เมื่อปลายเดือน ธ.ค. 2559 ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นกับครอบครัว ตอนแรกไม่อยากไปทั้งที่ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายเองเลย แต่พอได้ไปแล้วก็ดีหรือบางคนอาจจะติดใจแดนปลาดิบก็ได้ เราไปกันเองไม่ได้ไปกับทัวร์ แต่ต้องหาข้อมูลก่อนนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทาง โรงแรม สถานที่ และอื่นๆ สิ่งที่จะใช้ในการเดินทางคือข้อมูลแหล่งที่ต้องการจะไป เช่น แผนที่ ป้ายบอกทางต่างๆ โทรศัพท์มือถือ ภาษา (ภาษาที่บางแหล่งใช้บ้าง)
เราไปแบบสบายๆ ไม่เน้นกิน ไม่เน้นช็อป เราเดินทางวันที่ 21 ธ.ค ขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 9.30 น. ถึงสนามบินที่เมืองเซียงไฮ้ เวลา 14.30 น. (ไม่ได้บินตรงไปนาริตะที่เดียว) เรามาต่อเครื่องที่เซี่ยงไฮ้ (ประหยัดแต่เสียเวลา) แต่พอมาถึงต้องรอเวลาขึ้นเครื่องประมาณ 5 โมง ขณะรอลมฟ้าอากาศไม่ดีมีฝนตก ทำให้ขึ้นเครื่องช้าไปเป็นชั่วโมงเลย ถึงสนามบินที่เมือง Nagoya (ญี่ปุ่น) ตอนประมาณ 5 ทุ่ม ทำให้ต้องนอนที่สนามบินเพราะโรงแรมที่จองไว้ปิดแล้ว แต่นอนสบายสถานที่สะอาดมาก
พอประมาณตี 3 ก็มีเจ้าหน้าที่มาทำความสะอาดแล้ว เราก็หลับๆ ตื่นๆ ไป เวลาตี 5 ตื่นขึ้นแปรงฟันล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนเสื้อผ้า หาเครื่องดื่มที่อยู่ในตู้มีทั้งนั้นจะเอาอะไร ไม่ว่าจะเป็น กาแฟ น้ำชา (พออุ่นๆ) แล้วก็ออกเดินทางโดยใช้รถไฟฟ้าก่อนที่จะไปไหนต้องหาตู้เก็บสัมภาระก่อน เป็นตู้หยอดเหรียญ 600 เยน บ้าง 500 เยนบ้าง แล้วแต่ตู้เล็กใหญ่ แหม กว่าจะหาเจอเล่นเสียเหนื่อยเหมือนบ้านนอกเข้ากรุงเลย
เรามาซื้อบัตรรถไฟกันคนละใบ ถ้าหมดก็เติมทีละ 1000 เยน ที่ซื้อเพราะต้องใช้บริการรถไฟฟ้าตลอดการเดินทาง  แต่ผู้คนมากมายจริงๆ เดินกันเร็วมาก ขี้นรถไฟลงรถไฟรูดบัตรออกประตูกัน   good moning ที่ Nagoya  หนาวมากๆ ได้ไปเที่ยวชมปราสาท Nagoya  เป็นปราสาทที่สวยงามมากหลังหนึ่ง มีลักษณะหลังคาเป็นสีเขียวผสมกับตัวปราสาทที่เป็นสีขาว สูงเป็นชั้นๆ  วันรุ่งขี้นนั่งรถบัสไปที่เมือง Takayama  เป็นเมืองเก่าๆที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้อย่างดี  ในตอนเช้ามีของขายข้างทางเล็กน้อย  สะพานสีแดงเป็นมุมที่ผู้คนชอบมาถ่ายภาพกัน
      
จาก Takayama  นั้งรถบัสไปหมู่บ้าน Shirakawa-go  เป็นหมู่บ้านได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก มีความเป็นอยู่มี่เรียบง่าย มีทั้งการปลูกข้าว เป็นร้านค้าขายเล็กๆนับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากเมืองหนึ่งทีเดียว

ได้มานอนเมือง  shinjuku  1 คืน  ก่อนจะได้พักผ่อนก็ต้องไปดูแสงสีกันหน่อยว่าจะเป็นเหมือนกรุงเทพฯราตรีหรือไม่   เมืองนี้เป็นเขตธุรกิจหนึ่งในโตเกียว มีสถานีรถไฟที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดและเป็นย่านที่วัยรุ่นและนักท่องเทียวชอบมาเที่ยวชมแสงสีในยามค่ำคืน มีของขายมากมาย
มาญี่ปุ่นทั้งทีก็ต้องมาไหว้พระที่วัดเซนโซจิ (Sensiji) หรือวัดอะซะกุสะ  เป็นวัดที่คนรู้จักกันมาที่สุด
ในโตเกียว ผู้คนเยอะมากมีของขายตลอดสองข้างทางที่เข้าวัดและถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึกที่โคมแดงก่อนเข้าวัด   เข้าไปในวัดจะพบกระถางธูปขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางแจ้ง เมื่อบูชาแล้วนำไปปักที่กระถางและทุกคนก็จะโบกควันธูปเข้าหาตัวเพราะเชื่อกันว่าจะทำให้โชคดี เราก็ทำตามบ้างโบกควันเข้าหาตัวเพื่อจะโชคดีกับเขาบ้าง  และนับว่าคนญี่ปุ่นยังรักษาวัฒนธรรมไว้อย่างดี เช่น รถลาก (ที่ใช้คนลาก) หรือการแต่งกิโมโน     ยังไม่จบนะคะติดตามตอนต่อไป