เสน่ห์ "ชมพูพันธุ์ทิพย์"
“ชมพูพันธุ์ทิพย์” ชื่อวิทยาศาสตร์ Tabebuia rosea (Bertol.) DC. ชื่อสามัญ Pink Tacoma, New world trumpet tree ชื่อพื้นถิ่น ชมพูพันธุ์ทิพย์ ทรงพุ่ม แผ่กว้างโดยประมาณ 8-12 เมตร ความสูงโดยประมาณ 8-15 เมตร ลำต้น สีน้ำตาล ใบเป็นใบประกอบรูปนิ้วมือ สีเขียว ผลัดใบ ดอก ออกเป็นช่อแบบกระจุกที่ปลายกิ่ง สีชมพู ชมพูอ่อน หรือสีขาว ช่วงเวลาที่ออกดอกเดือน กุมภาพันธ์-เมษายน ผล เป็นฝักแห้ง ภายในมีเมล็ด (ข้อมูลจากหนังสือ ไม้ใหญ่ ดอกงาม หน้า 63 เลขเรียก QK495.A1 ย72)
ผมได้เดินทางมาชมความงามของดอกชมพูพันธุ์ทิพย์หรือซากุระเมืองไทยติดต่อกัน 2 ปีมาแล้ว ก่อนหน้านี้ทำไมถึงตกข่าวก็ไม่ทราบได้ และในปีนี้ผมได้ไปชมความงามของดอกชมพูพันธุ์ทิพย์เมื่อตอนบ่ายแก่ ๆ ของวันที่ 8 เมษายน 2560 เมื่อมาถึงก็พบว่าในปีนี้ ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน ได้มีการพัฒนาการเที่ยวชมดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างสมบูรณ์แบบขึ้นเพื่อบริการนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ เริ่มจากทางเข้ามามหาวิทยาลัยฯ จะมีป้ายชื่องานว่า “เทศกาลชมพูพันธุ์ทิพย์บานสะพรั่งที่กำแพงแสน” และมีป้ายดอกไม้พร้อมลูกศรชี้บอกทางการไปชมดอกไม้เป็นระยะ ๆ ตั้งแต่หน้าประตูมหาวิทยาลัย ไปจนถึงถนนสายเสถียรสวัสดิ์ ทำให้ผู้ที่มาเที่ยวชมไม่หลงทางและไม่ต้องสอบถามยามหรือผู้ที่ผ่านไปมาให้เสียเวลา
สิ่งพิเศษอีกอย่างหนึ่งก็คือ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ได้จัดรถรางบริการนักท่องเที่ยวนั่งชมความงามของดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ ฟรี ผู้นั่งสามารถขอลงตรงไหนของเส้นทางตลอดแนวความยาวประมาณ 2 กม. ได้ตามความพอใจ โดยรถรางให้บริการระหว่างเวลา 7.00 น. – 17.00 น.
เมื่อเห็นดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ก็รู้สึกผิดหวังนิดหน่อยเพราะออกดอกไม่เต็มมากทุก ๆ ต้นเหมือนสองปีที่แล้ว สอบถามจากเจ้าหน้าที่ที่ขับรถรางก็บอกว่า ดอกไม้เริ่มบานตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 60 และเริ่มร่วงไปแล้ว แต่จะบานอีกครั้งในสัปดาห์หน้าช่วงวันสงกรานต์
ต่อมาเมื่อวันที่ 16 เม.ย. 60 ผมได้พาหลานชายซึ่งเรียนที่ ม.เกษตร กำแพงแสนมาส่ง และพบว่าดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ออกดอกเต็มทุกต้นสวยงามมาก แต่ด้วยความเร่งรีบเพราะจะต้องไปส่งหลานสาวอีกคนหนึ่งกลับหอพักที่ ม.มหิดล ศาลายา ทำให้มีเวลาชื่นชมไม่จุใจนัก ดังนั้นวันรุ่งขึ้น 17 เม.ย 60 ผมจึงชวนภรรยาไปเที่ยวชมดอกไม้กันใหม่พร้อมกับชวนพี่เรณูไปด้วยกัน วันนี้ดอกไม้ร่วงหล่นเยอะมากทำให้ดอกบนต้นบางตาลงแต่ยังคงสวยงาม มีคนมาเที่ยวชมกันมากมายเหมือนเดิม บางคนก็มาถ่ายรูปด้วยชุดแต่งงาน แต่สองวันหลังที่ไปเที่ยวชมดอกไม้ไม่เห็นมีรถรางบริการนำชมแล้ว
สำหรับผู้ที่ต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับดอกชมพูพันธุ์ทิพย์นั้น ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน ได้จัดทำป้ายให้ข้อมูลติดตั้งไว้บริเวณริมถนนทางที่จะเข้าชมดอกไม้ให้ผู้มาเที่ยวได้ทราบข้อมูล ผมจึงขอนำข้อมูลมาเผยแพร่ต่อเพื่อให้ผู้อื่นได้ทราบด้วยดังนี้
ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ มีช่วงการออกดอกคือเดือน กุมภาพันธ์ – เมษายน
เป็นไม้ยืนต้น ผลัดใบ สูง 8-25 เมตร ดอกสีชมพูสด สีชมพูอ่อน ใบเป็นใบประกอบแบบนิ้วมือ มี 5 ใบย่อย ใบรี โคนใบแหลม ปลายใบเรียว ดอกออกเป็นช่อกระจุกตามกิ่ง กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายกลีบแยกเป็น 5 กลีบ ชอบความชื้นปานกลาง ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด ตอนกิ่ง
ประวัติการปลูกต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ ในพื้นที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เป็นแนวคิดของท่าน ดร.วัฒนา เสถียรสวัสดิ์ ที่ต้องการให้ถนนทุกสายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน มีต้นไม้สายพันธุ์ต่าง ๆ เมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน 2520 ของเส้นทางสายถนนวัฒนา เสถียรสวัสดิ์
มารยาทในการชมดอกไม้นั้นทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ก็มีป้ายติดตั้งไว้ ให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติตาม เพื่อที่เราทุกคนจะได้ชมความงดงามของธรรมชาติร่วมกัน และมีภาพประทับใจเหมือนกันทุกคน
รวมทั้งมีถังขยะลายดอกชมพูพันธุ์ทิพย์สีชมพูน่ารักตั้งเรียงรายตลอด 2 ข้างทาง
ผมตั้งใจว่า เสาร์อาทิตย์ไหนว่างๆ จะไปชมความงามดอกชมพูพันธุ์ทิพย์อีกสักครั้ง 2 ครั้ง