ผู้พิชิตเขาวงพระจันทร์ นมัสการรอยพระพุทธบาท
เมื่อครั้งตอนที่กลับไปเยี่ยมบ้านที่จังหวัดลพบุรี ช่วงนั้นตรงกับงานประจำปีอีก 1 อย่างคือ ขึ้นเขาวงพระจันทร์ บันได 3,790 ขั้น นมัสการรอยพระพุทธบาท ตั้งอยู่ที่ วัดเขาวงพระจันทร์ ตำบลห้วยโป่ง อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี ระยาทางห่างจากบ้านดิฉันประมาณ 10 กิโลเมตร โดยการขึ้นเขาวงพระจันทร์นั้นมีความเชื่อกันว่า หากคาดหวังสิ่งใดเมื่อได้ขึ้นมาถึงยอดเขาวงพระจันทร์ก็จะสมความปรารถนาทุกอย่าง โดยปีนี้จัดในวันที่ 16 ก.พ. – 2 มี.ค. 2561 รวม 15 วัน 15 คืน
โดยส่วนตัวแล้วมีโอกาสได้ขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาท 3 ครั้งด้วยกัน ครั้งแรกที่ขึ้นไปนั้นเป็นตอนสมัยเด็กตอนเรียนชั้นอนุบาล ซึ่งการขึ้นในตอนเด็กนั้นไม่ได้คิดอะไรมากรู้แต่เพียงว่าได้เที่ยว และกระดูกกระเดี้ยวเด็กๆยังดีอยู่ ส่วนอีก 2 ครั้งนั้นได้ขึ้นไปตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยบอกเลยว่าเป็นการเดินขึ้นเขาที่แสนจะทรมาน แต่ก็ต้องยอมรับว่าปลายทางนั้นมันทำให้หายเหนื่อย โดยเฉพาะข้าวต้มข้างบนนั้นมันอร่อยสุดๆ ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึป่าวแต่ทุกครั้งที่ขึ้นไปจะต้องไปทางข้าวต้มกุ๊ย กับพวกผักดองที่ทางวัดจัดไว้ให้นักเดินทางได้ทานกัน
เส้นทางในการเดินขึ้นนั้น ในบางช่วงจะมีศาลาสำหรับแวะพักให้หายเหนื่อย และในจุดแวะพักบางจุดจะมีร้านค้าจำหน่ายเครื่องดื่ม, ผ้าเย็นสำหรับแก้เหนื่อยให้กับนักเดินทาง และการเดินทางลงจากเขาวงพระจันทร์นั้น สำหรับผู้ที่ชำนาญโดยเฉพาะชาวบ้านที่เป็นลูกหาบขนของขึ้นไปบนยอดเขา จะใช้ถุงปุ๋ยตัดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้านั่งสไลด์ลงมายังด้านล่าง แต่จะมีการตัดราวเหล็กบางช่วงเพื่อลดความเสี่ยงและอันตรายจากการสไลด์ลงมา
สำหรับรอบนี้ไม่ได้มีโอกาสได้ขึ้นไปนมัสการด้วยตนเองเนื่องจากตั้งครรภ์ คนทางบ้านก็เกรงว่าขึ้นไปแล้วจะไม่คุ้มกัน เลยส่งพ่อบ้านใจกล้าที่รับอาสาในการขึ้นไปนมัสการในครั้งนี้และก็เป็นครั้งแรกด้วย โดยมีผู้ร่วมเดินทางเป็นน้องสาวของดิฉัน ซึ่งเราออกจากบ้านกันตั้งแต่ 06.00 น. และไปถึงวัดภายใน 15 นาที อากาศยามเช้าในวันนั้นเย็ยสบาย มีหมอกลงจางๆ นับว่าเป็นวันดีแดดไม่ร้อน พอส่ง 2 ผู้กล้าเสร็จดิฉันก็ขับรถกลับบ้าน ผ่านไปไม่ถึง 1 ชั่วโมง พ่อบ้านใจกล้าก็โทรมาและบอกว่าถึงยอกเขาแล้ว ใช้เวลาเพียง 49 นาทีเท่านั้น พอฟังจบได้แต่ร้องโอ้โห…สุดยอด ได้แต่ชมพ่อบ้านของเราว่าเธอเก่งมากและเดี๋ยวสักพักจะไปรับ ปลายสายก็ตอบมาว่า ไม่ได้ๆ รอก่อนน้องสาวยังมาไม่ถึง ดิฉันฟังก็ตกใจ สรุปหน่วยอาสาของเราเกิดเดินแยกกันเพราะน้องสาวงอแงและหยุดอยู่ขั้นที่ 500 และไม่ยอมเดินขึ้นต่อ ดิฉันก็เลยโทรหาน้องสาวและบอกว่าจะไปรับให้ลงมาเลย และบอกพ่อบ้านว่าลงมาได้เลยอีกสักพักจะออกไป
ดิฉันขับรถไปถึงประมาณ 08.00 น. นั่งรออยู่สักพักพ่อบ้านของดิฉันก็เดินมา แต่ไร้วี่แววของน้องสาวดิฉัน คุยกันสรุปได้ว่าน้องสาวเกิดแรงฮึดที่จะขึ้นเพราะไหนๆก็มาแล้ว ตอนที่พ่อบ้านลงมาถึงที่ขั้น 1,000 ก็สวนกันกับน้องที่เดินขึ้นพอดี เลยตกลงกันว่าจะพาพ่อบ้านกลับบ้านไปอาบน้ำก่อนแล้วค่อยกลับมารับน้องสาว โดยนัดกันว่าถ้าลงมาได้ถึงครึ่งทางแล้วให้โทรมา
เวลาผ่านไปถึง 12.00 น. น้องสาวโทรมาบอกว่าถึงขั้นที่ 1,000 ขาลงแล้ว ท้า่ยสุดขาของเธอก็แตะถึงขั้นแรกเวลา 12.50 น. เพราะเธอบอกว่าแวะพักนานไปหน่อยลงมาไม่ไหว เพราะทานข้าวต้มมากไปเลยทำให้จุก
สิ้นสุดการเดินทาง คณะเดินทางของเรากลับบ้านโดยสวัสดิภาพ แต่หมดสภาพ และเราต่างก็ได้ข้อสรุปเป็นเสียงเดียวกันว่า “ข้าวต้มข้างบนอร่อยสุดยอด…”
ตอนท้ายน้องสาวเล่าให้ฟังว่าตอนที่ตัดสินใจเดินขึ้นต่อก็มีลูกหาบและคนที่ส่งของเดินขึ้นไปถึงและเดินสวนลงมา เธอบอกว่าสุดยอดเลยแซงไปแถมลงมาอีกต่างหาก ที่สุดยอดไปกว่าคือ เดินกลับขึ้นมาอีกรอบแถมแซงด้วย(คนเดิม) ถ้าวิ่งแข่งกันก็คงน๊อครอบแล้วละน้องเอ๊ย…