ได้ทุกสิ่งด้วยสิ่งเดียว
จากที่ได้อ่านหนังสือเรื่อง….ได้ทุกสิ่งด้วยสิ่งเดียว
…..ข้อคิดที่ได้จากหนังสือเล่มนี้ คือเป็นการเปรียบเทียบวิธีการทำงานของมนุษย์และคอมพิวเตอร์ คนเรามองว่าคอมพิวเตอร์นั้นมีความสามารถในการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน แต่ที่จริงแล้วคอมพิวเตอร์นั้นทำงานทีละอย่าง เมื่อทำงานหนึ่งเสร็จ จึงหยิบอีกงานมาทำต่อ แต่เนื่องจากคอมพิวเตอร์นั้นทำงานทีละอย่างเร็วมากๆๆ เราจึงรู้สึกเหมือนว่าคอมพิวเตอร์ทำงานหลายอย่างพร้อมกัน และอีกตอนหนึ่งที่ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เล่าถึงวิธีการลำดับความสำคัญที่ผู้เขียนนำเสนอ โดยเขาแบ่งสิ่งที่ต้องทำในแต่ละเป็น 2 อย่างหลักๆ คือ เรื่องงาน และ เรื่องส่วนตัว
……..เรื่องงานคือ เป้าหมายความสำเร็จในชีวิตของเรา ที่เราต้องตั้งใจทำงานให้เต็มที่ แต่เรื่องส่วนตัว คือ เรื่องที่สำคัญที่สุด เราจะทิ้งเรื่องนี้ไปไม่ได้เด็ดขาด ผู้เขียนแนะนำว่า เราควรจัดตารางเวลาให้กับครอบครัว ตัวเอง และเรื่องส่วนตัวเสียก่อน จากนั้นจึงค่อยจัดตารางเวลางาน และยังบอกอีกว่าปกติคนเราทำงานวันละ 8 ชั่วโมง แต่ใน 8 ชั่วโมงนี้ เราจะต้องติดต่อกับลูกค้าหรือเพื่อนร่วมงานอยู่ตลอด จนทำให้เราแทบไม่มีเวลาโฟกัสกับงานหลักอย่างจริงจัง ผู้เขียนแนะนำว่าหากต้องการทำงานที่ต้องใช้สมาธิ ควรใช้เวลา 4 ชั่วโมงติดต่อกัน ปิดการสื่อสารทั้งหมด แล้วโฟกัสที่งานนั้น ผลลัพธ์ที่ได้จะมีประสิทธิภาพมาก
ความประทับใจกับหนังสือเล่มนี้
หากใครกำลังอยากพัฒนาตนเองให้มีประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้น หรือใครที่กำลังประสบปัญหากับการจัดการตารางเวลาให้กับชีวิต แนะนำให้หาหนังสือเล่มนี้มาอ่านเลยนะคะมีข้อคิดแนะนำแนวทางในการแก้ไข และจัดสรรตารางเวลาให้ดีขึ้นคะ