เที่ยวญี่ปุ่น ฮอกไกโด (2)
วันที่สามของการไปเที่ยวญี่ปุ่น มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจดังนี้
เมื่อกินอาหารเช้าเสร็จแล้ว พวกเราได้เดินออกมาเที่ยวชม 1. ด้านหน้าและด้านข้างของโรงแรม คิโรโร รีสอร์ท สิ่งหนึ่งที่ไม่พลาดคือการตามรอยดาราในภาพยนตร์เรื่อง แฟนเดย์ ที่นี่มีสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ด้วยเป็นฉากกลางคืนที่โรแมนติกมากแต่พวกเรามาดูกันตอนเช้าเลยได้ภาพคนละแบบกัน
จากนั้นเดินทางไปเที่ยวที่เมืองโอตารุ ซึ่งจุดสำคัญที่นักท่องเที่ยวมาชมกันมากมายคือ 2. คลองโอตารุ เป็นคลองเล็ก ๆ มีความยาว 1.5 กิโลเมตร มีตึกโกดังเก่าแก่ตั้งเรียงรายอยู่ริมคลองอีกด้านหนึ่งสวยงามดูคลาสสิคมาก ส่วนอีกฝั่งทำเป็นทางเดินริมน้ำ มีเสาไฟสไตล์ยุโรปเรียงรายไปตลอดแนวคลอง
3. พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี ที่นี่จะมีการรวบรวมกล่องดนตรีหลากหลายแบบ ตั้งอยู่ในอาคารเก่าแก่สไตล์ยุโรป ด้านหน้าจะมีนาฬิกาไอน้ำที่จะมีเสียงเพลงดังออกมาพร้อมพ่นไอน้ำทุก ๆ 15 นาทีตึกนี้สร้างขึ้นจากอิฐแดง ส่วนด้านในจะเห็นเป็นโครงสร้างไม้ มีการวางเรียงกล่องดนตรีต่าง ๆ ไว้อย่างสวยงาม สามารถเลือกซื้อได้มีหลายราคา
4. ตึกแดงหรือทำเนียบเก่ารัฐบาลฮอกไกโด มีความสวยงามของอาคารที่สร้างด้วยอิฐสีแดงทั้งหลังสไตล์นีโอบาร็อคอเมริกา ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมสำคัญของชาติเมื่อปี พ.ศ.2512 และยังใช้รับรองแขกเมืองที่มาเยือนอยู่
5. ศาลเจ้าฮอกไกโด เดิมชื่อศาลเจ้าซับโปโร ทางเข้ามีเสาใหญ่ ๆ 2 เสา เรียกว่าโทริอิ ให้รู้ว่าเป็นทางเข้าและทางออกวัด ศาลเจ้ามีบ่อน้ำเป็นจุดชำระล้างจิตใจ บ่อน้ำมีกระบวยให้เอามือขวาตักน้ำ ล้างมือซ้าย ล้างมือขวา รินน้ำใส่อุ้งมือใช้บ้วนปาก แล้วตั้งกระบวยขึ้น เวลาอมน้ำให้บ้วนทิ้งเลยไม่ต้องทำเสียงบ้วนปากดังๆ เวลาเดินเข้าไปในศาลเจ้ามีประตูซ้ายขวา ให้โค้งคำนับก่อนแล้วเดินเข้าด้านซ้าย เวลาออกก็ออกด้านซ้ายเหมือนกันแล้วโค้งคำนับอีกครั้ง สามารถขอพรได้ในเรื่องการเดินทาง สุขภาพ และความรัก
เงินทำบุญที่ไม่มากหรือน้อยเกินไปคือเหรียญ 5 เยน ที่มีรูตรงกลาง ไม่มีตัวเลข ความเชื่อเหรียญ 5 เป็นเหรียญนำโชค เหรียญ 10 ความหมายไกลออกไป ให้นำเหรียญ 1 เยน หรือเหรียญอื่นได้ ใส่ทำบุญคู่กันไปกับเหรียญ 10 จึงจะดีไม่ให้ใช้เหรียญ 10 อันเดียว
เครื่องราง แขวนกระเป๋าเงินได้ ถ้าไว้ที่บ้านให้ไว้ที่หยิบได้ง่าย เมื่อครบ 1 ปี ต้องเอาไปทิ้งเปลี่ยนอันใหม่ไป
6. ซับโปโร ย่านการค้าที่ให้พวกเราได้เที่ยวชมสินค้า และมื้อเย็นเลือกรับประทานอาหารตามอัธยาศัย พวกเราได้ทดลองกินราเมงที่บอกว่าเป็นร้านขึ้นชื่อซึ่งก็อร่อยสมคำบอกแนะนำจริง
กลับไปพักที่โรงแรม คิโรโร รีสอร์ท เหมือนเดิม
วันที่สี่ของการเดินทางท่องเที่ยว
การไปเที่ยวฮอกไกโดครั้งนี้เป้าหมายคือการไปชมความสวยงามของทุ่งลาเวนเดอร์ที่ขึ้นชื่อของฮอกไกโด พวกเราออกจากโรงแรมที่พักประมาณแปดโมงเช้า เดินทางไปเมืองฟุราโน เพื่อไปชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่ โทมิตะฟาร์ม ไกด์เล่าว่าคุณโทมิตะมีความคิดแปลกว่าชาวสวนในละแวกใกล้เคียง คือแทนที่จะปลูกพืชผักเหมือนครอบครัวอื่น ๆ เขากลับหันมาปลูกต้นลาเวนเดอร์แทนโดยนำต้นลาเวนเดอร์มาจากประเทศฝรั่งเศสมาปลูกและผลิตน้ำหอมส่งไปขายต่างประเทศด้วย แต่ก็มีช่วงซบเซาแต่เขาไม่ย่อท้อ สิ่งที่ทำให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งในญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ เกิดจากการที่การการรถไฟญี่ปุ่นเลือกภาพท้องทุ่งลาเวนเดอร์ของฟาร์มโทมิตะเป็นหนึ่งในภาพปฏิทินประจำปีของการรถไฟ ทำให้คนที่เห็นความสวยงามของทุ่งลาเวนเดอร์อยากมาเที่ยว มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นจำนวนมากจนเป็นที่รู้จักมาทุกวันนี้ ช่วงดอกไม้บานคือช่วงปลายเดือนมิถุนายน – ต้นเดือนสิงหาคม
ดอกลาเวนเดอร์นี้ความหอมไม่ได้อยู่ที่ดอกแต่น้ำมันหอมระเหยมาจากใบ
ที่โทมิตะฟาร์ม นอกจากมีดอกลาเวนเดอร์ที่ขึ้นชื่อแล้วเขายังปลูกต้นไม้หลากสีอื่น ๆ ด้วย
ไอศครีมลาเวนเดอร์ถ้วยละ 250 เยน
หลังจากนั้นเราได้ไปเที่ยวที่เมืองบิเอะ ที่ชิกิไซโนะโอกะฟาร์ม มีเนิน 4 ฤดูแห่งดอกไม้หลากสี
คืนที่สี่พวกเราเข้าพักที่ APA Resort Hotel ที่พักนี้อยู่ในเมืองห้องพักแคบกว่าที่เดิมและอากาศยังมีกลิ่นของบุหรี่ตกค้างอยู่บ้าง
วันที่ห้า ตื่นเช้ามารับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมและเดินทางไปสนามบินเพื่อเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ