การได้มาของเงินงบประมาณ
การบริหารจัดการหรือการจัดทำภารกิจต่าง ๆ ของหน่วยงาน จำเป็นต้องใช้เงินด้วยกันทั้งสิ้น ไม่มากก็น้อย โดยเงินที่นำมาใช้จ่ายในหอสมุด พระราชวังสนามจันทร์ส่วนใหญ่มีด้วยกัน 2 ประเภท คือ เงินงบประมาณแผ่นดิน และเงินงบประมาณรายจ่ายจากเงินรายได้
1. เงินงบประมาณแผ่นดิน ได้มาจากเงินภาษีอากรและเงินรายรับต่าง ๆ ที่รัฐบาลจัดเก็บ โดยหอสมุด พระราชวังสนามจันทร์จะต้องจัดคำของบประมาณส่งให้มหาวิทยาลัยศิลปากร และมหาวิทยาลัยจะจัดทำคำของบประมาณในภาพรวมของมหาวิทยาลัยส่งไปให้สำนักงบประมาณซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบจัดทำงบประมาณแผ่นดิน เมื่องบประมาณแผ่นดินได้รับการพิจารณาและผ่านความเห็นชอบจากผู้เกี่ยวข้องแล้วจึงตราออกมาเป็นพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อใช้บังคับต่อไป
2. งบประมาณรายจ่ายจากเงินรายได้ เป็นเงินที่หอสมุด พระราชวังสนามจันทร์ จัดทำคำของบประมาณภายในกรอบวงเงินที่ได้รับการจัดสรรจากมหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งมหาวิทยาลัยได้เงินมาจากแหล่งใหญ่ ๆ 2 แหล่ง คือ เงินที่จัดเก็บตามภารกิจ เช่น ค่าลงทะเบียนนักศึกษา ค่าปรับวัสดุสารสนเทศเกินกำหนดส่ง ค่าเข้าใช้หอสมุด เป็นต้น และเงินบริการวิชาการในส่วนที่หักไว้เป็นรายได้ของหน่วยงาน
ก่อนที่จะมีเงินไว้ใช้ในการบริหารจัดการหรือการจัดทำภารกิจต่าง ๆ ได้นั้น หอสมุดจะต้องจัดหาเงินมาด้วยการจัดทำแผนงบประมาณหรือจัดทำคำของบประมาณ โดยการนำข้อมูลจากแผนของหน่วยงาน เช่น แผนระยะกลาง แผนปฏิบัติการประจำปี มาจัดทำเป็นแผนงบประมาณ เพื่อให้หน่วยงานสามารถดำเนินงานให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายหรือตัวชี้วัดที่กำหนดไว้
การจัดทำคำของบประมาณนั้น จะเป็นการประมาณการรายรับที่ได้มาและประมาณการรายจ่ายที่จะจ่ายไปในอนาคต แล้วจัดทำเป็นแผนงานโดยละเอียดในรูปตัวเลขทั้งจำนวนหน่วยและจำนวนเงินตามแผนการดำเนินการหรือแผนปฏิบัติการสำหรับระยะเวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต ซึ่งแสดงออกถึงความต้องการของหน่วยงานในอนาคตในการใช้จ่ายเงินเพื่อการดำเนินงานต่าง ๆ ตามภารกิจให้สำเร็จหรือบรรลุเป้าหมายตามที่วางไว้ ซึ่ง “ระยะเวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต” ของแผนงบประมาณ ส่วนใหญ่จะเป็นเวลา 1 ปี หรือปีงบประมาณ ปีงบประมาณของหน่วยงานที่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจคือระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมของปีหนึ่งถึงวันที่ 30 กันยายนของปีถัดไป และใช้ พ.ศ. ที่ถัดไปนั้นเป็นชื่อสำหรับปีงบประมาณนั้น
แผนงบประมาณด้านต่าง ๆ ที่จัดทำขึ้น ต้องมีแผนปฏิบัติการรองรับ โดยในแผนปฏิบัติการควรมีข้อมูลสำคัญ เช่น กิจกรรมที่จะกระทำ เป้าหมายหรือตัวชี้วัดของกิจกรรม ระยะเวลาในการดำเนินการ ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายงบประมาณที่เกี่ยวข้องเพื่อให้กิจกรรมนั้นสำเร็จตามเป้าหมายหรือตัวชี้วัด ซึ่งกิจกรรมที่กระทำควรสอดคล้องกับภารกิจและยุทธศาสตร์ของหน่วยงาน
การกำหนดเป้าหมายหรือตัวชี้วัดของกิจกรรม ควรแสดงถึงความสามารถในการปฏิบัติงานของบุคลากรและหน่วยงานอย่างชัดเจน เข้าใจง่าย สามารถวัดค่าเป็นตัวเลขได้ เช่น จำนวนเงิน จำนวนปริมาณผลสำเร็จ อัตราร้อยละ ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการควบคุม ติดตามและวัดผลการดำเนินงานในอนาคตได้อย่างชัดเจน
ปัจจุบัน การจัดทำคำของบประมาณของหอสมุด พระราชวังสนามจันทร์จะแจกแจงรายละเอียดแต่ละกิจกรรมโดยจำแนกประเภทรายจ่ายออกเป็น 5 ประเภทงบรายจ่าย ตามหลักการจำแนกประเภทรายจ่ายตามงบประมาณของสำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง ได้แก่
1. งบบุคลากร ได้แก่ เงินเดือน ค่าจ้างประจำ ค่าจ้างชั่วคราว
2. งบดำเนินงาน ได้แก่ ค่าตอบแทน ค่าใช้สอย ค่าวัสดุ ค่าสาธารณูปโภค
3. งบลงทุน ได้แก่ ค่าครุภัณฑ์ ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง
4. งบเงินอุดหนุน
5. งบรายจ่ายอื่น
แผนงบประมาณที่ดี ควรแสดงถึงความสอดคล้องของภารกิจหรือกิจกรรมต่าง ๆ กับภารกิจหลักของหน่วยงาน ก่อให้เกิดการใช้จ่ายเงินอย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และยังเป็นเครื่องมือของฝ่ายบริหารที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการวางแผน การประสานงาน และการควบคุม เพื่อให้บรรลุผลตามเป้าหมายที่หน่วยงานกำหนดไว้
บรรณานุกรม
ณรงค์ สัจพันโรจน์. (2538). การจัดทำอนุมัติและบริหารงบประมาณแผ่นดิน ทฤษฎีและปฏิบัติ. กรุงเทพฯ : บพิธการพิมพ์.
ยรรยง ธรรมธัชอารี. (2550). คู่มือ การจัดทำงบประมาณธุรกิจอย่างง่าย. กรุงเทพฯ : ปรัชญ์รัฐ.
สำนักงบประมาณ. (2553). การปรับปรุงหลักการจำแนกประเภทรายจ่ายตามงบประมาณ. [ออนไลน์]. จาก http://www.forest.go.th/audit/index.php?option=com_docman&task=cat_view&gid=73&Itemid=&lang=en. วันที่ค้นข้อมูล 18 สิงหาคม 2561.