การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
อย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า ในปัจจุบันการรู้ภาษาอังกฤษ เป็นปัจจัยสำคัญในการศึกษา และทำงานอย่างมาก การเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาทุกมหาวิทยาลัยมีข้อกำหนดให้ผ่านการสอบวัดความรู้ภาษาอังกฤษทั้งในระดับปริญญาตรี และบัณฑิตศึกษา ในการทำงานบางแห่งกำหนดเกณฑ์ให้ผู้สมัครได้คะแนนภาษาอังกฤษตามเกณฑ์ บางแห่งการใช้ภาษาอังกฤษได้ทำให้ได้เงินเดือนสูงขึ้น หรือผู้ที่ต้องการไปทำงานหรือศึกษาต่อต่างประเทศ ก็จะต้องสอบผ่าน TOEFL, IELTS
เมื่อต้นเดือน ดิฉันพาลูกไปสอบ “CU-TEP” ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงนำมาเล่าบรรยากาศให้ฟังหน่อย CU-TEP ย่อมาจาก Chulalongkorn University Test of English Proficiency คือ การทดสอบวัดความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษา เหมาะสำหรับวัดระดับความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาทั้งในระดับปริญญาตรี และบัณฑิตศึกษา และบุคคลทั่วไป โดยจะเป็นการวัดทักษะด้านการฟัง อ่าน เขียน จ่ายค่าสมัครสอบไป 900 บาท ลูกดิฉันไปสอบที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ทีแรกเราตั้งใจจะเดินทางโดยรถไฟ ไปที่สถานีกรุงเทพ แล้วค่อยต่อไปคณะพาณิชย์ฯ แต่เมื่อไปถึงสถานีรถไฟ ลูกตรวจสอบเวลารถไฟแล้ว พบว่าขบวนที่ตั้งใจจะไป เสียเวลามาก เสี่ยงเกินไปที่จะไปถึงไม่ทันเวลา จึงเปลี่ยนเป็นขึ้นรถตู้ไปบางหว้า แล้วต่อรถไฟฟ้า รถใต้ดิน ไปขึ้นที่ MRT สามย่าน ซึ่งคิดว่าเรานึกภาพออกว่าคณะพาณิชย์ฯอยู่ตรงไหน แต่เอาเข้าจริง พอไปขึ้นที่สถานีสามย่านก็ถึงจุฬาฯเลย ก็งงเอามาก ๆ เห็นแต่ศาลาพระเกี้ยวที่หน้าตายังคุ้นอยู่ แต่รอบ ๆ ไม่เหมือนเดิมเลย…ผู้คนเยอะมาก ขนาดจุฬาฯจัดสอบแทบจะสัปดาห์เว้นสัปดาห์ ผู้เข้าสอบมีทุกระดับ ทุกประเภท ตั้งแต่ นักเรียน นักศึกษา คนทำงาน คนใส่เสื้อกาวน์เหมือนหมอ เหมือนเภสัช อายุน้อย อายุมาก ส่วนใหญ่เตรียมพร้อมกันมาก อ่าน short note อ่านคู่มือ..พ่อ แม่พูดคุยกันถึงเรื่องความชำนาญของบุตรหลาน เราก็ได้แต่เข้าหูไป นึกถึงลูกว่าจะเป็นยังไงมั่งหนอ เป็นบรรยากาศที่น่าตื่นเต้นมาก ลูกชายดิฉันไปสอบแบบชิล ๆ คือ ไม่ได้เตรียมตัวอ่านหนังสือเลย ดิฉันคาดการณ์ไว้ว่า ผลสอบจะต้องไม่ดีเอามาก ๆ เพราะเทียบกับบรรยากาศที่เห็นแล้ว ความสำเร็จคงไม่ได้มาง่าย ๆ ได้แต่คิดว่า เขาจะได้บทเรียนให้รู้ว่า ทุกอย่างเราต้องมีการเตรียมพร้อม…ห้องสอบอยู่ที่ชั้น 7 ประตูสู่ลิฟท์จะเปิดตอน 8.00 น. ผู้คนเริ่มไปรอหน้าประตูเพื่อเข้าแถวเข้าลิฟท์ ตั้งแต่ 7.30 น.ได้ พอประกาศให้ขึ้นตึกได้ มีเจ้าหน้าที่คอยจัดระเบียบอยู่ที่หน้าประตู บางส่วนรอขึ้นลิฟท์ บางส่วน (ส่วนใหญ่) ไปเดินขึ้นบันได การเข้าห้องสอบ ไม่ต้องนำอุปกรณ์ใด ๆ ไปเลย ในห้องสอบเตรียมให้พร้อมแล้ว พอหมดเวลาสอบตอนเที่ยง ถามลูกว่ายากมั๊ย..ตามเคย..บอกว่าพอทำได้…เดี๋ยวจะรอคะแนน แล้วคงได้สมัครสอบใหม่อีกครั้ง
คะแนน CU-TEP มีอายุ 2 ปี นับจากวันที่ทำการสอบ ซึ่งสามารถนำไปยื่นในคณะที่กำหนดใช้คะแนน CU-TEP นอกจากนี้ คะแนน CU-TEP ยังสามารถใช้ยื่นเพื่อเรียนต่อ ปริญญาโทและปริญญาเอก หรือใช้ยื่นเพื่อเข้าทำงานได้ในบางบริษัท หรือองค์กรที่กำหนดใช้คะแนน CU-TEP เป็นมาตรฐานการคัดเลือกบุคคลเข้าทำงานอีกด้วย เคยได้ยินว่า การทดสอบของ CU-TEP ได้มาตรฐานถึงขนาดสามารถวัดพัฒนาการได้ทีเดียว เช่นถ้าผู้สอบ สอบไปแล้วและไม่ได้มีการพัฒนาตนเองจากการสอบครั้งแรก ครั้งต่อไปคะแนนจะลดลง 1-2 คะแนน ลูกจะลงสอบอีกครั้งหนึ่ง และบอกว่าอยากสอบ speaking ด้วย แต่แม่ว่าดูพัฒนาการก่อนเถิด ก่อนอื่นต้องพัฒนาตัวเองก่อนด้วย