ไปเที่ยวเวียดนาม

23 June 2017
Posted by Aree Piyarattanawat

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2556 ดิฉันและเพื่อนๆ จำนวน 4 ท่าน เดินทางจากนครปฐมไปถึงสนามบินดอนเมือง เวลา 7.30 น. เพื่อจะเดินทางไปยังนครโฮจิมินห์ประเทศเวียดนาม โดยสายการบินนกแอร์  การเดินทางจากดอนเมืองไปถึงนครโฮจิมินห์ใช้เวลาประมาณ  1 ชั่วโมง 20 นาที  พวกเรานัดเที่ยวแบบไปกันเองหรือที่เรียกกันว่า backpack แบกเป้กันไป โดยไปเที่ยวเองหาข้อมูลเองไม่ได้ไปกับทัวร์
วันแรก  พวกเราเข้าสู่ที่พักชื่อโรงแรมโคซี่ อยู่ใจกลางเมืองพอดี บรรยากาศเมืองโฮจิมินห์ที่ดิฉันเห็นเป็นเมืองที่ต้องดิ้นรน ทำมาหากิน มีคนมากมายขับขี่รถจักรยานยนต์แทนการเดิน ส่วนใหญ่การเดินทางข้ามถนนไม่ค่อยจะได้เพราะต้องใช้ทางม้าลายเป็นหลัก อาหารการกินก็จะมีรสชาติจืดๆ ไม่เผ็ดเหมือนกับบ้านเรา แต่จะใช้มะนาวเป็นเครื่องปรุงแทน น้ำจิ้มหลักๆ จะเป็นน้ำซีอิ้วนำมีมะนาวเป็นเครื่องเคียง ที่นครโฮจิมินห์มีให้บริการทัวร์กับชาวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ มีโรงแรมมากมายถูกๆ ไม่แพงข้างหลังบ้านจะมีการต่อเติมที่พักอาศัย การต่อเติมห้องเพื่อทำเป็นโรงแรมนั่นเอง ในช่วงกลางคืนเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นที่บนท้องถนน มีคนขับรถรถจักรยานยนต์คันหนึ่งได้กระชากกระเป๋าของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ชาวต่างชาติคนนั้นวิ่งตามสุดชีวิตเลยแต่ก็ตามรถรถจักรยานยนต์ของชาวเวียดนามนั้นไม่ทัน  ดังนั้นคนที่ไปเที่ยวต้องระมัดระวังตัวกันหน่อย
วันที่สอง  พวกเราเตรียมตัวที่จะไปต่อยังเมือง Da Lat เป็นเมืองๆ หนึ่งที่น่าจับตามองมาก นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมันจะไปที่นั่น เพราะบรรยากาศหนาวเป็นธรรมชาติมาก ไม่นึกว่าจะหนาวจึงไม่ได้เตรียมตัวเอาเสื้อกันหนาวมาเลย เมื่อเข้าที่พักได้เดินเที่ยวตามใกล้ ๆ กับโรงแรม มีร้านค้าขายมากมาย เช่น ผลไม้ ผักที่ปลูกโดยชาวบ้าน ของที่ระลึก ของกินเล่นประเภทข้าวโพดย่าง มันเผา เป็นต้น  ชาวบ้านนำมาขายราคาไม่แพงมาก นักท่องเที่ยวชาวไทยมาเที่ยวที่นี่เยอะมาก อากาศจะหนาวพอ ๆ กับเชียงใหม่ เชียงรายของไทยเรา คล้ายๆ กับถนนคนเดิน
วันที่สาม  พวกเราก็เตรียมตัวที่จะเก็บของแบกกระเป๋าจากโรงแรม Da Lat เพื่อเดินทางต่อ พร้อมขึ้นรถที่หน้าโรงแรม เส้นทางที่จะไปคือหมุยเน่ Muine เป็นเมืองตากอากาศทางชายฝั่งทะเลของประเทศเวียดนาม อยู่ทางทิศใต้ ซึ่งมองดูคล้าย ๆ กับทะเลชะอำบ้านเรา เดินทางเที่ยวต่อยัง Fairy Stream คือเป็นธารน้ำไหลไม่หยุด หาดทรายนุ่มนิ่มเท้า มีชาวต่างชาติมาเที่ยว จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เป็นรูปแบบเนินทรายสีแดง ดูแปลกตาดี หลังจากนั้นเข้าที่พัก
วันที่สี่  เดินทางต่อไปยัง Bau Trang คือภูเขาทรายขาว ทะเลทรายที่หมุยเน่ Muine นี้เป็นธรรมชาติที่ไม่ได้แต่งเติมอะไรทั้งสิ้น ไม่น่าเชื่อจะมีทะเลทรายสีขาว จ้างค่ารถแพงมาก มาถึงแล้วก็ต้องไป ที่ใกล้ ๆ กับทะเลทรายขาว มีสุสานของชาวเวียดนามแปลกๆ ทำเป็นกล่องสีสันสดใส เรียงๆกันมากมายดูแปลกตาดี ออกจากทะเลทรายก็ไปยังหมู่บ้านประมง โดยนั่งเรือกะมัง ดูวิถีของชาวประมงหาปลา
วันที่ห้า   เดินทางกลับถึงนครโฮจิมินห์ พวกเราได้แลกสตางค์เพื่อซื้อของฝาก เราจะไปซื้อของฝากกันที่ตลาด ตลาดนี้เรียกกันว่า Ben thanh (เบ๊นถั่ญ) เป็นศูนย์กลางการค้าของชาวเวียดนาม มีของที่ระลึกให้เราซื้อ มีทั้งของคนจีน ของไทยเราก็มีขายด้วยนะ พวกเราซื้อหมวกเจ๊กคนละใบสองใบเอาไว้เป็นที่ระลึกกัน
การไปเที่ยวในครั้งนี้ได้เห็นวิถีชีวิตของชาวเวียดนาม ไม่ว่าจะเรื่องความเป็นอยู่ หรือการทำมาหากิน การสัญจรไปมาโดยการใช้รถจักรยานยนต์ที่หนาแน่นมาก แต่ก็ยังคงความเป็นธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์และแท้จริง จึงอยากชวนเชิญพี่ๆ น้องๆ ชาวหอสมุดฯ ว่างๆ ก็ไปด้วยกันอีกครั้งคงสนุกแน่ๆ
        

Leave a Reply

Tags

blog CONSAL KPI PULINET การจัดการความรู้ การดูแลสุขภาพ การทำงาน การท่องเที่ยว การบริการ การปฏิบัติงานล่วงเวลา การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาตนเอง การพัฒนาบุคลากร การลงรายการ การศึกษาดูงาน การอ่าน การเรียนออนไลน์ กิจกรรมสำหรับเด็ก กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมห้องสมุด ความสุข ค่ายห้องสมุด งานบริการ ธรรมะ นวนิยาย นักเขียน บรรณารักษ์ บริการชุมชน ประกันคุณภาพ ภาพถ่าย ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ วัด วันสำคัญ วารสาร สัมมนา สุขภาพ หนังสือ หนังสือบริจาค หนังสือและการอ่าน หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ห้องสมุด ห้องสมุด 24 ชั่วโมง อาหาร