ชีวิตใหม่

19 January 2019
Posted by tanawan



เมื่อประมาณปีที่แล้ว ดิฉันได้มีโอกาสรู้จักยารักษาโรคเรื้อน/เห็บหมัดของสุนัข ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมมาก แต่ราคาค่อนข้างสูงถึงเม็ดละเกือบพันบาท  ซึ่งเมื่อคำนวณแล้วก็คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป  ยาตัวนี้สามารถชุบชีวิตใหม่ให้กับน้องหมาที่เรารักได้เป็นอย่างดี เปรียบเสมือนกับการที่คนเรากินยาถูกๆ เท่าที่จะพอมีเงินซื้อ ประสิทธิภาพยาก็ประทังไปตามอาการแบบรายครั้ง/รายวัน/รายเดือน/รายปี เมื่อเงินหมดก็หมดกัน นอกจากนี้ยังได้รับผลกระทบข้างเคียงที่อันตรายต่อตับไตของเรา  แต่หากเรามีเงินมากพอก็สามารถซื้อยาที่มีประสิทธิภาพดีกว่า ราคาสูงกว่า ซึ่งก็คล้าย ๆ กับยาในบัญชี กับยานอกบัญชีฯ ที่คุณหมอสั่งจ่ายตามโรงพยาบาล แต่น้องหมาเป็นสัตย์เดรัจฉานไม่สามารถซื้อยามารักษาตัวเองได้ จึงเป็นแรงบันดาลใจที่ดิฉันมักให้ความช่วยเหลือสัตว์ที่ด้อยโอกาสเหล่านี้
วันหนึ่งดิฉันได้พบเห็นน้องหมาระหว่างทาง ที่มีสภาพผอมแห้ง  ไร้ขน มีเห็บตัวโตเป็นเม็ด ๆ มีผิวหนังแฉะ ๆ  พวกเขาจะคันมาก ๆ แล้วเค้าก็เกาจนมีเลือดออกซิบ ๆ ทำให้รู้สึกน่าเวทนายิ่งนัก อยากจะช่วยแบ่งเบาความเจ็บปวดของพวกเขา เท่าที่เราพอจะมีเงินซื้อยา  ซึ่งในครั้งนั้นก็ไม่มียาติดกระเป๋า จึงทำให้ดิฉันพลาดโอกาสที่จะช่วยน้องหมาเหล่านั้น   หลังจากนั้นมา ดิฉันจึงเก็บเงินส่วนหนึ่งที่พอจะแบ่งปันได้ นำไปซื้อยาตัวนี้ติดกระเป๋าไว้ 1 เม็ด เผื่อว่าวันใดที่เราผ่านไปยังสถานที่ใดแล้วได้พบกับน้องหมาอาการเหล่านั้น จะได้มียาช่วยน้องทันทีที่เราอยากช่วย เพราะบางครั้งเราผ่านไปสถานที่แห่งนั้นเพียงครั้งเดียว ไม่มีโอกาสได้ผ่านไปบ่อยๆ 
เมื่อปีที่แล้ว ดิฉันได้ช่วยให้น้องหมามีชีวิตใหม่ไป 2 ราย คือ น้องหมาที่อยู่แถวๆ บ้านแม่ดิฉัน สภาพที่เห็นน่าสงสารมากๆ ผอมมาก ๆ  ซี่โครงขึ้นทุกซี่ ผิวหนังไม่มีขน เป็นเรื้อนแห้ง  สอบถามคนแถวนั้น  ทราบว่าเจ้าของไล่ออกจากบ้าน เนื่องจากสภาพที่อัปลักษณ์  จึงทำให้น้องหมาผอม ดิฉันจะเห็นเฉพาะช่วงค่ำ ๆ กลางวันจะไม่เคยเห็น จึงสอบถามคนแถวนั้นว่า พอจะเข้าใกล้น้องได้หรือไม่ ดิฉันจะเอายามาให้ทาน แต่ดิฉันเข้าใกล้ไม่ได้เลย เค้าไม่ไว้วางใจ เกรงว่ายามีราคาแพงแล้วหากน้องไม่กิน มันน่าเสียดาย  คุณลุงคนนั้นบอกว่ายาเม็ดละเท่าไรเหรอ ดิฉันบอกว่าประมาณ 900 บาทได้ คุณลุงตกใจ บอกว่าผมไม่มีปัญญาจะซื้อให้หรอก แต่จะพยายามช่วย ทุกวันนี้ ก็เอาข้าวให้กินบ้าง ดิฉันพยายามเข้าหาน้องหมาโดยการซื้ออาหาร ลูกชิ้น ไปให้ทุกครั้งที่ขับรถมอเตอร์ไซด์ผ่านไปหาพ่อกับแม่ที่บ้านสวน จนกระทั่งสามารถเข้าใกล้ได้บ้าง จึงให้ยานั้นกับน้องหมาด้วยตนเองจนมั่นใจว่าน้องหมากินหมดเม็ด ผ่านไป 1 เดือน น้องหมาก็ค่อย ๆ หายจากโรคเรื้อน ขนค่อย ๆ ขึ้น จนกระทั่งเป็นปกติ 

หลังจากที่ดิฉันรักษาน้องหมาจนหาย เข้าใกล้น้องหมาได้มากขึ้น ๆ จนขอมือบอกให้น้องหมาสวัสดี น้องหมาก็เข้ามาใกล้ แล้วก็ยกมือให้ วางบนมือดิฉัน บอกให้เปลี่ยนมือก็ทำตาม ซ้าย/ขวา  น้องทำท่าทาง “สวัสดี” แบบหมา ๆ คือ หมอบเท้าหน้า 2 ข้าง แล้วโน้มตัวย่อตัวลง คือ สัญลักษณ์ว่าน้องหมาสวัสดีเรา คุณลุงเห็นก็ตะโกนถามว่า สอนมันเหรอ  ดิฉันตอบว่า ไม่ได้สอน แค่บอกว่าให้สวัสดีก่อน ขอบคุณก่อน น้องหมาก็ทำเป็นเอง เพราะหมามีอายุแล้ว คุณลุงบอกว่าไม่เคยเห็นมันทำเป็น ทำไมมันทำได้ นึกว่าหนูสอนมัน 
มีบางช่วงเวลาที่ดิฉันเดินทางไปประชุมต่างไปต่างจังหวัดหลายวัน ก็จะไม่ได้ไปหาพ่อกับแม่ที่บ้านสวน พ่อเล่าให้ฟังว่า พ่อขับรถผ่านไป น้องหมาตัวนี้ก็จะมายืนรอทุกวัน มอเตอร์ไซด์ขับผ่านไปมา น้องก็ชะโงกหน้ามองตามไป-มา เหมือนรอใครบางคน แล้วก็ผิดหวัง พ่อคาดว่าเค้ารอดิฉันเป็นแน่ ทำให้ดิฉันนึกถึงหนังเรื่องหนึ่งที่ดูกี่ครั้งก็ประทับใจและเสียน้ำตาทุกครั้ง คือ เรื่อง “ฮาชิ หัวใจพูดได้” ปัจจุบัน น้องหมาตัวนี้ได้เข้าบ้านแล้ว เจ้าของเห็นสภาพที่สวยงามก็อนุญาตให้เค้าเข้าบ้าน  ดิฉันรู้สึกดีใจกับน้องเค้า  ทุกครั้งที่ดิฉันผ่านไปบริเวณนั้น ก็จะมีของกินติดไม้ติดมือไปให้น้องหมาทุกครั้ง มีบางครั้งไม่มีจริง ๆ น้องหมาจะวิ่งตามรถดิฉันจนสุดลูกหูลูกตาเหมือนกัน 

ส่วนน้องหมาอีกราย ดิฉันพบระหว่างทางขณะไปเที่ยวดอนหอยหลอด พบเจ้าของน้องหมาที่ไม่ใช่เจ้าของโดยแท้ เก็บมาชุบเลี้ยงอีกที เจ้าของเล่าให้ฟังว่า มันจะตายหลายรอบก็ไม่ตาย ถูกเอาใส่กระสอบมาทิ้งป่า  ถูกรถชน โดยคนตีทำร้าย  ก็รอดมาได้ทุกที สภาพตามที่เห็น  ถ้ามันมี 9 ชีวิตเหมือนแมว ก็ใกล้จะใช้หมด 9 ชีวิตแล้ว  ดิฉันเห็นสภาพก็รู้สึกรันทด จึงควักยามหัศจรรย์ออกมาให้  เจ้าของก็ถามว่ายาอะไร จึงอธิบายให้เจ้าของมั่นใจว่ามีเจตนาดีที่จะช่วยน้องหมา ยาไม่มีอันตราย พร้อมแจ้งราคาเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เจ้าของ เจ้าของถึงกับตกใจในราคา แล้วกล่าวว่า “กูเป็นคนยังไม่มีตังค์ซื้อยาเม็ดละ 900 บาทกินเลย มึงมีบุญมากกว่ากูอีกนะ” ว่าแล้วเจ้าของก็กล่าวขอบคุณพร้อมกับคำอวยพรขอให้เจริญ ๆ และก็เอายาให้น้องหมากิน  จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายเดือน ดิฉันอยากเห็นสภาพน้องว่าหายหรือยัง จึงขับรถไปเที่ยวดอนหอยหลอด ในครั้งแรกไม่พบน้อง ผ่านไปอีกหลายเดือนก็กลับไปใหม่จนกระทั่งพบน้อง สภาพน้องดีขึ้นมากกว่าเดิม สังเกตจากดวงตา ใบหน้า และช่วงขาล่าง แต่ก็ไม่หายสนิทเหมือนรายแรก ที่สำคัญซ่ากว่าเดิมเจ้าของบอกว่า มีเรี่ยวแรงไล่กวดรถทุกคัน ที่น้องหายไม่สนิทอาจเนื่องมาจากมีอายุมากกว่าตัวแรกและมีอาการหนักกว่าตัวแรก หากได้อีกสัก 1 เม็ด คาดว่าน่าจะดีขึ้นกว่าเดิม

ปัจจุบัน ดิฉันได้ใช้วิธีการจ่ายยาเมื่อสมัยที่คุณหมอจ่ายยาฆ่าเชื้อให้ดิฉัน คุณหมอนำน้ำหนักตัวดิฉันมาคำนวณปริมาณยา ดิฉันจำแล้วนำมาประยุกต์ใช้กับน้องหมา เนื่องจากยามี 3 ระดับ คือ 

  • สุนัขเล็กมากน้ำหนัก  2-4.5       กิโลกรัม  
  • สุนัขขนาดเล็ก           >4.5-10   กิโลกรัม  
  • สุนัขนาดกลาง           >10-20    กิโลกรัม                                 
  • สุนัขขนาดใหญ่          >20-40   กิโลกรัม  

โดยซื้อยาตัวนี้มาโดยเลือกปริมาณยาที่เหมาะกับน้องหมาที่น้ำหนักมาก ๆ เพราะบางร้านขายราคาเดียวกัน  แล้วเอายามาแบ่งคำนวณน้ำหนักน้องหมาแล้วแบ่งยาตามน้ำหนัก ซึ่ง 1 เม็ด สามารถช่วยน้องหมาตัวเล็ก ๆได้หลายราย

ปล. สุขใจทุกครั้งที่ได้ช่วยเหลือทุกชีวิต

Leave a Reply

Tags

blog CONSAL KPI PULINET การจัดการความรู้ การดูแลสุขภาพ การทำงาน การท่องเที่ยว การบริการ การปฏิบัติงานล่วงเวลา การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาตนเอง การพัฒนาบุคลากร การลงรายการ การศึกษาดูงาน การอ่าน การเรียนออนไลน์ กิจกรรมสำหรับเด็ก กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมห้องสมุด ความสุข ค่ายห้องสมุด งานบริการ ธรรมะ นวนิยาย นักเขียน บรรณารักษ์ บริการชุมชน ประกันคุณภาพ ภาพถ่าย ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ วัด วันสำคัญ วารสาร สัมมนา สุขภาพ หนังสือ หนังสือบริจาค หนังสือและการอ่าน หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ห้องสมุด ห้องสมุด 24 ชั่วโมง อาหาร