ข้าพเจ้า รู้จักคำว่า “ข้าวจี่” เมื่อครั้งที่ได้ไปร่วมพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี 2560 กับมหาวิทยาลัยศิลปากร ณ พระอารามหลวง วัดไพรสณฑ์ศักดาราม   อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์  ในวันที่ 3  พฤศจิกายน  2560  เมื่อเสร็จพิธีการ ก่อนจะเดินทางกลับจังหวัดนครปฐม ท่านคณะกรรมการของวัดไพรสณฑ์ศักดาราม  ได้จัดเตรียมอาหารว่าง บรรจุกล่องให้กับทางคณะผู้เข้าร่วมพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานฯ เพื่อรับประทาน ในระหว่างการเดินทางบนรถบัส ซึ่งภายในกล่อง เมื่อเปิดออกมาจะพบข้าวเหนียว 3 ก้อน และ น่องไก่ทอด 2  ชิ้น ส่งกลิ่นหอมมากชวนให้นึกอยากลิ้มลองชิมรสดู เมื่อลองกินแล้ว รสชาติของข้าวเหนียวออกรสเค็มนิดๆ และมีกลิ่นหอมของไข่หน่อยๆ รู้สึกถึงความอร่อย  โดยที่ยังไม่รู้จักเลยว่าอาหารชนิดนี้เขาเรียกว่าอะไร จึงได้สอบถามพี่ๆเพื่อนๆและผู้รู้ ว่าอาหารชนิดนี้เขาเรียกว่าอะไร มีพี่ท่านหนึ่งตะโกนบอกว่า ข้าวเหนียวที่รับประทานอยู่นั้น มีชื่อเรียกว่า“ ข้าวจี่ “แต่พี่ท่านนั้นก็ไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรมากนัก  เมื่อเกิดความสงสัยใคร่รู้ จึงทำการค้นหาข้อมูลจากหนังสือในหอสมุดฯและแหล่งอื่นๆ เช่น
 
1.  หนังสือ พจนานุกรมไทยฉบับทันสมัยและสมบูรณ์ โดย ฝ่ายวิชาการภาษาไทย  บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น. เลขเรียก อ PL 4185 ช65 2552 .หน้า 176.
ให้ความหมาย คำว่า”ข้าวจี่ “ไว้ว่า ( คำนาม-ถิ่นอีสาน,เหนือ )  ข้าวเหนียวนึ่งปั้นเป็นก้อนกลม ทาไข่ แล้วนำไปปิ้ง บางครั้งใส่น้ำอ้อยงบหรือใส่ไว้ข้างในโดยไม่ทาด้านนอก  
2.จากแหล่ง เว็ปไซด์ ต่างๆ เช่น http://www.youtube.com 
ส่วนผสม  ข้าวจี่  เช่น ข้าวเหนียวอย่างดี,  ไข่ไก่, น้ำกระทิ, เครื่องปรุงรส (ผงปรุงรส พริกไทย เกลือป่น), แป้งกรอบ, ไม้เสียบ, ถ่านและเตา
วิธีทำ
1.  ข้าวเหนียวนิ่ง แล้วนำมามูลกับน้ำกะทิ พักไว้ให้ข้าวเหนียวเย็นตัวลง
2.  นำข้าวเหนียวมาปั้นเป็นลูกกลมแบน  หรือ กลมรี ก็ได้ ชิ้นไม่ต้องใหญ่มากนัก เพื่อสะดวกต่อการเสียบไม้ และการเผาหรือย่างไฟ
3.  นำข้าวเหนียวมาเสียบไม้ ขึ้นย่างบนเตา
4.  นำไข่ไก่ มาผสมกับเครื่องปรุงรส ( รสดี, เกลือ , พริกไทย , แป้งกรอบ ) คลุกเคล้าให้เข้ากัน อย่าให้เค็มจนเกิดไป
5.  นำข้าวเหนียวที่ย่างไว้ มาชุปกับไข่ที่เตรียมไว้ แล้วย่างต่อไปจนสุกเป็นสีเหลืองมีกลิ่นหอม ก็จะได้  ข้าวจี่   ฝีมือของเราเอง แล้วนำมารับประทานได้อย่างเลิศรส เลยทีเดียว