คิดบวกชีวิตบวกเทคนิคคิดดีมีความสุข
การกระทำทุกอย่างไม่ว่าเล็กหรือใหญ่มีจุดเริ่มต้นมาจากความคิด ความคิดมีทั้งด้านดีและด้านร้าย นั่นก็คือความคิดเชิงบวกและความคิดเชิงลบ การคิดบวกคือการที่เราคิดในแง่ดี ไม่คิดในแง่ที่ทำร้ายตนเอง คนที่คิดบวกย่อมจะส่งผลจากจิตใจไปสู่ร่างกาย เป็นคนที่มีสุขภาพที่ดี เป็นคนที่มองโลกในแง่ดี หรือคนที่คิดบวกมักจะเป็นคนที่แข็งแรงกว่าคนที่มองโลกในแง่ร้าย การมองโลกในแง่ดีจะทำให้เรามีสติในการแก้ไขปัญหา ที่เกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล
จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ยืนยันว่าคนที่คิดเชิงบวกจะมีอายุยืนกว่าคนที่คิดในเชิงลบ เมื่อเราเป็นคนที่คิดดี่ก็ย่อมทำให้สิ่งต่าง ๆ ออกมาดี การคิดเชิงบวก หรือการมองโลกในแง่ดี มีหลักธรรมต่าง ๆ โดยมีพรหมวิหาร 4 คือ มีความเมตตาก็คือมีความรัก ความปรารถนาดี อยากให้สิ่งมีชีวิตทั้งหลายมีความสุขกันถ้วนหน้า มีความกรุณาก็คือมีความสงสาร อยากช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นจากความทุกข์ด้วย โดยช่วยเท่าที่เราช่วยได้ช่วยแล้วไม่ทำให้ตัวเอง และบุคคลอื่นเดือดร้อน มีอุเบกขา ก็คือความมีใจเป็นกลาง วางใจให้เกิดความสมดุลสม่ำเสมอ มีความเที่ยงตรงไม่เอนเอียงเพราะว่าตนชอบหรือเกลียด มีมุทิตา ก็คือมีความยินดีมีจิตใจแช่มชื่นเบิกบาน พลอยยินดีกับเพื่อนร่วมงาน หรือผู้อื่นเมื่อเขาได้ดี ทำให้เข้าใจและทราบแนวทางในการปฏิบัติของธรรมที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่มุ่งหวัง คืออิทธิบาท 4 ดังนี้
ฉันทะคือความพอใจ ความรักใคร่ เมื่อเรามีความพอใจรักใคร่แล้ว ก็จะเกิดความคิดเชิงบวก ไม่มีอารมณ์ตรงข้ามคือความโกรธเกลียด หากเรามีอารมณ์แบบนี้ก็จะมีแต่ความหวังดี อยากให้เขาได้ดี อยากให้เขามีความสุข และเมื่อเกิดกับตัวเราเองแล้ว ก็จะทำให้เรามีความสุข ความพอใจในตนเอง พอใจในสิ่งที่เรามี จึงไม่คิดอิจฉาใคร
วิริยะ คือความเพียรพยายาม เมื่อเรามีความเพียรพยายามแล้ว เราก็จะไม่รู้สึกว่าทนไม่ได้หรือทนไม่ไหว แม้มีอุปสรรคมามากมายก็ไม่คิดในแง่ลบว่าเราช่างโชคร้ายจริง
จิตตะ คือความเอาใจฝักใฝ่ ไม่ทอดทิ้ง ไม่เพิกเฉย เอามาเป็นธุระ เมื่อเรามีความเอาใจใส่ไม่ทอดทิ้ง หรือมีจิตตะแล้ว ก็จะเกิดความรู้สึกนึกถึงคนอื่น ไม่เอาแต่เห็นแก่ตัว อยากแบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้คนอื่น
วิมังสา คือการหมั่นตริตรอง พิจารณาถึงเหตุผล เมื่อเรามีวิมังสา หรือมีการพิจารณาถึงเหตุผลแล้ว เราก็จะไม่ได้เห็นแต่เปลือกนอก เราจะเข้าใจได้เห็นเนื้อแท้ว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เราพยายามทำความเข้าใจคิดถึงเหตุผลตามที่เป็นจริงก็จะทำให้เรามองคนในแง่บวกมากขึ้น
การนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาที่สอนให้เราคิดบวก หลักสำคัญพื้นฐานมีอยู่ 3 ประการ รับรองว่ามีแล้วจะทำให้เราคิดบวกมากขึ้น คือไม่ทำชั่ว แต่จะทำดี ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ถ้าทำได้ก็จะทำให้เรามีความสุข เป็นคนดีที่คิดบวกได้อย่างแท้จริง เมื่อบุคคลในองค์กรส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่มีความคิดเชิงบวก ก็จะทำให้องค์กรมีการพัฒนาไปในทางที่ดี นำความเจริญมาสู่องค์กรอย่างแน่นอน
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : น้ำเพียง เพียงบุญ. (2553). คิดบวกชีวิตบวกเทคนิคคิดดีมีความสุขพบความสำเร็จ. กรุงเทพฯ : Feel good.