เที่ยวเขาดิน ช่างสุขจริง…
เที่ยวเขาดินช่างสุขจริง เที่ยวดูลิงวิ่งไล่กัน ดูไปช่างน่าขบขัน บางตัวหางสั้น บางตัวหางยาว เที่ยวดูไป โน่นอีกกรง พุ่มพฤกษ์พงมีเสือดาว เวลามันอ้าปากหาว เห็นเขี้ยวยาวดูน่ากลัว นั่นหมี ชะนี และช้าง อยู่ข้างทางข้างริมรั้ว ไปดูนกกระตั้ว มันส่ายหัวกินพุทราเที่ยวเพลินไปอยู่ตั้งนาน ถึงสะพานเห็นฝูงปลา ตัวมันช่างโตนักหนา ว่ายไปมาน่าเอ็นดู
ข้างบนนี้คือเนื้อเพลง “เที่ยวเขาดิน” ซึ่งดิฉันได้เคยซื้อเทปเสียงมาให้ลูกฟังตั้งแต่ลูกอายุประมาณ 2-3 ขวบ ผ่านมาเกือบ 30 ปีแล้ว (เปิดฟังเพลง “เที่ยวเขาดิน” จากกูเกิลได้ค่ะ)
ลุงบูรณ์ได้ข่าวว่าจะปิดสวนสัตว์ดุสิตหรือเขาดินวนา ในวันที่ 31 ส.ค. 2561 ก็บ่นอยากจะไปเที่ยว เพราะยังไม่เคยไปเที่ยวที่นี่เลย ส่วนดิฉันเคยไปครั้งเดียวเมื่อตอนลูกสาวยังเล็กอยู่ไปกับมหาวิทยาลัยฯ จัดนำเที่ยวให้บุคลากร ส่วนลุงบูรณ์ไม่ได้ไปด้วยเพราะติดเรียน ป.ตรี เสาร์-อาทิตย์
หากสวนสัตว์ดุสิต หรือ เขาดินวนา หรือเรียกกันติดปากว่า “เขาดิน” ไม่มีข่าวว่าจะปิดทำการและย้ายสัตว์ไปอยู่ที่อื่น พวกเราคงยังไม่นึกอยากไปเที่ยวสักเท่าไร ด้วยเป็นธรรมดาของมนุษย์ที่มักผลัดเรื่อยไปว่าเอาไว้ก่อนเพราะคิดว่าหมูในอวยจะกินเมื่อไรก็ได้ นี่ก็เช่นกันคิดว่าไปเมื่อไรก็ได้ แต่จริง ๆ คือผ่านไปผ่านมาไม่เคยคิดว่าจะแวะสักที
ดังนั้นพอมีข่าวจะปิดเขาดิน เราสองคนตายายไม่รอช้า พากันนั่งรถเมล์จากหน้ามอไปลงเซ็นทรัลปิ่นเกล้า แล้วต่อรถปรับอากาศสาย 28 ไปลงเขาดินแบบชิว ๆ รถไม่ติดมากนัก (ไปวันเสาร์กลางเดือน ส.ค 2561 ใจจริงอยากรอลูก ๆ มาพร้อมหน้าและไปเที่ยวด้วยกันแต่ลูก ๆ ต่างมีภารกิจมาไม่ได้ )
เมื่อไปถึงก็เข้าคิวซื้อตั๋ว ตั๋วผู้ใหญ่ราคา 100 บาท เรามองเห็นป้ายแล้วละว่าผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปเข้าฟรี แต่ลุงบูรณ์บอกว่าจ่ายไปเถอะไว้เป็นค่าอาหารสัตว์
ซื้อตั๋วเสร็จก็ละล้าละลังจะไปทางไหนดี เพราะสถานที่ช่างกว้างใหญ่ จึงตัดสินใจขึ้นสกายวอล์คไปดูพวกลิง ชะนี แล้ววนมาอีกด้านหนึ่งมาเจอยีราฟ ม้าลาย ผู้คนตื่นเต้นกันมากเพราะเจ้ายีราฟมันชูคอมาใกล้ที่ยืนดูกันอยู่ บางคนก็เอามือไปลูบหัวยีราฟ ทำให้ได้ถ่ายรูปกันอย่างใกล้ชิด ดูไปสักพักลงมาด้านล่างยังติดใจวนไปดูยีราฟใหม่ คราวนี้ยีราฟตัวเมียออกมาอีกหนึ่งตัว ขณะนั้นเจ้ายีราฟตัวผู้ก็ฉี่ออกมา สิ่งที่ทำให้ประหลาดใจคือยีราฟตัวเมียก้มไปกินฉี่ตัวผู้
ระหว่างทางเดินต่อจากยีราฟก็จะมีเสือ หมีควาย หมีหมา สิงโต เลียงผา การถ่ายภาพก็จะยากหน่อยเพราะสัตว์เหล่านี้จะอยู่ในกรงกระจกหนา มีลูกกรง บางทีก็อยู่ไกล ๆ มือไกลตัวคนเพื่อป้องกันอันตราย ขณะดูหมี เจ้าหน้าที่กำลังให้อาหาร โดยแขวนอาหารไว้แล้วปล่อยสายโยงไปให้หมีเพื่อล่อหลอกให้หมีได้ขยับร่างกายมาหยิบอาหารกิน และบริเวณนี้มีนกกาด้วยมาคอยโฉบแย่งอาหารกินกับหมี
ต่อมาไปดูฮิปโป ตามความตั้งใจของลุงบูรณ์ ดิฉันถามว่าจะไปเขาดินทำไม ลุงบอกว่าจะดูฮิปโป ได้ดูแม่มะลิซึ่งเป็นขวัญใจของผู้ชมและเป็นตัวเอกหนึ่งของสวนสัตว์ ทีแรกแม่มะลินอนแช่น้ำนิ่ง ๆ ดูแล้วไม่ได้อย่างใจเลย ต้องไปเที่ยวจุดอื่นก่อนแล้ววนกลับมาดูฮิปโปใหม่ คราวนี้ตื่นเต้นสมใจเพราะแม่มะลิลุกขึ้นยืนแล้ว เดินเข้ามาหาผู้ชมแถมอ้าปากอวดฟันเขี้ยวใหญ่ ๆ ยามที่แม่มะลิเดินมาใกล้ที่ดิฉันดูอยู่อยากจะถ่ายภาพทั้งตัวแต่ไม่สามารถทำได้เพราะตัวใหญ่มาก ต้องถอยห่างออกมาจึงจะถ่ายภาพได้เต็มตัวจึงแลดูเหมือนตัวไม่ใหญ่
การไปเที่ยวครั้งนี้ลุงบูรณ์ลั้ลลามาก อยากเข้าร่วมกิจกรรมทุกอย่างที่มีบริการ เช่น นั่งรถพ่วงหรรษาที่พาชมพื้นที่รอบ ๆ ในสวนสัตว์
นั่งรถแล้วก็พักกินข้าวโดยซื้อที่ร้านเซเว่น ของขายดีมากทุกอย่าง เสร็จแล้วไปขี่จักรยานนาวา ซื้อตั๋วแบบครึ่งชั่วโมงมาราคา 80.- บาท และเจ้าหน้าที่เก็บค่ามัดจำไว้ 40.- ให้นั่งได้ผู้ใหญ่ 2 คน เด็กเล็กอีก 1 คน เลิกขี่แล้วมารับค่ามัดจำคืนได้ ถ้าใครส่งเรือเกินเวลาคิดนาทีละ 2.-
การขี่ขักรยานนาวาไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะต้องออกแรงช่วยกันถีบ ขอบอกว่าถีบหนักมาก ปั่นกันเหนื่อยเมื่อยขา ปุ่มบังคับเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาก็ไม่ค่อยดีเลี้ยวดังใจไม่ได้ ต่างคนต่างขับขี่เป็นบ้างไม่เป็นบ้างชนกันปึงปัง ๆ แต่ไม่มีใครถือสากัน ลุงอยากขี่ไปไกล ๆ บอกเดี๋ยวมาส่งทันเวลาแน่ ดิฉันบอกไม่ต้องโอ้เอ้ วนรอบเดียวพอแล้วเตรียมเข้าท่าจอดส่งเรือ กว่าจะพาเรือเข้าท่าได้แทบเกินเวลา เพราะปุ่มบังคับเลี้ยวไม่ได้ดังใจ ดิฉันต้องโดดขึ้นมาก่อนและฝ่าแถวคอยของคนที่ลงต่อเข้าไปจับลากเรือมาเข้าฝั่ง
ก่อนกลับบ้านยังติดใจมาแวะดูยีราฟอีกรอบ สนุกสนานชื่นบานตามประสาคนแก่
สวนสัตว์ดุสิตได้ขยายเวลาปิดให้ประชาชนเข้าชมจากวันที่ 31 ส.ค. 2561 เป็นวันที่ 30 ก.ย. 2561
สองตายายพากันไปเที่ยวเขาดินมากกว่า 2 ครั้ง ให้สมกับที่ไม่เคยได้ไปกันมาก่อน การไปเขาดินของเราง่ายกว่านับหนึ่งถึงสิบ นั่งรถเมล์กันไปสะดวกสบายมาก ลงแล้วเดินถึงที่เที่ยวได้เลย ยังมีภาพสัตว์น่ารัก ๆ อีกหลายชิด ทั้ง เต่า นกเพนกวิน นกฟลามิงโก อูฐ ช้าง ฯลฯ ที่ยังไม่ได้นำมาลงให้ดูกัน เกรงที่จะเต็มมากไปกว่านี้
ใครที่ยังไม่ได้ไปยังพอมีเวลาไปอำลาเขาดินวนากันนะคะ
อ่านประวัติสวนสัตว์ดุสิต หรือ เขาดินวนา เพิ่มเติมได้ที่ http://202.28.73.5/snclibblog/?p=65164