บรรยากาศในการพาลูกเข้าวัง ไปกราบสักการะ "พระบรมศพ"
เมื่อวันจันทร์ที่ 14 สิงหาคม 2560 เป็นวันหยุดชดเชยวันแม่แห่งชาติ ผู้เขียนจึงพาลูกชายไปกราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งผู้เขียนเคยไปแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนี้ใกล้จะถึงพระราชพิธีถวายพระเพลิงแล้ว จึงพาลูกชายซึ่งยังไม่เคยไป ไปกราบสักการะพระบรมศพ
บรรยากาศการเข้ากราบสักการะพระบรมศพ ในวันนี้ ผู้เขียนและลูกชายไปถึงสนามหลวงเวลาประมาณ 8.00 น. มีคนมากราบสักการะพระบรมศพจำนวนมาก มีทางเข้าเพียงด้านเดียวคือ ด้านโรงแรมรัตนโกสินทร์ จุดเริ่มต้นในการเข้าสู่กระบวนการไปกราบสักการะพระบรมศพ เริ่มจากเดินผ่านประตูที่มีเครื่องตรวจอาวุธ และเจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้ถือบัตรประชาชนไว้บริเวณหน้าอกตอนเดินผ่านเครื่องตรวจอาวุธ ผู้เขียนคาดว่าเพื่อเป็นการบันทึกภาพไว้ด้วย แล้วให้เดินตรงไปเรื่อย ๆ เดินมาได้สักระยะ เจ้าหน้าที่ให้ข้ามถนนไปยืนเข้าแถวข้างถนนฝั่งเดียวกับสนามหลวง โดยเข้าแถวตอนเรียงสี่ ใครมาด้วยกันให้ยืนแถวเดียวกันเพื่อจะได้เดินตามกันไปเรื่อย ๆ ไม่พลัดหลง ให้เว้นระยะห่างกันพอประมาณเพื่อให้มีลมผ่านได้จะได้ไม่เป็นลม ตอนนี้แดดเริ่มร้อน เจ้าหน้าที่ได้นำร่มมาแจกจ่ายให้กางกันแดด ตอนแรกผู้เขียนคิดว่าจะใช้ร่มที่เตรียมมาเองซึ่งมีสีน้ำเงินและขนาดกะทัดรัด แต่เมื่อเห็นคนส่วนใหญ่ใช้ร่มที่เจ้าหน้าที่นำมาให้ซึ่งเป็นร่มสีดำแบบเดียวกันหมด ดูเป็นระเบียบ ผู้เขียนจึงใช้ร่มที่เจ้าหน้าที่นำมาให้ ร่มมีน้ำหนักเบามาก ถือถนัดมือ จากที่ยืนอยู่ตรงนี้ซึ่งเป็นท้ายแถวและขยับเดินไปเรื่อย ๆ จนถึงทางเข้าเต๊นท์พิธีประมาณ 1 ชั่วโมง โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกอยู่ตลอดเวลา
เมื่อเดินไปถึงบริเวณทางเข้าเต๊นท์พิธี จะต้องเก็บร่วมไปไว้ในที่แขวนร่ม เจ้าหน้าที่จะให้น้ำดื่มคนละ 1 ขวด (ขวดไม่ใหญ่มาก เล็กกว่าขวดน้ำดื่มศิลปากร) และแจ้งว่าไม่มีขวดน้ำแจกอีกแล้ว เมื่อดื่มน้ำหมดให้นำขวดน้ำที่ได้รับแจกไปเติมน้ำดื่ม ซึ่งจัดไว้ให้เป็นระยะ ๆ มีทั้งน้ำเย็นและน้ำที่ไม่เย็น เมื่อผ่านจุดนี้ก็ต้องไปยืนเข้าแถวตอนเรียงสี่เหมือนเดิม แต่ยืนในเต๊นท์ จากจุดนี้และขยับเดินไปเรื่อย ๆ ตามที่เจ้าหน้าที่แจ้ง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ก็ให้เดินเข้าไปข้างในเพื่อไปนั่งเก้าอี้ภายในเต็นท์ หากรวมระยะทางจากถนนที่ยืนอยู่ท้ายแถวถึงเต็นท์ที่มีเก้าอี้ที่สามารถเข้าไปนั่งได้ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เป็นการยืนคอยที่นานพอดู ในเต็นท์ที่เข้าไปนั่ง มีพัดลมติดไว้เป็นระยะ ๆ ด้านขวามือเป็นบริเวณด้านในสนามหลวง มีเว้นที่ไว้สำหรับเป็นทางเดินด้านในโดยรอบสนามหลวง ทำให้อากาศถ่ายเท ไม่อึดอัด มีห้องน้ำไว้บริการ และมีที่กดน้ำดื่มเป็นระยะ ๆ
นั่งอยู่ตรงนี้ได้สักพัก ผู้เขียนสังเกตเห็นว่าไม่มีการขยับแถวเดินไปข้างหน้าอีก สอบถามเจ้าหน้าที่ได้ความว่าหยุดถวายเพลประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างรอ เจ้าหน้าที่ประกาศแจ้งว่าหากหิวให้ออกไปรับประทานอาหารได้ โดยต้องออกไปในจุดที่เจ้าหน้าที่กำหนดและไม่ให้นำอาหารเข้ามารับประทานข้างใน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะประทับตราที่ข้อมือหรือแขน เพื่อให้สามารถเข้ามาอยู่ในจุดเดิมได้ หากไม่ประทับตราจะต้องไปเริ่มต้นเข้าแถวตั้งแต่แรกใหม่ จุดที่รับประทานอาหารจะอยู่ใกล้กับจุดที่เข้ามาครั้งแรก ต้องเดินออกจากเต็นท์และข้ามถนนออกไป ผู้เขียนและลูกชายจึงตัดสินใจไปรับประทานอาหารก่อน คนที่นั่งเก้าอี้ยู่ใกล้กันบอกว่าเดี๋ยวจะกันเก้าอี้ไว้ให้ กลับมาจะได้มานั่งที่เดิม
บริเวณที่รับประทานอาหารจะมีทางเข้าอยู่ด้านหน้า เมื่อเดินเข้าไปแล้วสองข้างจะเป็นร้านหรือซุ้มอาหาร ให้มีของกินหลากหลาย ทั้งข้าว ก๋วยเตี๋ยว น้ำดื่ม ขนมหวาน รสชาติอร่อยดี ในบริเวณดังกล่าวไม่มีถังขยะ เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ต้องนำขยะมาทิ้งด้านนอก บริเวณที่ทิ้งขยะจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล 1 คน ให้ผู้ที่ต้องการทิ้งขยะทำการแยกขยะทิ้งลงในภาชนะแต่ละประเภทที่จัดไว้ให้ มีภาชนะสำหรับใส่เศษอาหาร ใส่ขยะที่เป็นโฟม ใส่ขยะที่เป็นพลาสติก ขยะที่เป็นขวดแก้ว และขยะอื่น ๆ เพื่อความสะดวกในการนำไปกำจัดและนำไปรีไซเคิล
เมื่อรับประทานอาหารเสร็จผู้เขียนและลูกชายกลับมาในบริเวณเต็นท์พิธี บริเวณที่เคยนั่งรอตอนนี้เจ้าหน้าที่ให้ออกมายืนเข้าแถว และขยับเดินไปข้างหน้าอีกเล็กน้อย ผู้เขียนและลูกชายจึงหาแถวตัวเองไม่เจอ คนที่เคยเข้าแถวและนั่งอยู่ใกล้กันเขาจำผู้เขียนได้ จึงเรียกให้มายืนเข้าแถวในตำแหน่งที่เคยอยู่
เดิน ๆ นั่ง ๆ ไปเรื่อย ๆ จนถึงที่นั่งบนถนนตรงข้ามประตูทางเข้าวัดพระศรีรัตนศาสดารามหรือที่เรียกกันว่าวัดพระแก้ว เจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะมีขบวนเสด็จต้องรอสักระยะจึงจะเข้ากราบสักการะพระบรมศพได้ และแจ้งว่าหากหิวให้เดินออกไปซื้อของกินได้ แต่ต้องมีการประทับตราที่ข้อมือหรือแขนจึงจะกลับเข้ามานั่งที่เดิมได้ จึงมีผู้ออกไปซื้อของกินหลายคนรวมทั้งลูกชายของผู้เขียนด้วย บริเวณที่ซื้อของกินคือตึกแถวด้านตรงข้ามกับวัดพระแก้ว ใกล้ทางเข้ามหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ
นั่งอยู่ตรงนี้ ได้นั่งด้านหน้า จึงมองเห็นบรรยากาศของนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากที่เข้ามาเที่ยววัดพระแก้ว มีหลายชนชาติ ทั้งยุโรปและเอเชีย นั่งอยู่สักพัก เจ้าหน้าที่เริ่มกันพื้นที่ไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินเพ่นพ่าน และไม่ให้เข้าไปในวัดพระแก้ว ให้ไปยืนรอรวมกันอยู่บนถนนบริเวณตึกแถวตรงข้ามกับวัดพระแก้ว รออยู่อีกสักพักก็เห็นขบวนเสด็จเข้าไปตรงประตูทางเข้าวัดพระแก้ว แล้วเจ้าหน้าที่ก็ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปในวัดพระแก้วได้
สักครู่ เจ้าหน้าที่ก็ได้ให้ผู้ที่นั่งรอเข้ากราบสักการะพระบรมศพลุกขึ้นยืนเข้าแถว เดินข้ามถนนไปเข้าประตูถัดจากประตูเข้าวัดพระแก้ว ระหว่างเดินเจ้าหน้าที่จะแจ้งว่าไม่ให้กางร่ม ไม่ให้ใส่หมวก ไม่ให้สะพายกระเป๋าโดยให้เอากระเป๋าคล้องไว้ที่แขน
เดิน ๆ หยุดยืนรอไปเรื่อย ๆ จนถึงด้านที่ติดกับวัดพระแก้ว ชาวต่างชาติคงสงสัยว่าเราทำอะไรกัน จึงมีชาวต่างชาติเข้ามาถามเป็นภาษาอังกฤษกับผู้หญิงอายุประมาณ 70 ปีแล้วที่ยืนเข้าแถวอยู่ข้างผู้เขียน เขาตอบชาวต่างชาติเป็นภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่วลูกชายจึงหันมากระซิบกับผู้เขียนว่าสงสัยเป็นอาจารย์ที่เกษียณอายุแล้ว
เมื่อเข้าไปถึงบริเวณที่จะกราบสักการะพระบรมศพ เจ้าหน้าที่ให้นำรองเท้าใส่ถุงพลาสติกแล้วถือไว้ แล้วเดินขึ้นไปกราบสักการะพระบรมศพ ระหว่างขึ้นไปกราบจะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกอยู่ด้านบน จัดให้นั่งกราบ คอยบอกให้กราบเพื่อจะได้กราบพร้อมกันเป็นระเบียบ หลังจากกราบเสร็จก็ลงมาใส่รองเท้าด้านล่างและนำถุงพลาสติกที่ใส่รองเท้าคืนให้เจ้าหน้าที่ แล้วเดินออกทางประตูด้านหลัง ระหว่างทางจะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก มีน้ำดื่มและขนมให้รับประทานด้วย ซึ่งผู้เขียนและลูกชายเดินพ้นประตูวังออกมาเวลา 16.00 น. พอดี
รวมเวลาตั้งแต่เริ่มจนถึงพ้นออกจากประตูพระบรมมหาราชวังรวม 8 ชั่วโมงพอดี เป็นการรอคอยที่ยาวนาน แต่ไม่ได้ยินใครปริปากบ่น ทุกคนอดทนรอคอยด้วยความจงรักภักดีที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 ผู้เขียนได้เห็นการแสดงถึงการมีน้ำใจและการเอื้ออาทรกันของผู้เข้าร่วมกราบสักการะพระบรมศพซึ่งไม่รู้จักกันมาก่อน ได้เห็นการเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นใครมาจากไหนก็ต้องมายืนรอเข้าแถวด้วยกัน ได้เห็นการบริหารจัดการของเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ประสานงานกันเป็นอย่างดีและอำนวยความสะดวกให้ตลอดการเดินทางเข้ากราบสักการะพระบรมศพ จึงขอแสดงความขอบคุณมานะที่นี้และจะจดจำบรรยากาศและสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นไว้อย่างมิรู้ลืม