โอกาสที่รอมานานเกือบ 10 ปี
ผมเป็นคนชอบร้องเพลง แม้จะไม่เข้าท่าร้องผิดจังหวะ เนื้อร้องตก ๆ หล่น ๆ ไปแต่ก็ชอบจะขึ้นไปร้องเพลงเสมอเมื่อมีงานสัมมนาบุคลากร
ปกติผมจะขึ้นไปร้องเพลงในงานสัมมนาบุคลากรของหอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ เรียกว่าเป็นขาประจำเพราะถือโอกาสจากการเป็นพิธีกรกับพิธีกรคู่ขวัญคือน้องเกศินี ในเมื่อมือถือไมค์อยู่แล้วผมจึงไม่พลาดที่จะร้องเพลง เพลงโปรดประจำตัวของผมคือ “บัวแล้งน้ำ” ท่อนเนื้อเพลงที่ผมชอบคือ “นึกฝันแต่ความยิ่งใหญ่ หลงลืมว่าเคยเป็นใคร สุดท้ายก็ บัวแล้งน้ำ” ความหมายของเพลงนี้ผมอยากร้องเพื่อให้สติคนที่ทำหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่เพียงใดขออย่าได้ลืมตนเอง แต่ผมร้องทีไรก็ล่มทุกที ร้องได้ดีแต่คำว่า “สุดท้ายก็บัวแล้งน้ำ” แต่ก็ไม่ท้อถอยที่จะร้องครับ เพลงนี้เนื้อหาดีมากมีความหมายในตัวทุกอย่าง สำหรับผมคิดว่า “บัวแล้งน้ำ” น่าจะหมายถึง ความไม่มีน้ำใจของคนบางคน เหมือนบัวที่แห้งแล้งเพราะขาดน้ำ ดูไม่สวยสดงดงามเหมือนคนที่ไม่มีน้ำใจให้กันมันดูไม่ดีเลยนะครับ และสุดท้ายก็ต้องแห้งตายกันไปหมดเหมือนกันนะครับ
เนื้อเพลงเต็มบางส่วนมีดังนี้ครับ
“คนเราต้องมีหัวใจ ต้องมีเลือดเนื้อข้างในต้องมีความดีคู่กาย ต้องมีความหมายในตัวเอง อดีตที่เคยผ่านมาเราคงต้องผ่านพ้นไป จะดีหรือเลวอย่างไรขึ้นอยู่กับใจเราเอง กระเสือกกระสนดิ้นรนกันไป ก่อนเคยเลวร้ายก็ลืมให้ลง มีเพียงพรุ่งนี้เรื่องเก่าเก่าก็ปลง ด้วยใจ ซื่อตรงเราคงได้ดี ถ้าบัวไม่มีรากใบคงมองไม่สวยเท่าไหร่ ถ้าบัวแล้งน้ำแห้งตายไม่เหลือความหมายให้ชวนมอง คนเราก็คงเหมือนกันนึกฝันแต่ความยิ่งใหญ่หลงลืมว่าเคยเป็นใคร สุดท้ายก็บัวแล้งน้ำ”
มีงานสัมมนาของหอสมุดพระราชวังสนามจันทร์เมื่อไรผมต้องร้องเพลงทุกที แถมไม่ร้องเพลงเดียว ยังร้องเพลงอื่น ๆ ต่ออีกสองสามเพลง โดยไม่สนใจว่าใครจะชอบหรือฟังเสียงร้องเพลงของผมได้หรือไม่ น้องบางคนบอกว่าต้องรีบแย่งไมค์พี่บูรณ์มาไว้ก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวแกร้องเพลงอีก 😀 😆 😀
จุดที่ทำให้ผมเลิกร้องเพลงในงานสัมมนาบุคลากรเนื่องจากคุณแม่ขอร้อง (พี่นก) มาบอกว่าอย่าร้องเลย ท่านผู้บริหารในอดีตท่านหนึ่งบอกว่า สมบูรณ์นี่ช่างทำไปได้ ทำแบบนี้มันร้องไล่แขกกันนี่หว่า
ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ผมก็เลิกขึ้นร้องเพลงหน้าเวทีในงานสัมมนาบุคลากรของหอสมุดพระราชวังสนามจันทร์มาเป็นเวลาเกือบร่วม 10 ปีแล้ว
ครั้งนี้ในงานสัมมนาบุคลากรของสำนักหอสมุดกลาง วันที่ 4 มกราคม 2561 ณ ดี วารี ดีวา นาน่า แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี มีบุคลากรมารวมกันทั้ง 3 วิทยาเขตคือ ท่าพระ สนามจันทร์ เพชรบุรี รวมสำนักงานเลขานุการ และงานจดหมายเหตุ ผมได้รับโอกาสยิ่งใหญ่นี้อีกครั้งหนึ่ง เมื่อท่านผู้อำนวยการสำนักหอสมุดกลาง ผศ.ดร.ศักดิพันธ์ ตันวิมลรัตน์ กล่าวว่าใครได้รับรางวัลสร้อยคอทองคำต้องขึ้นมาร้องเพลง
ผมไม่รอช้ารีบไปหาดีเจทันที กะจะขอเพลงบัวแล้งน้ำ แต่ความที่เป็นเพลงเก่า ดีเจหาเนื้อร้องให้ไม่ได้ ผมจึงเลือกเพลงใหม่เป็นเพลง “บัวลอย” เพราะกะเอาจังหวะมัน ๆ ร้องผิดร้องถูกคงไม่กระไรเพราะจังหวะของเพลงนี้มันมาก เนื้อหาก็ดี ก็ดำน้ำไปร้องทันบ้างไม่ทันบ้าง มีน้อง ๆ ข้างล่างช่วยร้องด้วย ผมรู้สึกว่าเวทีนี้ช่างมีความหมายกับผมเหลือเกิน ได้ยินเสียงโห่ร้อง จะเป็นเสียงโห่ไล่หรือเปล่าผมไม่สนใจเท่าไรนัก แต่คิดเข้าข้างตัวเองว่าทุกคนในงานสัมมนาครั้งนี้คงมีความสุขไปด้วย เพราะหาคนร้องผิดเนื้อหา ผิดจังหวะหายากนะครับ เพราะส่วนใหญ่จะร้องเพลงกันเพราะ ๆ และร้องถูกทำนองกันน่าฟังอยู่แล้ว มีแบบผิด ๆ มาคั่นเวลาบ้างสักหนึ่งเพลงคงไม่ว่ากัน คิดเข้าข้างตัวเองแบบเชิงบวกไว้ ส่วนพี่นกส่งคลิปที่อัดไว้ไปให้ญาติพี่น้องในกลุ่มไลน์ชาว V-R Family ดูเขาให้คะแนนผมเต็มสิบกันหมดเลยนะครับ
ความดีใจของผมนอกเหนือจากการได้รับโชคจากการจับสลากให้ได้รับรางวัลสร้อยคอทองคำที่ท่านผู้อำนวยการสำนักหอสมุดกลาง เชิญภรรยาผมไปจับรางวัลและผู้โชคดีกลายเป็นผมนั้น ความดีใจอีกอย่างของผมคือการได้ขึ้นเวทีร้องเพลงนี่เอง
ขอขอบพระคุณท่านผู้อำนวยการสำนักหอสมุดกลาง ผศ.ดร.ศักดิพันธ์ ตันวิมลรัตน์ มากครับที่ให้โอกาส
ขอบคุณภาพบุคลากร จากสำนักหอสมุดกลาง