การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
ในการดำเนินชีวิตของเรา มักจะประสบปัญหาอยู่บ่อยครั้ง หนักบ้าง เบาบ้าง แต่ละคนก็มีวิธีการแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน ทั้งปัญหาส่วนตัวและปัญหาที่เกิดจากการทำงาน บางคนก็แก้ได้อย่างรวดเร็ว บางคนกว่าจะแก้ปัญหาได้สำเร็จก็ต้องใช้เวลานาน หรือไม่สามารถแก้ได้ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์หรือทักษะเฉพาะของแต่ละคน
มีผู้รู้และนักวิชาการหลายท่านได้คิดค้นหาวิธีการแก้ปัญหาไว้อย่างเป็นขั้นตอน ซึ่งมีวิธีหรือขั้นตอนที่คล้ายกันพอจะสรุปได้ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 การรับรู้ปัญหาและกำหนดปัญหาให้ถูกต้องชัดเจน สามารถทำได้หลายวิธี วิธีหนึ่งที่มีผู้นำมาใช้คือเทคนิค 5W1H โดยจะต้องตอบคำถามเหล่านี้คือ
What อะไรบ้างที่เป็นปัญหาหรือสิ่งผิดปกติ
Why ทำไมถึงเกิดปัญหาหรือสิ่งผิดปกตินั้น
When ปัญหาหรือสิ่งผิดปกตินั้นเกิดขึ้นเมื่อไร
Where ปัญหาหรือสิ่งผิดปกตินั้นเกิดขึ้นที่ไหน
Who ปัญหาหรือสิ่งผิดปกตินั้นเกิดขึ้นกับใคร หรือเกี่ยวข้องกับใครบ้าง
How ปัญหาหรือสิ่งผิดปกตินั้นก่อให้เกิดความเสียหายอย่างไร หรือมีผลกระทบมากน้อยเพียงใด
ขั้นตอนที่ 2 การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมเพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน วิธีหนึ่งที่นิยมใช้ในการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมคือ การวิเคราะห์ SWOT หรือ SWOT Analysis โดยวิเคราะห์ปัจจัยภายใน 2 ด้าน คือ S ย่อมาจาก Strengths เป็นการหาจุดเด่น จุดแข็งหรือข้อได้เปรียบของเรา และ W ย่อมาจาก Weaknesses เป็นการหาจุดด้อย จุดอ่อน หรือข้อเสียเปรียบที่เรามีอยู่ และวิเคราะห์ปัจจัยภายนอก 2 ด้าน คือ O ย่อมาจาก Opportunities เป็นการวิเคราะห์ปัจจัยภายนอกที่เอื้อประโยชน์หรือส่งเสริมการดำเนินงานของเรา และ T ย่อมาจาก Threats เป็นการวิเคราะห์ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลเสียหรือกระทบกับเราในทางลบ
ขั้นตอนที่ 3 การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลของปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อนำมาใช้ในการกำหนดทางเลือก ข้อมูลที่ได้มาต้องมีเพียงพอและครอบคลุมทุกด้าน เพราะอาจทำให้เราสร้างทางเลือกหรือตัดสินใจผิดพลาดได้ และหากเราหาข้อมูลให้เพียงพอและครอบคลุมทุกด้านแล้ว เราอาจจะพบว่ามีทางแก้ปัญหานั้น ๆ อยู่ในข้อมูลเหล่านั้น หรืออาจพบว่าไม่มีปัญหาเกิดขึ้นก็ได้เนื่องจากมีผู้อื่นหรือหน่วยงานอื่นได้ดำเนินการในสิ่งที่เราคิดว่าเป็นปัญหาสำเร็จไปแล้ว
ขั้นตอนที่ 4 การสร้างทางเลือกหรือระบุทางเลือกเพื่อหาวิธีแก้ปัญหาที่เป็นไปได้
ขั้นตอนที่ 5 การเลือกวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด โดยมองให้รอบด้าน หาผลดี ผลเสียและผลกระทบของแต่ละทางเลือก แล้วตัดออกทีละทางเลือกจนเหลือทางเลือกสุดท้ายที่คิดว่าดีที่สุด ซึ่งทางเลือกที่ดีที่สุดที่เคยใช้ได้ผลดีในอดีต อาจไม่เหมาะที่จะนำมาใช้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันก็ได้ เนื่องจากในปัจจุบันสภาพแวดล้อม และปัจจัยอื่น ๆ จะต่างไปจากอดีตที่ผ่านมา
ขั้นตอนที่ 6 การนำทางออกที่เลือกไว้ไปปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหา โดยอาจมีการวางแผนการแก้ปัญหาไว้ล่วงหน้าเพื่อจะได้ควบคุมสิ่งต่าง ๆ ไม่ให้ผิดพลาดได้
ขั้นตอนที่ 7 การติดตามและประเมินผลการแก้ไขปัญหาว่าได้ผลลัพธ์เป็นอย่างไร
ขั้นตอนที่ 8 การป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดขึ้น ทั้งปัญหาเดิมที่แก้ไขไปแล้ว และปัญหาใหม่ที่คาดว่าอาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
บางครั้ง การแก้ไขปัญหาก็ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป อาจมีข้อจำกัดต่าง ๆ เช่น มีเวลาที่ใช้ในการแก้ปัญหาจำกัด งบประมาณที่จะนำมาแก้ปัญหามีจำกัด บุคลากรที่จะมาดำเนินการแก้ปัญหามีจำนวนจำกัด หรือความรู้ความสามารถของบุคลากรที่จะมาดำเนินการแก้ปัญหามีจำกัด ดังนั้นหากเราต้องเป็นผู้แก้ปัญหาให้สำเร็จลุล่วง เราจะต้องใช้คิด ความพยายาม ดำเนินการตามขั้นตอนของการแก้ปัญหาข้างต้นอย่างรัดกุมและรวดเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าอันจะส่งผลให้เกิดความเสียหายขึ้นได้
การจะเป็นผู้แก้ปัญหาที่ดีได้นั้น จะต้องมีการฝึกฝน หมั่นศึกษา ค้นคว้า หาความรู้ หมั่นตั้งคำถาม ฝึกวิเคราะห์ปัญหา ในการแก้ปัญหาแต่ละครั้งจะต้องไม่ใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล มีความยืดหยุ่น ต้องทบทวนปัญหา จัดเรียงความคิด ทบทวนตัวเอง ใช้สติให้มาก ๆ มีทัศนคติเชิงบวก มองโลกในแง่ดี เป็นผู้มีความคิดนอกกรอบบ้างและบางครั้งจะต้องรู้จักปล่อยวาง หยุดนิ่ง เพื่อจะได้ทบทวนในสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น หรือถอยหลังสักก้าวเพื่อออกมาให้พ้นสิ่งที่เราเผชิญอยู่ แล้วมองกลับเข้าไป เราอาจจะพบวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดก็เป็นไปได้ สิ่งสำคัญคือ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นอย่าท้อแท้ เบื่อหน่าย อย่าหยุดคิดแก้ปัญหา อย่าหาทางออกด้วยการหนีปัญหาหรือโยนปัญหาไปให้ผู้อื่นเป็นผู้แก้ไข หากเราจนแต้มหาทางออกไม่ได้จริง ๆ เราอาจจะต้องมีผู้ช่วย ทีมงาน ผู้เกี่ยวข้องกับปัญหา หรือผู้บังคับบัญชา ร่วมกันคิดแก้ไขปัญหาด้วยก็ได้ 😆
บรรณานุกรม
ยุดา รักไทย และธนิกานต์ มาฆะศิรานนท์. (2549). เทคนิคการแก้ปัญหาและตัดสินใจ. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ : เอ็กซเปอร์เน็ท.
ศิริพร ศรุตาพร. (2554). คู่มือวิเคราะห์ปัญหาอย่างเป็นระบบ ไขปัญหาด้วยสมองอัจฉริยะ!. กรุงเทพฯ : เบสบุ๊ค.
ฮิกกิ้นส์, เจมส์ เอ็ม. (2554). 101 เทคนิคการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ = Creative Problem Solving Techniques. แปลโดย วิทยา สุหฤทดำรง และ ธนะศักดิ์ พึ่งฮั้ว. กรุงเทพฯ : อี. ไอ. สแควร์ พับลิชชิ่ง.
5 ขั้นตอนช่วยให้คุณเป็น “นักคิด นักพัฒนา และนักแก้ปัญหา” ที่เก่งได้. (2560). [ออนไลน์]. จาก https://www.sumrej.com/5-%E0%. วันที่ค้นข้อมูล 9 มกราคม 2561.