“ช่วยลุงทำสวน” ภาค 1
ถ้าพวกเรายังจำกันได้ ผมเคยเขียนเรื่องราวที่มีชื่อเรื่อง คล้ายๆกันกับเรื่องนี้ คือเรื่อง “ช่วยป้าทำสวน” ป้าที่กล่าวถึงก็คือ “ป้าจันทร์ทอน” ซึ่งเกษียณอายุไปแล้ว ป้ามีหน้าที่ดูแลสวนหย่อม ต้นไม้ใบหญ้า ของหอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ หลังจากที่ป้าไม่อยู่แล้วคราวนี้ถึงตาลุงบ้างล่ะ ลุงมานิตย์ คู่หู คู่ชีวิตของป้าจันทร์ อาสามารับหน้าที่แทน ด้วยฝีไม้ลายมือที่เชื่อใจได้ว่าไม่น้อยหน้าป้าจันทร์ ติดตรงที่ว่าสุขภาพของลุงไม่ค่อยดีนัก ผ่าตัดทำบายพาสเส้นเลือดที่หัวใจมา แต่ใจสู้เกินร้อยยืนยันว่างานนี้ทำได้ เป็นงานที่ตัวเองชอบและมีทักษะในเรื่องนี้ ซึ่งพวกเราเองก็ยอมรับในฝีมือ แต่กังวลในเรื่องสุขภาพร่างกายมากกว่า พวกเราจึงตกลงกันว่าให้ลุงได้ทำในสิ่งที่รัก ตามที่ต้องการ ซึ่งเป็นช่วงเวลาปีกว่าๆก่อนที่ลุงจะเกษียณไปในปีหน้า โดยของร้องลุงว่า อย่าหักโหม มีอะไรเหลือบ่ากว่าแรงให้บอกลูกๆหลานๆช่วยกัน ทุกคนเต็มใจและยินดีช่วยลุง
ก่อนที่ลุงจะเข้ารับหน้าที่ใหม่ พวกเราจึงช่วยกันลุย ช่วยกันเตรียมพื้นที่ จัดการต้นไม้ใบหญ้าให้อยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุด เพื่อส่งมอบหน้าที่ใหม่ให้ลุง งานนี้ต้องขอบคุณ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวหอสมุดทุกคนที่ร่วมแรงร่วมใจกัน ทำให้งานสำเร็จไปได้ด้วยดี…..ขอบคุณและขอบคุณ
One thought on ““ช่วยลุงทำสวน” ภาค 1”
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
ภาพความร่วมแรงร่วมใจของพี่ๆ น้องๆ ชาวหอสมุดฯ สนามจันทร์ เป็นภาพที่เห็นเมื่อไรก็ชื่นใจ
โดยเฉพาะบุคคลต้นเรื่อง “ลุงนิตย์” “พี่นิตย์” ของน้องๆ ที่ยังคงอยู
ซึ่งแน่นอน พี่ๆ ที่จะเอ่ยเรียกสรรพนามอื่นย่อมหมดตัวด้วยเกษียณสิ้นแล้วขณะนี้
ส่วน “เฮียนิตย์” สรรพนามที่ข้าพเจ้ามักเคยคุ้นเรียกขานด้วยนับถือ “ใจ” ของเฮียและป้าจันทร์จากใจ
หากย้อนเวลากลับไปเมื่อข้าพเจ้ายังปฏิบัติงานในฝ่ายวิเคราะห์ ในปีแรกที่เราเริ่มต้นงาน “ทับแก้ว บุ๊คแฟร์”
เปรียบเหมือนเด็กหัดเดิน “พวกเรา” ก้าวไปด้วยจุดหมายเดียวกัน คือ “งาน”
และที่สำคัญ คือ “ทีมงาน” ซึ่งพี่ๆ น้องๆ ทุกคนในหอสมุดฯ ต่างมีส่วนร่วมด้วย ช่วยกัน
ทั้งในเบื้องหน้า เบื้องหลัง เบื้องต้น (…แรมเดือน) และเบื้องปลาย
มากบ้าง น้อยบ้าง ตามแต่ภาระกิจอันเกี่ยวข้อง ตลอดจนศักยภาพเฉพาะตนของแต่ละบุคคล
บ้างช่วยคิด บ้างช่วยแรง บ้างให้กำลังใจ
ในครั้งนั้นวันที่เราต่างอ่อนล้าในวันท้ายๆ ของงานที่ทุกคน “เต็มที่” กับงานตรงหน้า
ประกอบกับวัยและสุขภาพของเฮียนิตย์ และป้าจันทร์ ซึ่งแม้วันนั้นยังไม่ล่วงโรยเทียบเท่าวันนี้
แต่ความเหนื่อยล้าที่สะสมยังปรากฏให้เห็น แม้จะกลับบ้านไปอาบน้ำอาบท่ากินข้าวปลาเติมพลัง
เพื่อกลับมาทำหน้าที่อีกครั้งในยามดึกทุกวัน ก็ยังมีถ้อยคำของเฮียนิตย์ ที่ข้าพเจ้าจดจำมาจนวันนี้
เมื่อไถ่ถามด้วยห่วงใยเฮียกับป้า เฮียบอกว่า “ไม่เป็นไร”…”งานของเรา”
……….
ขอบคุณค่ะเฮีย และน้องๆ ทีมงานทุกคน
โดยเฉพาะเจ้าของโพสต์ผู้เป็นขุนพลที่มีส่วนสำคัญ
ทั้งช่วยเติมเต็มในรายละเอียดให้เกิดความสมบูรณ์ในเนื้องาน
ทั้งเป็นแม่เหล็กดึงดูดรวมใจน้องๆ เป็นหนึ่งเดียวในการทำงาน
และทั้งนี้ ทั้งนั้น คำขอบคุณของข้าพเจ้าจะส่งไปไม่ถึงทุกคนได้เลย หากไร้ซึ่ง “ใจ” ที่สัมผัสกัน