รายงานจากพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติชุมพร
หลังออกจากตลาดกิมหยงก็บึ่งขึ้นมาที่ชุมพร กะว่าตอนเย็นๆ โน่นแหละคงได้พัก ฝนตกตลอดทาง พี่แมวต้องนั่งตัวตรงคอยควบคุม พขร. ประมาณห้าโมงเย็นจึงถึง โดยมีน้องอ้อเป็นผู้นำทางในฐานะมาพักชุมพรบ่อยๆ เข้าที่พักในเมืองเลยมีเวลาพักยาวหลับสบายพี่แมวบอกว่าจะไปเดินเล่นก่อน ศ่วนเรานัดน้องอ้อว่าจะหาร้านสระผมเนื่องจากหมักหมมมาหลายวัน หลับเพลินสะดุ้งตืนขึ้นมาจึงลุกไปหาน้องอ้อ/เอ๋ ที่บอกว่าเพิ่งตื่นเหมือนกัน
ผักไทยของที่นี่ขึ้นชื่อมาก ที่ตลาดโต้รุ่งจึงมีเรียงรายกัน น้องอ้อเป็นไกด์เช่นเคยแต่ตอนสั่งนี่ น้องหนูบอกว่าวุ้นเส้นคะน้้า แต่เราไม่ชอบบอกว่าผัดไทยธรรมดา ซึ่งหมายความว่าไม่ใส่คะน้า ดังนั้นผลที่ตามมาคือของคุณเธอหน้าตาหรูหรามาก ส่วนของเราสองคนหน้าตางั้นๆ จึงเกิดอาการไม่ปรู๊ด เลยอาสาไปซื้อน้ำผลไม้ปั่นที่เราชอบมาปลอบใจ หลังจากนั้นก็เดินเร่ร่อนหาของรับประทานไปเรื่อยๆ พร้อมกับเินห้างที่เพิ่งเปิดใหม่เพราะจะไปดูว่ามีอะไรมาลดราคาบ้าง แต่ไม่มีอะไรถูกใจ จึงมานั่งคุยกันที่ล้อบบี้แบบซึมเซาเ พราะไฟไม่ค่อยสว่างและบรรยากาศอันแสนจะเงียบเหงา ผู้คนคงจะไปพักที่ริมหาดกันเสียเป็นส่วนใหญ่ เราก็อยากไปแต่พอแจ้งราคากลับมาแล้วไปกันเองดีกว่าอย่างไปรบกวนหลวงท่านเลย
เช้าเราจึงมีเวลาเรื่อยๆ เพราะพิพิธภัณฑ์เปิดในเวลาราชการ อาหารเช้าต้องเข้าไปสั่งเป็นเซ็ท แปดโมงจึงเริ่มเดินทาง เพราะกะให้ไปถึงที่โน่นตรงเวลาแปดโมงครึ่งเป๊ะ
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติชุมพร ตั้งอยู่ในศูนย์ราชการ เราวนเวียนด้านนอกในที่สุดที่ต้องสอบถามทางและย้อนเข้าไปในศูนย์ราชการ ตั้งอยู่บนเนินอากาศดี อยู่ลึกลับแบบนี้คนที่มาต้องเป็นคนที่ตั้งใจจริงๆ
มีคนมาถึงก่อนเราคือเป็นนักเรียนระดับประถม แล้วก็พวกเรา เราไม่เสียค่าเข้าชมเพราะเป็น “ศิลปากร” จึงต้องรีบหาที่หยอดกระปุก เป็นความรู้สึกแบบนี้ทุกครั้งเมื่อมาพิพิธภัณฑ์ฯ ส่วนพี่น้องท่านอื่นนิยมใช้วิธีอุดหนุนของที่ระลึกคนละหนุบคนละหนับ
ที่นี่เปิดบริการ วันพุธ – วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.00 น. ปิดวันจันทร์ วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์
พี่บูรณ์เป็นผู้เขียนรายงาน ส่วนพี่แมวชอบนักหนากับความเอาใจใส่ของเจ้าหน้าที่หน้าประตูทางเข้า ที่ทำทุกอย่าง เริ่มจากยิงยาวมองทะลุไปถึงที่จอดรถจึงทราบว่าเรามาจากไหน ที่นี่มีห้องสมุดเล็กๆ ด้วย นับว่าแปลกดีแต่หนังสือน้อยจัง
เจ้าหน้าที่อธิบายเรื่องราวต่างๆ ของชุมพรให้นักเรียนฟัง ต่างพากันชี้ชวนดูกันใหญ่ น่ารักกันดีแถมยังเก่งด้วย ถือกระดาษามาจด ถามเด็กบางคนว่าทำไมคนนี้ไม่มีอะไรมาจด บอวก่ายังเด็กอยุ่เขียนหนังสือยังไม่เป็น ต้องใช้ … (ทำท่าชี้มือไปที่หัว) จดแทน บางคนบอกว่าหนุเขียนไม่เป็นแต่หนูจะวาดรูป ช่างแก้ปัญหากันดี
คุยกันว่ามหาวิทยาลัยของเราตั้งอยู่ที่นครปฐมมาตั้งปี แต่เด็ที่นี่ยังไม่รู้จักนครปฐมเลย เราน่าจะทำเรื่องราวอะไรใกล้ๆ ตัว ให้เด็กนักศึกษาของเราได้รู้จักถิ่นฐานของนครปฐมบ้าง
หรือกระทั่งในมหาวิทยาลัยก็เถอะ เพราะช่วงวันที่บางกลุ่มไปยี่สารกัน เรา็ชักชวนคนที่อยู่ที่นี่ไปดูนิทรรศการ “แก้ว” ที่คณะจิตรกรรมฯ ที่อยู่ถักจากคณะวิศวะฯ ไปแค่ช่วงตึก เรายังงงกับเส้นทาง การใช้ชีวิต ชื่ออาคาร ฯลฯ เพราะชีวิตเราหยุดที่โรงอาหาร คุยกันว่าพวกเราน่าจะมาช่วยกันเขียนเรื่องราวแนะนำตึกต่างๆ ในมหาวิทยาลัยให้เราได้รู้จักกัน รู้สึกคุ้นๆ นะว่าได้เคยมอบหมายให้ใครบางคนเขียนรายงาน/เขียนแผนที่ในทับแก้วตอนเข้ามาฝึกงานกับเรา่ แต่ยังไม่เห็น คงต้องไปหาใครสักคนมาช่วยทำให้เป็นเรื่องราวน่าจะดีกว่า หรือที่สุดคงต้องทำเอง เพื่อเป็นคลังข้อมูลในการตอบคำถามให้ใครๆ หรือกระทั่งให้กับตัวเอง
รูปร่างโครงงานของ ศต. คงชัดเจนขึ้นมั้ง หลายคนพูดถึงแปลนห้อง ข้อมูล และรูปแบบที่เราจะคิดไปปรับใช้ แอบฟังแอบได้ยินมา…วัตถุประสงค์ของการศึกษาดูงานก็แบบนี้แหละค่ะถือว่าบรรลุแล้ว
ส่วนพี่บูรณ์กับน้องเอ๋ เฝ้าติดตามสีเสียงเรื่องพายุเกย์ บอกว่าอลังการมาก ได้รูปมาหลายช๊อต ส่วนพวกเรากลับมาด้วยความอิดโรยสะบักสะบอม เกิดอาการเดียวเหมือนจากกลับจากภูเก็ตเมื่อปีที่แล้ว ต้องอาศัยน้ำอัดลมตลอดทาง
พชร.ขับรถโลด จนน้องเอ๋เกิดอาการวิปเพราะตั้งใจจะซื้อกล้วยเล็บเมือนางมาฝากพี่น้องเป็นเครือๆ แต่กลับได้มือเปล่า จนต้องบอกว่าพวกเรายังมิได้ซื้ออะไรเลยขอความกรุณาแวะหน่อยนะค้าาาา จึงไ้ด้เท่าที่เห็นแหละค่ะ
รายงานแบบย่อๆ ทุกที่จบแล้ว เหลือแต่รอรายงานฉบับเต็มพร้อมภาพประกอบ ทำเสร็จกันเมื่อไร จะแจ้งให้ทราบโดยทั่วกัน