ประสบความสำเร็จเพราะอ่านหนังสือ
การอ่านเป็นการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด เป็นการเปิดโลกทัศน์ของเราให้กว้างขึ้น ช่วยเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ เราจะประสบความสำเร็จได้ ด้วยการอ่านหนังสือ การอ่านหนังสือ แบ่งออกเป็น 2 แนวทางคือ
– อ่านเพื่อใช้ในการทำงาน ไม่ควรใช้เวลาในการอ่านมาก ควรอ่านแบบคร่าว ๆ
– อ่านเพื่อความบันเทิง เป็นงานอดิเรก ใช้เวลาในการอ่านได้เต็มที่ การอ่านเพื่อความบันเทิง เราค่อย ๆ อ่านไม่รีบร้อน อ่านหนังสือแบบเบาสมองเพื่อพักผ่อน
เราต้องสร้างเสน่ห์ให้กับตัวเอง ต้องศึกษาหาความรู้ การอ่านหนังสือนอกจากให้ความรู้กับเราแล้วยังทำให้ดูเป็นคนมีเสน่ห์น่าค้นหา
หนังสือคือโอกาส อ่านไว้ก่อน เพื่อเตรียมพร้อมทุกสถานการณ์ ควรอ่านหนังสือทุกวัน เพราะหนังสือที่อ่านในวันนี้อาจอยู่ในหัวข้อสนทนาของวันรุ่งขึ้น หรืออีก 10 ปีข้างหน้าก็ได้ ควรซื้อหนังสือที่มีคนแนะนำให้อ่าน ควรอ่านหนังสือที่มีผู้อื่นแนะนำทันทีเพื่อเป็นการรักษาโอกาสการอ่านในยามจำเป็น วงจรความคิดจะทำงานได้เพียง 60 % ไม่สามารถทำความเข้าใจ เราลองกลับไปอ่านหนังสือเด็กดูสิ โสเครติส (Socrates) อ่านนิทานอีสปในคุก เมือเราโตขึ้น ถ้าเราได้กลับไปอ่านหนังสือที่เคยอ่านในวัยเด็ก เราอาจพบกับคำตอบที่เราเคยไม่เข้าใจก็ได้ เราต้องสร้างวินัยด้วยการอ่าน การมีวินัยในการอ่านหนังสือ ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของเรา
การอ่านเปรียบเสมือนการท่องเที่ยว การอ่านเปรียบเสมือนการเดินทาง แม้จะมีใครอยู่ข้าง ๆ แต่เมื่ออ่านหนังสือ เราจะสามารถอยู่ตามลำพังได้ การอ่านก็คือการท่องเที่ยวตามลำพังหนีจากโลกแห่งความจริง ไปเที่ยวเล่น ณ โลกอื่นที่แตกต่างออกไป เป็นตัวเองที่ต่างจากเดิม โลกที่เรารู้จัก และไม่รู้จักจะมาบรรจบพบกันได้ด้วยการอ่าน
หนังสือจะทำให้เราดูดี ซื้อหนังสืออยู่เสมอแม้เราซื้อหนังสือมาเก็บไว้โดยไม่อ่าน ก็ยังมีประโยชน์ เพราะถึงจะไม่ได้อ่านในตอนนี้ แต่ในอนาคตอาจจะได้อ่านเพื่อนำไปใช้ก็ได้ ใช้เงินไปกับหนังสือ น้ำกินน้ำใช้มีค่าใช่จ่าย การอ่านก็เช่นกัน ของฟรีและดีไม่มีในโลก ถ้าอยากได้ต้องลงทุน หนังสือก็เหมือนกับน้ำ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับร่างกาย หนังสือที่ดี ก็เหมือนโรงเรียนที่ดี ขณะที่อ่านจะทำให้เราดูดีขึ้น ไม่อ่านหนังสือที่ทิ้งรสชาติไม่ดีเอาไว้ จงอ่านหนังสือที่จะเหลือรสชาติดี ๆ เอาไว้ ความรู้สึกหลังการอ่านหนังสือคือรสชาติที่หนังสือหลงเหลือไว้ ใช้เป็นมาตรฐานในการเลือกหนังสืออ่านได้
สร้างพลังงานบวกด้วยการอ่าน การเพิ่มทักษะการทำงานด้วยการอ่าน การอ่าน ช่วยให้เลือกใช้คำพูดและปฏิบัติตน ได้อย่างเหมาะสม รวดเร็ว คนที่ทำงานเป็นคือ คนที่ทำงานรวดเร็ว เลือกใช้คำพูดและปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสม
การอ่านหนังสือจะทำให้เรารู้คำศัพท์มากขึ้นและจะทำให้ดูมีเสน่ห์มากขึ้นด้วย ในการอ่านหนังสือเราไม่ควรรีบร้อน หากมีเวลาว่าง ควรหาหนังสืออ่านเพิ่มเติม
การอ่านจะถูกแบ่งเป็น 2 วัฏจักร คือ
– วัฏจักรของคนไม่อ่านหนังสือ คนที่รีบร้อนมักจะไม่อ่านหนังสือ เพราะไม่อ่านหนังสือจึงรีบร้อน-
– วัฏจักรของคนอ่านหนังสือ คนที่อ่านหนังสือจะไม่รีบร้อน เพราะไม่รีบร้อน จึงอ่านต่อไป
ผลลัพธ์ของการอ่านหนังสือไม่ได้เกิดขึ้นทันทีที่เราอ่านจบ เพราะฉะนั้นไม่ควรรีบร้อน ค่อย ๆ อ่านหนังสือไปเรื่อย ๆ เพื่อใช้ในอนาคต อย่าศึกษาแต่ความรู้ แต่ให้เรียนรู้จากมุมมอง เช่นหนังสือบันทึกของแมลง ไม่ใช่บอกเรื่องแมลง แต่บอกวิธีการมองสิ่งต่าง ๆ อย่างแมลง “ฌ็อง อองรี เฟเบอร์ นักธรรมชาติวิทยาชาวฝรั่งเศส เขียนหนังสือ “บันทึกของแมลง” ที่ให้เราทำความเข้าใจผ่านตัวแมลง ว่าแมลงน่าสนใจอย่างไร
เฟเบอร์ ชอบแมลงมาก เขาเป็นคนรักด้วง แต่ก็ไม่ชอบจักจั่น เพราะรำคาญเสียงของจักจั่น จากเรื่องนี้เอง เป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาเรื่องของจักจั่นอย่างจริงจัง ก็เปรียบเหมือนกับ เมื่อมีข้อร้องเรียนจากลูกค้า ให้เราเริ่มต้นศึกษาข้อร้องเรียนนั้น เพื่อแก้ไข ” หน้าที่ 43
การเรียนรู้จากมุมมองของคนอื่นเป็นการศึกษาที่สำคัญอย่างหนึ่ง สร้างกระบวนการคิดจากการอ่าน เมื่อไม่อ่าน กระบวนการคิดจะลดลง และถูกชักจูงได้ง่าย การอ่านหนังสือจะทำให้เกิดกระบวนการคิด และจะถูกชักจูงได้ยาก กระบวนการคิดที่ดี สามารถคิดและวางแผนได้อย่างเป็นลำดับขั้นตอน เมื่อเราเจอเรื่องที่ไม่รู้มากขึ้นเรื่อย ๆ ถือเป็นการเพิ่มคำถามให้สมองได้ขบคิด คนที่คิดว่าตัวเองรู้ดีอยู่แล้ว แสดงว่าไม่รู้อะไรเลย การอ่านหนังสือไม่ได้อ่านเพียงเพื่อหาคำตอบเท่านั้น แต่เพื่อตั้งคำถามต่อไปด้วย การได้ใช้ความคิดในการตอบคำถามได้ถูกต้องคือ การได้กระบวนการคิด ความสุขของการตอบคำถามไม่ได้อยู่ที่ตอบถูกหรือตอบผิด แต่อยู่ที่การใช้ความคิด เราควรเรียนรู้สิ่งที่ไม่รู้
หนังสือกับความสุข เราลองอ่านหนังสือดูก่อน แม้ว่าเราอ่านแล้วไม่เข้าใจ แต่ถ้ารับรู้ถึงบรรยากาศของเรื่องที่เราอ่านได้ถือเป็นเรื่องที่ดี คนที่ไม่อ่านหนังสือเพราะคิดว่ามันยากจึงหมดกำลังใจ เราไม่จำเป็นต้องเข้าใจเนื้อหาในหนังสือทั้งหมดก็ได้ เพียงแค่เราเข้าใจบางส่วนก็ถือว่าเราได้อะไรจากการอ่านแล้ว การอ่านหนังสือที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสอบคือ ความบันเทิง การอ่านหนังสือด้วยความจำเป็นนั้น จะเกิดความคิดหรือไอเดียต่าง ๆ ได้ยาก เพราะเรากำลังรีบอ่าน เคล็ดลับก็คือ ถ้าอยากได้ความคิดดี ๆ จงอ่านเตรียมไว้ ก่อนที่ความจำเป็นต่าง ๆ จะบังคับให้เราต้องอ่านหนังสือ การอ่านหนังสือที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสอบคือ ความบันเทิง การอ่านหนังสือด้วยความจำเป็นนั้น จะเกิดความคิดหรือไอเดียต่าง ๆ ได้ยาก เพราะเรากำลังรีบอ่าน เคล็ดลับก็คือ ถ้าอยากได้ความคิดดี ๆ จงอ่านเตรียมไว้ ก่อนที่ความจำเป็นต่าง ๆ จะบังคับให้เราต้องอ่านหนังสือ
เราควรเลือกหนังสือที่อ่านแล้วสบายใจ วิธีการเลือกหนังสือคือ อ่านแล้วสบายใจ เมื่อเราอ่านหนังสือแล้วรู้สึกสบายใจ ให้เราถือว่าหนังสือเล่มนั้นเป็นหนังสือที่ดี โดยไม่จำเป็นจะต้องมีวัตถุประสงค์ในการอ่าน หรืออ่านแล้วสามารถนำไปช่วยแก้ปัญหาได้ทุกครั้งไป ปัญหาบางอย่างเราก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขได้ คล้ายกับการป่วยด้วยโรคที่รักษาไม่หาย ส่วนหนังสือบางเล่มที่ให้ความรู้ดี แต่กลับลดทอนความสุขของเรา หนังสือเล่มนั้นก็ไม่ควรอ่าน เลือกหนังสือที่อ่านแล้วสบายใจ ไม่จำเป็นต้องใช้ประโยชน์หรือวิธีแก้ปัญหา
การอ่านหนังสือที่ตัวเองชอบอย่างเดียวจะทำให้ขอบเขตความสนใจของเราแคบลง เราควรอ่านหนังสือแนวที่ไม่เคยอ่านเพื่อพาตัวเราออกไปยังโลกที่ไม่เคยรู้จัก การอ่านหนังสือหลาย ๆ แนว ทำให้เรามองโลกกว้างขึ้น
สนใจอ่านฉบับเต็มได้ที่ ชั้น 3 อาคารหอสมุดฯ เลขเรียกหนังสือ LB1050น62
สืบค้นข้อมูลได้ที่ http://www.opac.lib.su.ac.th/search/?searchtype=a&searcharg=นาคาทานิ%2C+อะคิฮิโระ
นาคาทานิ อะคิฮิโระ. (2560). Read to success ประสบความสำเร็จเพราะอ่านหนังสือ. แปลโดย สิริ. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชั่น