ขนมหวาน-ขนมบัวลอย
วันหยุดสุดสัปดาห์ของคนวัยใกล้เกษียณอายุ พวกเรามารวมตัวกันที่บ้านเพื่อน มาพูดคุย แลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆ มีทั้งใกล้ตัว ไกลตัว แป๊บเดี่ยวก็ใกล้เวลาเที่ยง ถึงเวลาต้องกินกลางวันอีกแล้ว เมื่อได้กินอาหารคาวกันแล้ว ก็ต้องถามหาอาหารหวาน-ขนมหวานกัน แล้วก็มองไปมองมาก็เห็นวัตถุดิบที่สามารถนำมาประกอบทำเป็นของหวานได้ และตกลงกันว่าจะทำ “ขนมบัวลอย” จ้า พวกเรามีหลายคนและมีคนที่ทำขนมเก่งและอร่อยมากๆ เป็นผู้นำทีมจึงช่วยกันแบ่งหน้าที่กันทำ เช่น เก็บดอกอัญชันจากริมรั้ว ตัดใบเตยหอมข้างบ้าน เตรียมของที่มีอยู่แล้ว เช่น แป้ง เผือก มัน/แคลรอท ฟักทอง และอีกกลุ่มเดินทางไปตลาดนัดที่อยู่ในหมู่บ้านเพื่อไปซื้อวัสดุที่ยังไม่มี เช่น กะทิ น้ำตาลและข้าวโพด เมื่อได้ของครบแล้ว ก็ลงมือทำกันเลย โดยผู้เขียนมองบรรยากาศ ในระหว่างร่วมกันทำ ร่วมกันกินแล้วพวกเรามีความสุข มีความเอื้ออาทร ช่วยเหลือกัน แบ่งปันของ แบ่งปันความคิดซึ่งกันและกัน ขอบอกว่า “มีความสุขมากมากค่ะ” ขนมที่กินกันไม่หมด ก็ตักใส่ถ้วย ถือกลับไปฝากคนทางบ้านได้ด้วย โอกาสนี้ก็จะขอแบ่งปันวิธีทำ “ขนมบัวลอย” ของเพื่อนๆให้ท่านนำไปทำหรือลองปรับเปลี่ยนวิธีทำแบบเดิมๆหรือนำไปทำขาย หารายได้เพิ่มก็ได้ค่ะ
ขนมบัวลอย
ส่วนผสมขนม ประกอบด้วย แป้งข้าวเหนียว แป้งมัน มัน/แคลรอท เผือก ฟักทอง ดอกอัญชัน ใบเตยหอม ข้าวโพด
ส่วนผสมกะทิ ประกอบด้วย กะทิ น้ำตาลทราย เกลือ
ขั้นตอนการทำ
1. ต้ม มัน/แคลรอท เผือก และฟักทอง
2. ต้มน้ำดอกอัญชัน และปั่นน้ำใบเตยหอม
3. นำแป้งข้าวเหนียว แป้งมันและมัน/แคลรอท ผสมและนวดให้เข้ากัน
4. นำแป้งข้าวเหนียว แป้งมันและเผือก ผสมและนวดให้เข้ากัน
5. นำแป้งข้าวเหนียว แป้งมันและฟักทอง ผสมและนวดให้เข้ากัน
6. นำแป้งข้าวเหนียว แป้งมันและน้ำดอกอัญชัน ผสมและนวดให้เข้ากัน
7. นำแป้งข้าวเหนียว แป้งมันและน้ำใบเตยหอม ผสมและนวดให้เข้ากัน
ก็จะได้แป้งขนมบัวลอย จำนวน 5 สี สวยงาม
8. นำแป้งที่ผสมแล้ว มาปั้นเป็นลูกกลมขนาดเล็กๆ ใส่ภาชนะไว้ สำหรับแป้งที่ปั้นลูกไว้แล้วหากยังไม่ทำขนมทันที สามารถนำไปใส่ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิดและแช่ในตู้เย็นไว้ก่อนได้
ิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิืื9. ผสมน้ำตาลทรายและน้ำสะอาด เคี้ยวน้ำเชื่อม ไว้แช่แป้งขนมที่ลวกแล้ว
10. ต้มน้ำให้เดือด และนำแป้งที่ปั้นไว้ไปต้ม(ลวก) เมื่อแป้งลอยตัวให้ตักขึ้น และนำไปแช่ในน้ำเชื่อมที่เตรียมไว้
11. ต้มข้าวโพด และแกะเม็ดออก หั่นเผือกที่ต้มสุกแล้ว เป็นชิ้นเล็กๆ เอาไว้ใส่โรยหน้าขนม เพื่อเพิ่มรสชาดและความอร่อยของขนมยิ่งขึ้น
12. ผสมน้ำกะทิ น้ำตาลทราย และเกลือ แล้วนำขึ้นตั้งไฟ ชิมรสชาดให้กลมกล่อม ตั้งให้เดือดจึงปิดไฟ
12. นำบัวลอยใส่ถ้วย ตักน้ำกะทิใส่ และโรยหน้าด้วยข้าวโพด /เผือก แค่นี้ก็ลงมือกินกันได้เลย
ในหอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ มีหนังสือที่เกี่ยวกับการทำขนมหวาน มากมาย ผู้ใดสนใจหาอ่านได้ที่ชั้น2