ทัวร์ญี่ปุ่นด้วยตนเอง (2)
หลังจากการเดินทางตอนแรกผ่านไปยังไม่จบนะไปเที่ยวกันต่อ ซึ่งเมืองนี้สวยมากใครๆไปญี่ปุ่นต้องไปที่นี่นั่นคือ การไปเที่ยวชมภูเขาไฟฟูจิ สวยมากๆ ได้ไปเจอคนไทยที่นั่นมากมายเขาไปกันเป็นครอบครัวน่ารักดี ก่อนจะเล่าถึงความงามของภูเขาฟูจิ ขอพูดถึงการเดินทางก่อนเราได้เดินทางจาก Shinjuku นั่งรถไฟฟ้ามาลงที่ Kawaguchiko
จากนั้นเราก็นั่งรถบัสไปชมภูเขาไฟใกล้ๆ ผู้คนเยอะมาก ทุกคนได้ถ่ายรูปกันตามใจชอบ นั่งกระเช้าขึ้นไปยังจุดชมวิวเพื่อจะชมภูเขาฟูจิ และลงมาจากจุดชมวิวก็นั่งเรือชมทะเลสาบชมภูเขาฟูจิได้อีก เมื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติรอบผู้เขาไฟฟูจิแล้ว ก็นั่งรถกลับรอรถบัสกลับที่เดิม แต่รถนานๆ มาสักคันหนึ่งแต่คนก็เต็มคันรถเลย จึงเดินไปเลื่อยๆ แต่ยังไงก็ต้องนั่งรถกลับอยู่ดีเพราะมันไกลมากเดินไม่ไหว และแล้วก็ได้กลับโดยรถบัส (คันนี้มีคนไม่มาก) ได้หาที่พักบริเวณใกล้ Kawaguchiko station รอสักพักใหญ่ก็มีรถจากโรงแรมมารับ ซึ่งโรงแรมอยู่ไม่ไกลใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็ถึงที่พัก เป็นโรงแรมที่นอนกับพื้นรวมกัน และเห็นฟูจิพอดิบพอดี มีแม่บ้านมาอธิบายและปูที่นอนให้ ใครจะใส่ชุดกิโมโนก็ได้ ใส่รองเท้าที่เขาจัดให้ เราได้รับประทานอาหารเช้า-เย็นที่โรงแรมนี้เพราะบริเวณนี้ไม่มีร้านอาหารเลย อาหารอร่อยมากมีพนักงานมาเสริฟและอธิบายอาหารการกิน ดูแลอย่างดี ตื่นเช้ามาเห็นก็เห็นฟูจิอยู่ตรงหน้า
ในวันรุ่งขึ้นเราก็กลับมาที่เดิมคือ Kawaguchiko station (รถของโรงแรมมาส่ง) เราจะนั่งรถไฟไปเที่ยวที่ เจดีย์ชูเรโตะ (Chureito Pagoda) นั่งรถไฟประมาณ 10 นาทีก็ถึง (งานนี้พี่สาวไม่ไปเลยให้เฝ้ากระเป๋าที่สถานี) ที่ไม่ไปเพราะมันต้องเดินขึ้นเขา (ไม่ไหว) เป็นทางลาดคดไปมาขึ้สูงไปเลยๆ แต่ก็มีบันไดขึ้นเหมือนกันถ้าใครเดินไม่ไหว คนญี่ปุ่นผู้สูงวัยมาออกกำลังกายกันโดยเดินแหว่งแขนกัน เหนื่อยก็พัก มีที่พักระหว่างทาง เราเดินไปจนถึงจนได้ เจดีย์เป็นเจดีย์ห้าชั้นอยู่บนเนินเขาและเห็นภูเขาฟูจิได้อย่างชัดเจน มีจุดชมวิว และกลับมาเที่ยวชมสะพาน โทเง็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) สะพานนี้มีความสวยงามมากแต่ไม่ทราบว่าความยาวเท่าไร ด้านหลังเป็นภูเขาสูงใหญ่ไล่เรียงกันไป ด้านล่างเป็นแม่น้ำ
สถานที่อีกแห่งหนึ่งที่ผู้คนนิยมไปมากและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวคือ Fushimi Inari Shrine เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงภาพเจ้าของอุโมงค์ซุ้มประตูสีแดงมีเสากว่าหมื่นเสาที่เรียงตัวทอดยาวขึ้นไปบนยอดเขาความยาว 4 กิโลเมตร มีผู้คนเดินผ่านกันไปตลอด ถ้าจะถ่ายรูปแบบไม่มีผู้คนต้องรอจังหวะว่างๆซึ่งก็นานมาก วันสุดท้ายก่อนกลับมานอนที่ Osaka เพื่อที่ตอนเช้าจะมาเที่ยวชม Osaka castle ใครที่มาเมืองนี้อดไม่ได้ที่จะแวะมาชม รอบปราสาทรายล้อมด้วยสวนสาธารณะที่ใหญ่มากนับว่ามีคุณค่าทางประวัติศาสตร์แล้วยังเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย จบแล้วนะ มีหลายสถานที่ที่ได้แวะเวียนไปโดยไม่มีในโปรแกรม อาจจะเป็นทางผ่านเพราะเราใช้การเดินเป็นหลักดูนั่นดูนี่หิวก็แวะกิน ขอบอกเลยว่าอาหารการกินที่ญี่ปุ่นอร่อยใช้ได้เลยคะ แต่ต้องเดินถึงจะได้กิน เดินจนงง