันนี้เด็กน้อยมาก ส่่วนใหญ่เป็นการติวเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ในห้องอาจารย์เจตนาฯ มีปริญญาโทกลุ่มใหญ่นั่งทำรายงานกัน
ร้าน Jack ปิด มีเด็กไปนั่งแถวนั้นเพราะอยากใช้เสียงติว แต่ข้างในเงียบ มืดเกินไปจึงไปเปิดไฟให้ เด็กดีใจยกมือไหว้ขอบคุณ ลงมาอีกครั้งพบน้องนางใช้เสื่อปูที่หน้าห้องนอนยืดยาวอ่านหนังสือบอกว่าชอบอ่านแบบนี้ ก็ปล่อยไป
ไฟดับเกือบๆ เที่ยงคืน น้องชิตที่อยู่ทำการบ้านมาช่วยดูไฟฉุกเฉินทำไอ้ที่ดับให้ติด พี่ไมค์อยู่หน้าประตูกับคุณยาม น้องมาร์คดูเครื่องปรับอากาศกับท่อมๆ ดูความเรียบร้อย ส่วนเราตามปิด WebOpac กับถ่ายรูปพร้อมๆ กับเดินดูความเรียบร้อย เตือนให้เด็กๆ เก็บของให้ดี เพระาบางคนไปมืดก็เลยหลับ บางคนท่าทางจะอ่านหนังสือไม่ทันก็ไปยืนอ่านตรงไฟฉุกเฉิน
เด็กเริ่มจะทยอยออกหลังจากที่ตรวจสอบว่าที่หอไฟไม่ดับ แต่ฝนตกตลอดเวลาเลยถอยยยกลับเข้ามาตั้งหลักใหม่ สักพักไฟฟ้าเสียง เฮ้ๆๆๆๆๆๆ ดังลั่นด้วยความดีใจ
แต่การสื่อสารทางอินเทอร์เน็ตไม่สามารถทำได้ เมื่อคืนจึงอยู่ด้วยความเซ็งระดับ 5 เพระาตั้งใจจะทดสอบอะไรหลายๆ อย่างสำหรับงานปี 53 จึงอ่านหนังสือเรื่อยเปื่อยทรมานสายตา สงสัยว่าทำไมสมัยนี้พิมพ์ออกมาตัวเล้กกันจังแค่ 14 พ๊อยท์ แต่ยังดีที่ใช้กระดาษถนอมสายตา
ตีสามน้องมาร์คชวนไปปิดห้องอ่านชั้น 3-4 ก็ไปช่วยกัน ลงอ่านหนังสือแล็วก็งีบบๆ บนแขนหน้าไปทับกับสายนาฬิกาจนยับ ดูไม่ดีจึงไปล้างหน้าแปรงฟันทำหน้าสวย นับจำนวนคน จดแต่ไม่รู้ว่าวางไว้ตรงไหน จึงต้องควานหาอีก …อายุมากขึ้นนี้ไม่มีอะไรดีสกัอย่าง
เช้าวันนี้อากาศเย็น ลุงนิตย์กับป้าจันทร์ฝ่าสายฝนมาพร้อมกับถุงน้ำส้ม เย็นแทน พี่น้องเริ่มมาทำงานกันแล้ว มีทักทาย อาหารบำรุงกำลัง ฯลฯ เช้าอย่างนี้เลยขอเป็นหัวหน้าเวรเช้าต่อเลยดีกว่า
ฝนตกนิ่งๆ หนาเม็ด ขืนเป็นแบบนี้คงต้องท่วมที่ใดกันบ้างแหละ
ปลุกยอดตองที่มาอยุ่เป็นเพื่อนแม่ให้ตื่น ย้่ายที่นอนเพราะพี่ๆ จะทำความสะอาด ส่วนเราย้ายลงมานั่งข้างล่างดูความเป็นไปของชีวิตการทำงานของพวกเราในวันที่เหมือนเิดิม โดยมีป้าณิชมนกับป้าวรรณวิภาเป็นเจ้าของวันที่เปลี่ยน
4 thoughts on “วันที่เปลี่ยนกับวันที่เหมือนเดิม”
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
พี่ปองเร่งวันซะไปสิ้นเดือนตุลาเลยนะนั่น ก็ดีนะพี่จะได้รับเงินเดือนใหม่ อิอิ
ทำงานได้ทุกอย่างแต่เบื่อตรงเขียนรายงานนี่แหละ…ส่วนเงินเดือนไม่เคยใช้เร้ยยยย….เพราะมันมีตัวเลข
เก่งทุกเรื่อง ที่ไม่ได้เรื่องก็เรื่องนี้แหละ ก็เขียนรายงานไง (ยังรู้ตัวเอง นับว่าใช้ได้) ฉัน(
ู )ล่ะเื่บื่อ เบื้อ เบื่อ ติดตามรายงานจากเธอ ขอบอกทุกคนเพื่อทราบ ให้ไปประชุมร้อยเริอง กว่าจะได้รายงานสักเรื่อง เฮ้อ (พูดอย่างนี้ดูไม่ดีเลยนะ) ที่หอสมุดเราก็พี่หน่อย ยุพดี เยี่ยมที่สุด จะได้รายงานผลการไปฟังบรรยาย การประชุม ทัศนศึกษาทุกครั้ง ครั้งต่อไปต้องเอาพี่หน่อยไปด้วยเน้อ
ท่านใดที่ไปราชการงานเมืองทั้งหลายกรุณาเขียนรายงานด้วยเน้อ ส่วนที่หนูปองคนขี้เกียจเขียนรายงานจะใช้วิธีเขียน blog ทั้งราชการและราชเกินให้ทราบล่วงหน้าคร่าวๆ ส่วนรายงานจะเขียนเฉพาะที่ไปราชการ ซึ่งมักไม่ได้ไปเดี่ยวและคนที่ไปด้วยมักจะเขียนรายเพราะรู้ว่าขี้เกียจ ที่ค้างอยูก็กำลังง้างๆ เขียนลง blog ส่วนรายงานฉบับเต็มมีท่านอื่นอาสาเขียนเช่นกัน
ส่วนเรื่องไปดูงานก็ต่างคนต่างเขียนในส่วนที่รับผิดชอบเหลือแต่นำมารวมกัน เนื่องจากมีเรื่องราวเยอะแยะเป็นชุดใหญ่จึงช้า
ถึงรายงานจะช้าแต่ผลงานที่แปลงความรู้จากไปราชการและราชเกินไม่ช้านะคะ อันนี้การันตีตัวเอง
แต่อย่างว่าถนัดไปคนละแบบน่ะดีแล้วขืนถนัดแบบเดียวกันแย่งซีนกันแย่ อิอิ