ทัศนคติเชิงบวกกับการทำงานยุคอาเซียน
จากการเรียนออนไลน์ วิชาทัศนคติเชิงบวกกับการทำงานยุคอาเซียน สามารถนำความรู้ที่ได้มาปรับใช้กับตัวเองได้บ้าง ทำให้มีทัศนคติเชิงบวกและมีมุมมองที่กว้างขึ้น และพัฒนาตัวเองในด้านต่าง ๆ เพิ่มขึ้น
ทัศนคติเชิงบวก ในความหมายของ นโปเลียน ฮิลล์ หมายถึง สภาวะที่มั่นใจ ซื้อสัตย์ และสร้างสรรค์ ซึ่งแต่ละบุคคลได้สร้างขึ้นและรักษาไว้ด้วยวิธีการที่เขาเป็นผู้เลือกเองให้เป็นไปตามแรงปรารถนา โดยขึ้นอยู่กับการประยุกต์ใช้ของตนเอง เมื่อเรามีทัศนคติเชิงบวก เราจะมีความสุขกับตนเองและกับผู้อื่น เราจะมีความนับถือตนเอง มีความรู้สึกดี ๆ ประสบแต่เรื่องดี ๆ และห่างไกลจากเรื่องร้าย ๆ ทัศนคติเชิงบวกสอนให้เราคิด และทำอย่างสร้างสรรค์ เราสามารถใช้มันเพื่อทำตามความปรารถนาของเราให้เป็นความจริงได้
กรอบความคิดเชิงลบสามารถกัดกร่อนพลังในการทำงานของเรา รวมทั้งคนรอบข้างของเราด้วย บั่นทอนความมั่นใจ ทำลายความคิดสร้างสรรค์และทักษะในการคิดแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ซึ่งแทรกแซงความสามารถในการแสวงหาโอกาสของเรา และทำให้เราไม่มีความสุข ใช้อารมณ์ไปอย่างสิ้นเปลืองและบั่นทอนศักยภาพของเรา
การสร้างทัศนคติที่ดีกับการทำงาน การสร้างนิสัยแบบใหม่ทางอารมณ์ เราต้องเตรียมตัวและดำเนินการในเรื่องเหล่านี้ เช่น
– หลีกเลี่ยงการพูดในแง่ลบ ใช้คำพูดในแง่บวก คำพูดที่สร้างความรู้สึกเชิงบวก คำพูดของเรามีผลต่อความรู้สึกที่ต่างกัน เช่น น่าเบื่อ กับคำพูดว่า ดูแล้วมีอะไรที่น่าศึกษา ยาก กับคำพูดว่า ท้าทาย ผิดพลาด กับคำพูดว่าประสบการณ์ที่ได้รับ เราทำไม่ได้ กับคำพูดว่า เราต้องทำได้ เรื่องซ้ำ ๆ กับคำพูดว่า จะเกิดเป็นความชำนาญ เราสามารถเปลี่ยนภาษาในแง่ลบโดยใช้คำพูดในแง่บวกแทนก็จะสร้างความรู้สึกในเชิงบวก
– หลีกเลี่ยงการเข้าไปสู่สภาวะอารมณ์เชิงลบของคนอื่น ๆ เช่น เขาโมโหมา เราไม่ต้องโมโหตอบ
เขาหงุดหงิดมา เราไม่ต้องหงุดหงิดตอบ เขาต่อว่ามาเราไม่ต้องคิดต่อว่าเขาตอบ เราไม่ต้องมีอารมณ์ร่วม การที่เราเข้าไปอยู่ในอารมณ์เชิงลบอยู่เรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเกิดจากตัวเราเอง หรือเกิดจากผู้อื่นก็จะทำให้ไม่เกิดผลดีกับตัวเราแน่นอน
– ทำให้พวกเขารู้สึกดีขึ้นด้วยอารมณ์เชิงบวกของเรา เช่น เราสามารถปลอบใจเพื่อน ๆ ได้ แต่เราต้องมีทัศนคติเชิงบวกก่อน เราก็จะสามารถช่วยคนอื่นได้ เมื่อคนเครียดคุยกับคนเครียดก็จะเครียดยิ่งกว่า เราต้องหลีกเลี่ยงที่จะไปอยู่ในสภาวะอารมณ์เชิงลบ
– หลีกเลี่ยงการซึมซับข่าวสารทางลบ รับรู้ข้อมูล ข่าวสารทางบวกแทน
– เรียนรู้ที่จะทำตัวให้สบายเมื่อต้องอยู่ในที่อึดอัดใจ
– เปลี่ยนจุดด้อยของเราให้เป็นจุดเด่น
หลุมพรางทางความคิดเชิงลบเกี่ยวกับการทำงาน
– มองการทำงานเป็นความเครียดไม่ใช่เรื่องท้าทาย
– ไม่กล้าเผชิญ ท้าทายกับปัญหาและอุปสรรคที่พบเจอ
– จินตนาการความกลัวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ
– กังวลกับผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นมากเกินไป
– หลีกเลี่ยงงานยากเพราะไม่อยากลำบาก
– มองผู้อื่นในเชิงลบกับสิ่งที่เราไม่ชอบ
– ยึดถือแนวความคิดของตัวเองเป็นหลัก
เทคนิคการเอาชนะหลุมพราง
– การให้นิยามกับสถานการณ์ใหม่
– การสร้างคำถามสร้างพลังเชิงบวก
– ปรับเปลี่ยนความคิดกับเหตุการณ์ใหม่
– ยอมรับในการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับทัศนคติของตัวเรา
คุณสมบัติที่ดีของการเป็นนักคิดเชิงบวกต้องพัฒนาและประยุกต์ใช้ดังนี้
1. การมีเป้าหมายที่ชัดเจน
2. การมีวินัยในการทำงาน
3. การมีความคิดสร้างสรรค์
การเตรียมตัวเพื่อการทำงานยุคอาเซียนเราต้องพัฒนาตัวเองในด้านต่าง ๆ เช่น ภาษาอังกฤษ ความรู้ใหม่ ๆ ที่ต้องไขว่คว้าหาความรู้ ฝึกจับใจความสำคัญของเรื่อง ฝึกวิเคราะห์ ในเรื่องต่าง ๆ มองความซับซ้อน ความยากเป็นเรื่องท้าทายที่เราต้องนำมาประยุกต์ใช้ ทัศนะการเปลี่ยนแปลงดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับทัศนคติของตัวเราเอง AEC จะเกิดขึ้นแน่ ๆ อยู่ที่เรามอง เราจะต้องยอมรับกับการเปลี่ยนแปลง ดีหรือไม่ดีอยู่ที่เราคิด อยู่ที่เรามองว่าเป็นอุปสรรคหรือโอกาส